ตำรวจภาค 5 ไล่ล่ารถขบวนการค้ายาเสพติด โดยยึดของกลางเป็นรถกระบะ 1 คัน ยาบ้า 500,000 เม็ด และยาไอช์ 3 กิโลกรัม แต่คนร้ายซึ่งเป็นชาวม้งอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้

วันที่ 15 มกราคม 2557 มีรายงานว่า พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 และพล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 ได้รับแจ้งจากสายตำรวจว่า จะมีเครือข่ายค้ายาบ้าชาวม้งอาศัยช่วงชัตดาวน์กรุงเทพฯ ที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ภาค 5 ต้องไปช่วยดูแลสถานการณ์การชุมนุม ทำการลักลอบขนยาเสพติดจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ส่งไปจำหน่ายในกรุงเทพฯ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผกก.1 บก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 ทำการสกัดจับ

โดยชุดทำงานได้เฝ้าจุดสังเกตการณ์อยู่ที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ต่อมา พบรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ณษ 3483 กรุงเทพฯ ขับผ่านมา ลักษณะตรงตามที่สายรายงาน เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวกลับขับฝ่าด่านตรวจหลบหนีไปตามเส้นทางดอยนางแก้ว มุ่งหน้าเข้ามาทาง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

เจ้าหน้าที่จึงต้องขับรถไล่ล่าจนสามารถตามทันตรงถนนซูเปอร์ไฮเวย์วงแหวนบ้าน บวกครก หมู่ 1 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และก่อนถึงทางออกสู่ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ได้มีการยิงปืนเข้าที่ล้อรถของคนร้ายจำนวน 2 นัด ทำให้รถของคนร้ายเสียหลักปีนขึ้นบาทวิถี

จากนั้น คนร้ายซึ่งเป็นชาย 1 คน ได้เปิดประตูรถและวิ่งหนีเข้าไปในพงหญ้าข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงต้องปิดล้อมพื้นที่เพื่อล่าตัว แต่ก็ไม่พบร่องรอย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นภายในรถพบกล่องกระดาษหลายกล่อง ข้างในมียาบ้ารวมกว่า 500,000 เม็ด ยาไอซ์ 3 กิโลกรัม มูลค่ารวมกว่า 150,000,000 บาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง

ด้าน พล.ต.ต.ชำนาญ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมยาบ้าล็อตใหญ่ในครั้งนี้ ถือเป็นล็อตแรกของปี 2557 คาดว่า เพิ่งออกมาจากโรงงานผลิตยาเสพติดประเทศเพื่อนบ้าน โดยคนร้านตั้งใจนำไปจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนได้สั่งให้ทำการขยายผลเพื่อจับกุมคนร้ายแล้ว โดยอาจเช็กจากเจ้าของรถที่ยึดได้ว่าเป็นของใคร และบุคคลนั้นเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดอย่างไร