สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะยังคงไม่สามารถกลับไปบ้านได้ โดยหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะก็ได้รับความเสียหายและเกิดวิกฤตกัมมันตรังสีรั่วไหลตามมา โดยสถิติของรัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า นับจนถึงเดือนมกราคมปี 2558 ที่ผ่านมา ยังมีประชาชนราว 229,000 คน ยังไม่สามารถกลับบ้านได้

ทั้งนี้ มิตซูโกะ โควาตะ ซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งดังกล่าวไป 19 กิโลเมตร ต้องย้ายไปอยู่บ้านพักชั่วคราวในเมืองมินามิโซมะ และตอนนี้เธอยอมแพ้แล้วสำหรับความคิดที่จะกลับไปอยู่บ้าน เธอ เปิดเผยว่า บ้านของเธอรกร้างและมีสัตว์อย่างหนูยึดเป็นที่อาศัยไปแล้ว แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นเคยให้คำมั่นว่าจะเคลียร์พื้นที่ภัยพิบัตินิวเคลียร์ให้แล้วเสร็จในปี 2559 แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันนี้ก็ทำให้เธอคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้

ขณะที่ ผู้ประสบภัยบางคนก็ยังคงมีความหวังว่า สักวันหนึ่งพวกเขาจะได้กลับไปอยู่บ้านอีกครั้ง อย่างนายโคอิชิ เนโมโตะ ซึ่งทุกวันนี้ในตอนกลางวันเขามักจะกลับไปดูแลที่ดินของเขาในหมู่บ้านที่ห่างจากโรงไฟฟ้าไปราว 13 กิโลเมตรและกลับมาอยู่ที่บ้านพักชั่วคราวในเวลากลางคืน

อย่างไรก็ตาม ทางการสั่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 20 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นับตั้งแต่มีการตรวจพบการรั่วไหลของรังสีเมื่อเดือนมีนาคม 2554 พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะเคลียร์พื้นที่ภัยพิบัตินิวเคลียร์ให้แล้วเสร็จในปี 2559 โดยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนพบว่า ร้อยละ 70 ของประชาชนในจังหวัดฟูกุชิมะ ไม่พอใจการรับมือกับวิกฤตนิวเคลียร์ของรัฐบาล

ขอขอบคุณที่มา  http://www.springnews.co.th/