′ซารังเฮ′ ปิ้งย่างเกาหลี ′กระทะชีส′ โดย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ
2015-05-02 20:21:57
Advertisement
คลิก!!!

 

เห็นชื่อปั๊บ มิตรรักแฟนคอลัมน์นี้คงเดาได้ทันทีว่าผมจะพาไป "ชิมชิล-ชิล" อาหารเกาหลี แหม...ก็ต้องตามยุคนิยมหน่อยครับ กระแสเกาหลียังไม่ตก วัยรุ่นยังเฮ วัยอย่างเราย่อมต้อง "ตามไปดู"

หากถามกันตรงๆ ผมไม่ได้สัมผัสความเป็น "เกาหลี" ในมิติต่างๆ มากนัก ซีรีส์ไม่ได้ดู "แด จัง กึม" ก็เรียกว่า "ผ่านตา" ไปเกาหลีทีไรไม่ได้เที่ยว ได้แต่ทำงาน เห็นห้องนอนกับห้องประชุมเป็นหลัก จริงอยู่ "เจ้าภาพ" จะพาไปทานร้านอาหารดีๆ แต่เพราะเป็นเรื่องงาน ต้องตั้งใจคุย ซักถาม เจรจา ที่จะมีโอกาสลิ้มรสอาหารอย่างสบายๆ จึงน้อยนัก

อยู่บ้านเมืองไทยที่ได้ทานประจำเห็นจะเป็น "บีบิมบับ - Bibimbap" หรือ มีเนื้อกับผักนานาชนิด คลุกผสมกับซอสพริกเกาหลี - Gochujang รสชาติอร่อย เผ็ดๆ มันๆ มีร้านบางเจ้าที่ทำเป็นเซต ส่งถึงบ้านด้วย เวลาหิวๆ คิดอะไรไม่ออกเลยต้องพึ่งพา

แต่อาหารเอเชียไม่ว่าจะเป็นอาหารชาติใด โดยเฉพาะไทยหรือเกาหลี ทานคนเดียวไม่สนุก วัฒนธรรมการกินเป็นโต๊ะรวม อาหารหลากหลายชนิด วางตรงกลาง จิ้ม จุ่ม คีบ ฯลฯ และ "แชร์" กัน พูดคุยออกรส ทานไปเมาธ์ไปได้ยาว

วันที่มีพรรคพวกบอกให้ไปลอง ร้านซารังเฮ (Sarang-Hae) ท้ายซอยสุขุมวิท 39 จึงต้องพาน้องๆ ที่บริษัทไปด้วย เพื่อช่วยชิม และที่สำคัญเขาอยู่ในรุ่นที่ติดกระแสเกาหลี ที่รู้จักชื่ออาหาร ช่วยบอกได้ว่าอะไรเป็นอะไร และ "อร่อย" จริงหรือไม่

และน้องๆ ไม่ผิดหวังครับ ไม่ใช่แค่ "อาหาร" แต่ยังไปชื่นชอบตัว "เจ้าของ" ที่เป็นหนุ่มหน้าใสนาม "ลี จง จิน - Lee Jong Jin" ทำเอา "หนุ่มใหญ่" วัยกลางคนอย่างเรา ต้องถอยร่น!!

 


คุณลีเล่าว่า คุณแม่มีร้าน "ปิ้งย่าง" ที่กรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลี ทำมาร่วม 30 ปี ตัวเองจึงชอบการทำอาหาร เข้าครัวแต่เด็ก แต่ไม่ได้ทำกิจการนี้เลย เพราะไปร่ำเรียนจนจบปริญญาวิศวโยธา เข้าทำงานบริษัทใหญ่ๆ เหมือนคนเกาหลีทั่วไป แต่ในที่สุดค้นพบตัวเอง ไม่อยากเป็น "ลูกจ้าง" ใคร มองอนาคตเห็นเพียงการไต่บันไดในบริษัทที่ไม่สิ้นสุด จึงตัดสินใจหันมาทำสิ่งที่ตนรัก คือ ทำร้านอาหาร



"แล้วทำไมไม่ทำกับคุณแม่ที่เกาหลี?" ผมถาม คุณลียิ้มๆ "ภรรยาเป็นคนไทยครับ" หุหุ หนีแม่เจอเมีย เจอกันตอนไปเรียนต่อที่ออสเตรเลี

มาอยู่เมืองไทย ได้เพื่อนคนไทย คุยกันถูกคอ จึงลงทุนร่วมกันเปิดร้าน ลองผิดลองถูกและมาลงตัวที่ "ซารังเฮ" ซึ่งแปลว่า "I Love You" คุณลีบอกว่า ให้ความรู้สึกที่ "อบอุ่น" และเป็นสิ่งที่เขาต้องการให้ลูกค้ารู้สึกถึงความรักความอบอุ่นของอาหารที่เขาตั้งใจทำขึ้นมา

ความลับของอาหารเกาหลีที่อร่อยนั้นคุณลีบอกว่าอยู่ที่วัตถุดิบที่ต้องเลือกอย่างดีไม่ว่าจะเป็นเนื้อผักหรือเครื่องเทศส่วนใหญ่นำเข้าจากเกาหลีทั้งสิ้น ส่วนสูตรลับก็พัฒนามาจากของดั้งเดิม และตำราคุณแม่ 

และด้วยความเป็น "วิศวะ" จึงพัฒนาเทคนิคการทำอาหารด้วย เช่นปรับปรุง "กระทะ" ที่ใช้ย่าง "ดักคาลบิ" หรือ ไก่บาร์บีคิวผัดซอสห่อผัก ให้มีหลุมพิเศษสำหรับ "ไข่ตุ๋น" และ "ชีส" ย่างเนื้อไก่หรือหมูเสร็จ จิ้มชีสเยิ้มขึ้นมาแทนที่จะราดทุกอย่างลงไปในกะทะ 

ถึงจุดนี้ผมรีบถามอาหารเกาหลีมีชีสด้วย นึกว่ามีแต่กิมจิ คุณลีบอกว่า คนรุ่นใหม่กินชีสแบบฝรั่ง จึงผสมผสานลงมาในอาหารเกาหลี และมีช่องจิ้มชีสพิเศษนี้ นอกจะใช้ "แยกจิ้ม" แล้ว ยัง "ถ่ายรูป" สวยอีกด้วย!!

อาหารมีเมนูให้เลือกอีกมาก นอกจาก "ดักคาลบิ" ที่อย่าพลาดแล้ว ผมได้ลอง "เนื้อดิบ" หรือ "Yukhoe" "คาลบี้" หรือ หมูย่างเกาหลี "ต๊อกป๊อกกี" หรือ "เค้กข้าว" และ "บีบิมบับ"

คงไม่ต้องบอกว่า "อิ่มแปล้" แค่ไหน!!

ใครจะไป "ซารังแฮ - I Love You" กับอาหารของคุณลี เชิญได้นะครับ แนะนำ 

แต่ถ้าจะไป "เลิฟ" คุณลี ถามภรรยาแกซะก่อนนะ อิอิ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!!

 
 
ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์
 
 
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X