|
ไหมละลาย 101 (Lisa)
แก้มย้วย หน้าผากมีริ้วรอย หน้าท้องหย่อน คุณสามารถยกกระชับปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยไหมละลาย... แต่เมื่อมีไหมให้เลือกสรรหลากหลาย เราจะมองหาอะไรกันดี
รู้จักชนิดของไหม
ในเมื่อเราไม่สามารถใช้ไหมเย็บแผลร้อยใบหน้าได้ เนื่องจากระยะเวลาละลายสั้นเกินไป ในปัจจุบันจึงมีไหมที่นิยมใช้อยู่คือ
ไหมละลาย PDO
PDO ย่อมาจากชื่อ Polydioxanone เดิมทีถูกสังเคราะห์ขึ้นมาเพื่อใช้เย็บหลอดเลือดหรืออวัยวะภายใน มีขนาดเล็กกว่าไหมปกติ และอยู่ได้นาน 6-8 เดือน หรือ 180-240 วัน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวไหมจะช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนาตัวและเกิดการยกกระชับ เมื่อเวลาผ่านไปการสร้างคอลลาเจนจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี อาจไม่เหมาะกับตำแหน่งใหญ่ ๆ อย่างเช่น หน้าท้อง หน้าอก
ไหมสปริง
เป็นไหมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีลักษณะเป็นเกลียวเหมือนลักษณะของคอลลาเจน ดังนั้น นอกจากจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่แล้ว ยังมีความเชื่อว่าลักษณะเกลียวของไหมจะทำให้ไหมสปริง เกาะเกี่ยวกับเนื้อเยื่อของผิวได้ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น และสามารถต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงได้ดีขึ้น ผลของการกระชับ จึงอยู่ได้นาน ข้อดีคือสามารถยกกระชับในบริเวณกว้างอย่างหน้าท้องได้
ไหม Aptos
เป็นไหมที่ใช้กันมายาวนาน มีลักษณะเป็นฟันปลาสำหรับเกี่ยวดึงผิวหนังให้ยกกระชับขึ้น เหมาะกับการตึงผิวหน้าเฉพาะส่วน เช่น หางคิ้ว ร่องแก้ม อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ไหมเป็นตะขอ จึงค่อนข้างเจ็บ นำออกมาได้ยากหากเกิดความผิดพลาด และในขณะที่ร้อยอาจมีตะขอหรือก้างปลาหัก จึงมีความเสี่ยงที่ใบหน้าจะไม่เท่ากัน
ที่มาของการร้อยไหม
การใช้ไหมละลายนั้นมีมานานแล้ว เดิมทีเริ่มมาจากแพทย์ฝังเข็มที่ร้อยตัวไหมเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างคอลลาเจน แต่สิ่งที่พัฒนา คือรูปแบบต่าง ๆ ของไหมที่กลายเป็นไหมชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีวิธีการร้อยและคุณสมบัติแตกต่างกัน
ร้อยไหมเพื่ออะไร
ไหมจะออกฤทธิ์ในเรื่องของการยกกระชับ ไม่ว่าจะทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้น กระชับหน้าท้อง ทำให้แขนเรียว กระชับสะโพก ฯลฯ (แต่ไหมบางชนิดอาจไม่เหมาะสำหรับบางบริเวณก็ได้)
ข้อควรระวัง
การร้อยไหมละลายจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์อย่างมากสำหรับการร้อยไหม ในตำแหน่งและความลึกที่เหมาะสม ดังนั้น จึงควรศึกษาหาข้อมูลและพิจารณาให้รอบคอบเป็นพิเศษก่อนตัดสินใจทำ
ข้อมูลจาก
Lisa Weekly Magazine