เมื่อเวลา 11.30 วันที่ 15 มี.ค. ที่ สน.สายไหม การ์ตูน-นันท์ฐณิชา ศิริปรีดาวัชร์ (อินทิรา เกตุวรสุนทร) และ เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ นักแสดง และเจ้าของธุรกิจความงาม บริษัท ชาร์มมิ่งเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด เข้าพบพ.ต.อ.จตุรภัทร แช่มลำเจียก พงส.ผทค.สน.สายไหม เพื่อติดตามความคืบหน้า คดีถูกตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฉ้อโกง ซึ่งเบื้องต้นของคดีความอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐาน เพื่อส่งสำนวนให้อัยการดำเนินการส่งฟ้องศาลอาญาในระดับต่อไป

 เชียร์ เผยว่า “วันนี้เป็นในส่วนของการมาติดตามผลของคดีความ ที่เราได้แจ้งดำเนินคดีเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน ต้องบอกว่าคดีที่เรามาแจ้งเป็นคดีฉ้อโกง เกิดขึ้นจากเซลล์ที่ทำงานกับบริษัท ชาเม่ เขาได้ทุจริต ซึ่งจริงๆ เราได้ให้โอกาส ให้ความอะลุ่มอลวยและเวลาเขามานานแล้ว วันนี้จึงต้องมาติดตามผลเพราะเราให้เวลามามากพอแล้ว ความเสียหายถ้าเอาเป็นมูลค่าที่เราสามารถนับเป็นตัวเลขได้ก็เกิน 5 ล้านบาทแล้ว แต่มูลค่าที่ได้รับผลกระทบ มีผลต่อกิจการของชาเม่ ก็น่าจะเกือบ 10 ล้านบาทได้”

 การ์ตูน กล่าวว่า “เรารู้ว่าเขาโกงตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว จึงรื้อเอกสารต่างๆ ที่ทางเซลล์ไปเก็บเงินมาโดยที่ไม่ได้ชำระผ่านเข้ามาในบริษัท ก็ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ด้วยปีที่แล้วชาเม่ขยายตัวเยอะมากอย่างที่ทราบกัน ทำให้มีช่องว่างในการทุจริตได้ เราพยามทำให้มันรัดกุมมากที่สุดแล้ว แต่กว่าเราจะรู้ข้อผิดพลาด หรือช่องโหว่ที่มันเกิดขึ้นมันต้องใช้เวลาพอสมควรค่ะ”

 ผู้สื่อข่าวถามว่า เขาเริ่มโกงมานานหรือยัง การ์ตูน กล่าวว่า “3 เดือน เซลล์คนนี้เขาดูแลรายย่อยที่ไม่ได้ผ่านบริษัทโดยตรง เขาจะมีสิทธิมีวงเงินในการขายของเขาอยู่ พอเรารู้ก็ระงับไม่ให้ขาย แต่ที่เหนือความคาดหมายคือยังมีการร่วมมือกับเซลล์ท่านอื่นอีก โดยการเอาสิทธิในการขายของคนอื่นไปขายเพิ่ม จึงทำให้ยอดเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ได้ทำคนเดียว เราอยากทำธุรกิจให้มันก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เราให้โอกาสเขาและเชื่อคำพูดเขาด้วย เพราะเขาบอกว่าจะหาเงินมาชำระ เราไม่อยากให้มาถึงขั้นตอนตรงนี้ แต่ที่มาถึงตรงนี้เพราะมันไม่เป็นไปตามที่เขาตกลงไว้ ถ้าเราได้รับเงินค่าเสียหายในส่วนที่เขาเอาไป ไม่ได้ติดใจหรือเอาความถึงขั้นนี้เลย เราอยากให้เงินคืนอย่างเดียวเลย เราทำธุรกิจด้วยแรงด้วยใจทีมชาเม่ทุกคนเหนื่อย ทั้งลงทุนลงแรง เราสร้างกันมาแล้วมาให้คนเพียงคนเดียวหรือกลุ่มเดียวมาใช้ประโยชน์ตรงนี้มันไม่ยุติธรรม”

 เชียร์ กล่าวเสริมว่า “ตอนนี้ที่เราแจ้งเป็นคดีความ ดำเนินคดีเซลล์คนนี้คนเดียว แต่ตอนนี้ด้วยหลักฐานที่มี สืบเจอว่าน่าจะมีการทำเป็นขบวนการ อย่างที่บอกเราได้มีการเจรจา มีการให้โอกาสก่อนจะมาถึงวันนี้ เราไม่อยากจะทำให้มันเป็นคดีความขึ้นศาลเลย ซึ่งได้คุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคดีถึงขั้นตอนการส่งฟ้องกันแล้ว ก็อยู่ในช่วงดำเนินคดี ก็รอให้เป็นในรูปแบบของการดำเนินการต่อไป โดยทางเรายังติดต่อคู่กรณีได้อยู่แต่คำพูดที่มีการผลัดผ่อนมันสวนทางกับการกระทำ ถ้าความพยายามที่มีมันแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงค์ที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องจริงๆ ก็จะไม่มีวันนี้เลย เราจึงต้องมาทำให้ถูกต้อง เพราะเราไม่อยากให้ทุกคนต้องมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้

 อยากเป็นอุทาหรณ์เตือนให้ใครก็ตามที่ทำธุรกิจ เราทำชาเม่มาเป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่เคยมีปัญหาเลย แต่ด้วยปีที่ผ่านมาต้องยอมรับจริงๆ ว่าเราเติบโตแบบก้าวกระโดดมันทำให้เราต้องรัดกุมให้มากที่สุด แต่มันก็ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน จากนี้ข้อผิดพลาดหลายๆ อย่างมันก็เป็นบทเรียนสอนเรา เราไม่ได้อยากให้มีข้อผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ก็ต้องรัดกุมและระวังให้มากขึ้นไป

 ถามว่าเหตุการณ์การครั้งนี้ทำให้การทำธุรกิจของเราสะดุดไปด้วยไหม แน่นอนว่ามีการสะดุด แต่ว่าไม่ได้กระทบกับภาพรวมทั้งหมดขอชาเม่นะ ชาเม่เราก็ยังต้องดำเนินต่อไป นี่เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของชาเม่เท่านั้นเอง มันไม่ได้ส่งผลขนาดทำให้ชาเม่แย่ทั้งหมด ชาเม่มีการจำหน่ายหลลายช่อทางมาก ในส่วนของทางเครือข่ายลูกค้ามันมีผลกระทบ เพราะมันขาดความเชื่อมั่นไปแล้ว เป็นเหตุให้เราต้องมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด การไกล่เกลี่ยหรืออะไรก็แล้วแต่เรา ก็ต้องเด็ดขาดกันแล้วค่ะ”

ที่มา  ข่าวสดออนไลน์