วันนี้ (4 พ.ย. 57) เวลา 14.00 น. ที่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 1 บ้านสารภี ต.สารภี อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา บรรดาญาติ พี่ น้อง และเพื่อนๆ ต่างมาร่วมไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของ “เจ้าปอ” สถิตย์ มุขกระโทก อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย และอดีตนักเตะสโมสรบีอีซีเทโรฯ, สโมสรการไฟฟ้า, สโมสรตำรวจ รวมถึงสโมสรโรงเรียนพาณิชยาการราชดำเนินด้วย 

โดยภายหลังจากที่สถิตย์ มีอาการป่วยจากปอดติดเชื้อขั้นรุนแรง และมีโรคแทรกซ้อนหลายอย่าง จนทำให้ต้องพักรักษาอาการอย่างต่อเนื่องกว่า 1 ปี ด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา และญาติได้นำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 พ.ย. 57) เวลา 21.05 น. นายสถิตย์ ก็ทนพิษปอดติดเชื้อไม่ไหว ได้สิ้นลมหายใจต่อหน้าแฟนสาว และญาติๆ ที่มาเฝ้ารอดูอาการที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กระทั่งวันนี้ ได้นำศพมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด โดยมีญาติๆ และเพื่อนนักฟุตบอลทีมชาติไทย มาจุดธูปไว้อาลัยกันอย่างเนืองแน่น

โดยนางกิติยา เศียรศิริบัณฑิต อายุ 29 ปี แฟนสาวของนายสถิตย์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนสิ้นใจเพียง 1 วัน ตนได้เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และได้พูดคุยกับนายสถิตย์ ซึ่งขณะนั้นใช้การสื่อสารด้วยการเขียนหนังสือใส่ลงในเศษกระดาษ โดยมีบางช่วงที่เขียนความรู้สึกเป็นห่วงลูกสาวทั้ง 2 คน คือ ด.ญ.กตัญธิตา เศียรศิริบัณฑิต หรือน้องโฟกัส อายุ 8 ขวบ และด.ญ.กฤติธิตา เศียรศิริบัณฑิต หรือน้องโดนัท อายุ 7 ขวบ เพราะเขาอยากให้ลูกสาวทั้ง 2 ได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย ตามที่ลูกสาวเคยไฝ่ฝันไว้ 

นอกจากนี้ นายสถิตย์ยังได้เขียนข้อความขอตนแต่งงานเป็นรอบที่ 2 หากหายป่วยเป็นปกติแล้ว แต่วันต่อมานายสถิตย์ก็มาจากไป ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับตนและครอบครัวมาก ถึงอย่างไรก็ตามแม้สถิตย์จะจากไป ก็จากไปแต่ตัว แต่ยังอยู่ในใจของตนเสมอ จึงขอให้สถิตย์ไปสู่สุคติอย่าได้ห่วงลูกสาวเลย เพราะตนสัญญาว่าจะดูแลลูกสาวทั้ง 2 เป็นอย่างดี นางกิติยา กล่าว

ด้านนางชอบ มุขกระโทก อายุ 73 ปี มารดาของนายสถิตย์ กล่าวว่า สถิตย์เป็นลูกชายคนเดียว ซึ่งตอนเด็กๆ ชอบเล่นกีฬาฟุตบอลมาก ตกเย็นหลังเลิกเรียนมักจะอยู่แต่ในสนามฟุตบอล และกลับบ้านค่ำเป็นประจำ กระทั่งเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษา จึงได้เริ่มติดทีมโรงเรียนต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดเยาวชน และทีมชาติชุดใหญ่ตามลำดับ ซึ่งทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกภาคภูมิใจในตัวของเขามาก แต่หลังจากที่ติดทีมชาติ และเล่นฟุตบอลให้กับหลายสโมสร ก็เริ่มมีอาการป่วยให้เห็น ในช่วงหลังๆ จึงได้มาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเสียชีวิตไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกสูญเสียทุกอย่าง ไม่มีอะไรจะเสียใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว นางชอบฯกล่าว

ทั้งนี้ จะมีการตั้งศพสวดอภิธรรมนายสถิตย์ไปจนถึงวันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน และจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพ วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 15.00 น. ที่วัดสารภี ต.สารภี อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา

สำหรับสถิตย์ มุกกระโทก นั้น เกิดที่ จ.นครราชสีมา และ มาโด่งดังสุดขีดขณะร่วมทีมฟุตบอลสโมสรโรงเรียนพณิชยการราชดำเนิน ธนบุรี จนมีโอกาสก้าวติดทีมชาติไทยในชุดเยาวชน และทีมชาติชุดใหญ่ และได้รับสัญญากับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง บีอีซี เทโรฯ เจ้าของฉายา "เจ้าบุญทุ่มเมืองไทย" ด้วยวัยเพียง 18 ปี และหลังจากนั้นก็โยกย้ายไปเล่นให้กับสโมสร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และตำรวจ ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ หลังประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ และมีอาการป่วยจนเสียชีวิตในครั้งนี้
 

ที่มา   มติชนออนไลน์