คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคปัจจุบันมีคนใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอยู่ค่อน ข้างมาก โดยทุกคนมักพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลาเช่นเดียวกับกระเป๋าตังค์เลยที เดียว ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ก็มีความสามารถหลาย ๆ อย่างที่สามารถใช้งานแทนคอมพิวเตอร์ได้ และแน่นอนว่าสิ่งไม่พึงประสงค์อย่างไวรัสหรือมัลแวร์ที่มีคอมพิวเตอร์ ก็ย่อมมีบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเช่นกัน และมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียด้วยสิ

          ไวรัส, มัลแวร์ หรือภัยคุกคามทั้งหลายที่สามารถก่อความเสียหายให้กับอุปกรณ์รวมทั้งขโมย ข้อมูลสำคัญ ๆ อย่างเช่นบัญชีธนาคารได้นั้น มีโอกาสแพร่กระจายและเข้าฝัง ตัวในเครื่องเราได้ตลอดเวลาที่มีการเชื่อมต่อและใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบสาธารณะ (Public) ที่มีความปลอดภัยค่อนข้างต่ำ ซึ่งผู้ใช้ทุกคนควรระมัดระวังและหาหนทางป้องกันภัยคุกคามเหล่านี้ไม่ให้เข้า มาสู่อุปกรณ์ของเราได้ เนื่องจากสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตนั้น มักมีข้อมูลที่สำคัญ ๆ ของผู้ใช้อยู่มากมายไม่แพ้คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กเลยทีเดียว กระปุกดอทคอมจึงได้นำวิธีป้องกันภัยคุกคามบนอุปกรณ์พกพาเหล่านี้จากเว็บไซต์ mylifescoop มาแนะนำกัน

1. ติดตั้งแอพพลิเคชั่นรักษาความปลอดภัย

         บนเครื่องคอมพิวเตอร์แทบทุกเครื่องล้วนมีการติดตั้งโปรแกรมประเภท Antivirus ทั้งนั้น แต่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่ติดตั้งมันลงบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตด้วย ล่ะ... จริงไหม? ซึ่งแอพฯ ประเภทรักษาความปลอดภัยคุณภาพสูงนั้นก็มีให้เลือกใช้หลากหลายบริการ ไม่ว่าจะเป็น Symantec, McAfee, Trend Micro หรือ Webroot ที่มีอัตราค่าบริการที่เดือนละ $30 หรือประมาณ 900 บาทต่อเดือน แต่หากต้องการหาแอพฯ ที่ฟรีหรือราคาถูกกว่านี้ก็ยังมีให้เลือกใช้อีกมากมายเช่นกัน

2. อย่ากดลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่รู้จัก

          อย่ากดลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์ที่มากับอีเมลเด็ดขาด นอกจากจะมั่นใจจริง ๆ ว่าอีเมลนั้นไม่ใช่อีเมลที่มีความอันตรายใด ๆ รวมทั้งข้อความที่ได้รับจากช่องทางต่าง ๆ ก็เช่นเดียวกัน

3. ล็อกเครื่องด้วยรหัสผ่าน และเปิด GPS เอาไว้

          ควรตั้งรหัสผ่านในการปลดล็อกเครื่อง พร้อมทั้งเปิดสัญญาณ GPS หรือลงแอพฯ ตามหาเครื่องเอาไว้ เพื่อที่เวลาหายหรือถูกขโมยจะได้ติดตามตำแหน่งที่เครื่องนี้อยู่และตามไปเอา คืนได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

4. อย่าเผลอลืมหรือวางอุปกรณ์ทิ้งไว้

          หากคุณเผลอลืมวางสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตทิ้งไว้ อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีแอบมาขโมยหรือหยิบไปดูข้อมูลสำคัญ ๆ ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นจึงควรเก็บไว้กับตัวตลอดเวลา หรือหาวางไว้ที่ใดก็ไม่ควรปล่อยให้คลาดสายตานานจนเกินไป

5. ระมัดระวังในการใช้ Wi-Fi สาธารณะ

          ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Wi-Fi สาธารณะนั้น ไม่ใช่ว่าไม่ควรใช้งานเลย แต่สามารถใช้งานได้ โดยจะต้องมีความระมัดระวังไม่เข้าใช้ระบบที่มีความสำคัญสูง อย่างเช่น การใช้งานธนาคารออนไลน์ หรือสั่งซื้อสินค้าแบบออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต เนื่องจากมิจฉาชีพสามารถแอบลักลอบดูข้อมูลที่เรากรอกขณะใช้งาน Wi-Fi สาธารณะได้ ดังนั้นจึงควรใช้งานเฉพาะกับเว็บไซต์ทั่วไปที่ไม่ต้องกรอกข้อมูลสำคัญ ๆ เท่านั้น

          อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรวิตกกังวลหรือหวาดกลัวกับภัยคุกคามเหล่านี้มากเกินไปจนไม่กล้าใช้ งานอินเทอร์เน็ตเลย เพราะจริง ๆ แล้วโอกาสที่จะพบเจอเช่นนี้มีค่อนข้างน้อย เพียงแต่ระมัดระวังป้องกันและใช้งานอย่างไม่ประมาท เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้อุปกรณ์และข้อมูลของเราปลอดภัยหายห่วงแล้วล่ะจ้า

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม