|
แท็กซี่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในเลิกวิ่งแล้วร่วม 20,000 คัน เหตุวิ่งไปก็ไม่มีรายได้-เจ้าของอู่กลัวรถพัง ด้านชมรมแท็กซี่อาสายอมรับ ปัญหาแท็กซี่โก่งราคาช่วงปิดกรุงเทพฯ ควบคุมยาก
วันที่ 14 มกราคม 2557 นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ เผยว่า ขณะนี้แท็กซี่เครือข่ายในพื้นที่กรุงเทพชั้นใน ได้หยุดให้บริการไปแล้วกว่า 100 อู่ ประมาณ 7,000-8,000 คัน เนื่องจากไม่มีคนขับรถ อีกทั้งที่ผ่านมานับตั้งแต่มีสถานการณ์ชุมนุม ได้มีคนขับแท็กซี่ที่ทยอยเลิกวิ่งไปแล้วประมาณ 10,000 คัน รวมกับที่เลิกวิ่งวานนี้ (13 มกราคม) อีก 10,000 คัน เป็น 20,000 คัน จากช่วงเวลาปกติที่มีแท็กซี่วิ่งให้บริการราม 70,000 คัน เนื่องจากคนขับมองว่าวิ่งไปก็ไม่มีรายได้ รวมทั้งเจ้าของอู่ยังเกิดความกังวลว่า รถที่ปล่อยให้เช่าอาจได้รับความเสียหายจากการชุมนุม จึงปิดอู่เพื่อความปลอดภัย
ด้าน นายอุดร ขันตี ประธานชมรมแท็กซี่อาสา กล่าวถึงปัญหาเรื่องแท็กซี่โก่งราคาค่าโดยสารช่วงชัตดาวน์กรุงเทพฯ โดยยอมรับว่า ควบคุมลำบาก เพราะเป็นลักษณะนิสัยของคนขับแต่ละคน แต่สำหรับสมาชิกแท็กซี่ของชมรม จะมีการกำชับในเรื่องนี้อยู่ตลอด ทั้งการชาร์จ การไม่รับจ้างเหมา และไม่ควรเอาเปรียบผู้โดยสาร
ทั้งนี้ หากพบแท็กซี่นอกคอกคอยเอาเปรียบผู้โดยสาร ขอให้จำเลขทะเบียนรถ คนขับ จำวันและเวลาจากนั้นโทรศัพท์ร้องเรียนไปที่สายด่วนศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะกรมการขนส่งทางบก 1584
ข้อมูลจากกระปุกดอททคอม