เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการตีสิบ โพสต์โดย socialvio.com

เชื่อเลยค่ะว่า หลาย ๆ คนคงจะจำสาวเสียงใส หน้าตาเก๋ มีเอกลักษณ์ อย่าง "เคท ไบรโอนี่ รอดโพธิ์ทอง" เจ้าของบทเพลงฮิตในสมัยอดีตมากมาย อาทิ อย่ากลับไป, ฝันกลางวัน, ข่าวร้าย ฯลฯ กันได้อย่างแน่นอน ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 8 ปี ที่แล้ว จู่ ๆ สาวเสียงใสก็โบกมือบ๊ายบายอำลาวงการ และข่าวคราวของเธอก็เงียบหายไป จนกระทั่งสองสามปีหลังมานี้ ก็พบว่าเธอกลายเป็นคุณแม่ยังสาว และเป็นครูสอนโยคะชื่อดังในอเมริกาซะแล้ว... และล่าสุด รายการตีสิบ (24 กรกฎาคม) ก็ได้เชิญ เคท ไบรโอนี่ มานั่งพูดคุยกันว่า 8 ปีที่ผ่านมาเธอหายไปไหน และข่าวลือเรื่องเธอหนีไปคลอดลูกนั้นจริงหรือเปล่า...

โดยเคท ไบรโอนี่ ได้เปิดเผยถึงเหตุผลที่ห่างหายไปจากวงการบันเทิงว่า... สำหรับข่าวที่บอกว่าตนหนีไปคลอดลูกนั้น มันดูแรงไปนิดนึง จริง ๆ แล้ว ตนก็แค่ไปมีครอบครัว ไม่ได้หนีใครอะไรเลย แล้วที่ต้องไปอเมริกา ตนก็คิดแค่ว่า ตนเกิดที่นั่น และอยากให้ลูกของตนอยู่ที่อเมริกาเหมือนกับตนเท่านั้น...

เคท ไบรโอนี่ กล่าวอีกว่า คุณพ่อของน้องเทย์เลอร์ ลูกสาวของตนนั้น เป็นคนไทยที่อยู่อเมริกา ชื่อว่า ชาลี ชนะรัตน์โสภณ เป็นนักธุรกิจขายจิลเวอรี่อยู่ที่อเมริกา เขาเป็นคนน่ารัก และทำงานเก่งมาก ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งเปิดร้านเมื่อปี ค.ศ. 2004 ปีที่้น้องเทย์เลอร์เกิด จนถึงปัจจุบัน เขามีสาขากว่า 200 สาขาแล้ว ส่วนสาเหตุที่เลิกกันนั้น เป็นเพราะว่า เราคิดที่จะถอยออกมาใช้คำว่าเพื่อน เพราะเป็นเพื่อนแล้วเราไม่ทะเลาะกัน ทุกวันนี้เราก็คุยกันตลอดเวลา แต่ในสถานะเพื่อน ในสถานะพ่อแม่เท่านั้น ส่วนเขาก็รักลูกมากเช่นกัน (ยิ้ม) และตอนนี้ต่างคนก็แยกกันอยู่ ส่วนตนนั้น เพิ่งแต่งงานใหม่ไปได้ไม่นานนี้ กับไดซ์ ไดสุเกะ ครูสอนโยคะ ลูกครึ่งอเมริกา-ญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้เราคบกันในฐานะแฟนมานาน 3 ปี

ทั้งนี้ ทางพิธีกรได้ข้อมูลมาว่า ในตอนที่เธอคลอดลูกนั้น เธอคลอดแบบธรรมชาติมาก ๆ ไม่เหมือนใคร ไม่มีการฉีดยาชา และบล็อกหลัง เกี่ยวกับเรื่องนี้ สาวเคทก็ตอบว่า เป็นวิธีที่ดัดแปลงจากการคลอดในสมัยก่อน คือการคลอดลูกในน้่ำ โดยแพทย์จะนำอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ แล้วตนก็ลงไปในน้ำ จากนั้นเขาก็จะจุดเทียน เปิดเพลงให้เราผ่อนคลาย รอเวลาเด็กพร้อมที่จะคลอด แต่ทั้งนี้ ตนเจ็บท้องนานเป็นชั่วโมงกว่า ๆ เลย และการคลอดเองแบบนี้มันเจ็บมาก เรียกได้ว่าเจ็บที่สุดในชีวิต แต่เจ็บเพียงแค่แป๊ปเดียวเท่านั้น จากนั้นพอคลอดลูกออกมาแล้ว คุณหมอก็จะให้ลูกอยู่ในน้ำสักพัก ก่อนที่จะนำขึ้นมา เพราะเขาเชื่อกันว่า ตอนที่ลูกอยู่ในท้องเขาใช้ชีวิตอยู่ในน้ำอยู่แล้ว การที่ให้ลูกอยู่ในน้ำสักระยะหนึ่งหลังจากคลอด ก็เหมือนให้ลูกได้ปรับตัวก่อน ซึ่งสาวเคทก็ได้ถ่ายคลิปเก็บไว้เหมือนกัน แต่คงนำมาให้ดูไม่ได้ เพราะเธอเองยังไม่กล้าดูเลย มันคงไม่ใช่ภาพที่น่าดูเท่าไรนัก (หัวเราะ)

เมื่อทางพิธีกรถามถึงลูกสาว เคท ไบรโอนี่ กล่าวว่า ตอนนี้เขาเลือกที่จะอยู่กับคุณพ่อ ไม่ได้ตามมาด้วยเหมือนทุกครั้ง เนื่องจากตนพานักเรียนโยคะมาเที่ยวเมืองไทย ที่สมุย และเชียงใหม่ โดยมันเป็นกิจกรรมสำหรับผู้ใหญ่ คือ เล่นโยคะวันละสองครั้ง และก็เที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ น้องเทย์เลอร์เลยขออยู่กับพ่อดีกว่า

ถ้าถามว่า น้องเทย์เลอร์รู้หรือไม่ว่าตนเป็นนักร้องในประเทศไทย และเคยมีชื่อเสียงมาก่อน สาวเคท กล่าวว่า น้องรู้ประมาณอายุ 4 ขวบ โดยคุณแม่ของตนเป็นคนเปิดยูทูบให้เขาดู พอดูเสร็จเขาก็เดินมาถามตนว่า ทำไมคุณแม่ถึงร้องเพลงในยูทูบได้ ตนเลยบอกว่าแต่ก่อนตนเคยร้องเพลง ขึ้นคอนเสิร์ตมาตั้งแต่เด็ก ๆ น้องเทย์เลอร์เลยถามต่อว่า แล้วคุณแม่ใส่ชุดสั้น ๆ แบบบริทย์นี่ สเปียร์หรือเปล่า (หัวเราะ) ที่ลูกถามแบบนี้อาจจะเป็นเพราะเขาเห็นนักร้องฝรั่งสมัยนี้แต่งตัวน้อยชิ้นละมั้ง ส่วนเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทย เขาก็พอรู้บ้าง ตอนแรกพี่เลี้ยงเด็กเขาเป็นคนไทย ภาษาไทยคือภาษาแรกที่เขาพูดได้ แต่พอเขาเข้าโรงเรียน เขาก็รู้ว่า ที่โรงเรียนไม่พูดภาษานี้กัน แต่ถ้าถามว่า เขายังพูดได้หรือไม่ ตอนนี้ก็พยายามฝึกพูดให้ชัดอยู่

เคท ไบรโอนี่ ยังกล่าวถึงลูกสาวอีกว่า น้องเทย์เลอร์เรียกได้ว่าเก่งกว่าตนทุก ๆ อย่างเลย แต่เรื่องที่เก่งที่สุดคงเป็นคณิตศาสตร์ ซึ่งเขาเรียนได้ที่ 1 ในโรงเรียน นอกจากนี้เขายังชอบยิมนาสติกมาก ๆ ส่วนตนก็จะสอนเขาเล่นโยคะ เพื่อจะได้นำทักษะไปเล่นยิมนาสติกที่เขาชอบได้

ต่อกันด้วยประเด็นร้อน ประเด็นฮอต ที่ยาวนานกว่า 8 ปี เกี่ยวกับนักแสดงหนุ่มอย่าง ท็อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ที่ตกเป็นข่าวว่า เป็นพ่อของน้องเทย์เลอร์ ทำให้สาวเคท ต้องบินหนีไปคลอดลูกที่ต่างประเทศ... เรื่องดังกล่าว สาวเคท ชี้แจงว่า ตนกับท็อปเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก ๆ เราสนิทกันมาตั้งแต่เกรด 6 เรียนโรงเรียนร่วมฤดีมาด้วยกัน 8 ปีที่แล้ว ที่ตนย้ายไปอยู่อเมริกา ท็อปก็โทรมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบตามประสาเพื่อน ขณะที่ตนเองก็ไม่ได้ถามข่าวคราวอะไรในเมืองไทย เพราะไม่อยากรู้ แต่พอตนอยู่ ๆ ไปสักพัก ก็มีคนไทยมาทักบอกว่าตนมีข่าวในประเทศไทย ตนก็เลยถามแต่ท็อปก็ไม่บอก แต่ตนพยายามคาดคั้นหลาย ๆ ครั้ง จนท็อปยอมบอก โดยท็อปบอกกับตนว่า มีข่าวที่เมืองไทยลือกันว่าเทย์เลอร์เป็นลูกของตนกับท็อป ตนก็ตกใจมาก และเห็นใจท็อปมาก ๆ เพราะท็อปเขามีครอบครัวแล้ว แต่ยังเป็นข่าวแบบนี้ ทั้งนี้ตนต้องฝากขอบคุณไปยังท็อป และภรรยาของท็อปด้วยที่อดทนเพื่อตน อย่างไรก็ดี ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเขียนข่าวที่ทำลายครอบครัวคนอื่นด้วย และไม่เข้าใจว่า ประเด็นสำคัญมันคือตน แต่ทำไมไม่ถามตน และเลือกที่จะไปถามท็อปแทน

และเมื่อสาวเคทเคลียร์เรื่องข่าวลือที่ลือมานานกว่า 8 ปี ให้ฟังกันแล้ว จากนั้นสาวเคทก็ขอแย้มเรื่องหัวใจให้ฟังว่า ตอนนี้ตนเพิ่งแต่งงานใหม่กับ ไดซ์ ไดสุเกะ มาได้ 3 เดือน และก็กำลังจะจัดงานเลี้ยงฉลองเมื่อสร้างบ้านหลังใหม่เสร็จ ส่วนหนุ่มไดซ์ ก็มานั่งเฝ้าภรรยาในห้องส่ง ทางพิธีกรเลยถามว่า รู้หรือเปล่าว่าสาวเคทเป็นนักร้องที่มือชื่อเสียงที่ประเทศไทยในสมัยก่อน หนุ่มไดซ์ กล่าวตอบว่า ตอนแรกไม่รู้เลย เพราะมัวตะลึงในความสวยของเคท และรู้สึกดีใจที่ได้เจอเคท (หัวเราะ) ส่วนเรื่องที่เคทเป็นนักร้องตนก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่เขากลับเมืองไทย ก็มีแฟนคลับมากมายมาคอยทักทายเคท มันทำให้ตนรู้สึกทึ่งมาก ๆ

นอกจากนี้ หนุ่มไดซ์ ยังได้บอกถึงความประทับใจในตัวสาวเคทว่า ตนชอบอะไรหลาย ๆ อย่างในตัวของเคท เราสองคนมีอะไรที่ไม่เหมือนกันสักเท่าไร แต่เมื่อมาอยู่ด้วยกันมันมีความบาลานซ์กัน และรู้สึกมีความสุขตลอดเวลา ส่วนสาวเคทตอบเสริมว่า เขาคือโซลเมทของตน ตนชอบเขาเพราะเขาเป็นคนที่ใช่ เราเข้ากันได้ดีในทุก ๆ เรื่อง อย่างไรก็ตาม ถ้าถามว่า ตนจะมีลูกกับไดซ์ไหม ตนอยากมีมาก คิดเอาไว้อย่างน้อยอีกสัก 2 คน (ยิ้ม)

อย่างไรก็ตาม สาวเคทก็ยังกล่าวถึงการกลับเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงว่า ตอนนี้ก็คิดถึงแฟนคลับเหมือนกัน ถ้าแฟนคลับยังยินดีต้อนรับ ก็อาจจะมีโอกาสทำเพลงให้ได้ฟังกันอีก... ท้ายที่สุดนี้ สาวเคทก็ควงหนุ่มไดซ์จูงมือกันโชว์ทักษะโยคะขั้นเทพให้ชมกัน ขอบอกเลยว่า ทั้งคู่เป็นครูโยคะที่เก่งมาก ๆ และเป็นคู่รักที่น่ารักจริง ๆ เลยล่ะค่ะ ^^