อภิสิทธิ์ อัด ยิ่งลักษณ์ ไม่อยู่ในฐานะเรียกใครเจรจา ข้อเสนอหารือเลื่อนเลือกตั้งเพียงหวังรักษาอำนาจ เตือน สุรพงษ์ นำภาพขึ้นเวที กปปส. ให้ยูเอ็น ตบตาชาวโลกไม่ได้

เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 14 มกราคม 2557 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม จะเชิญทุกฝ่ายร่วมหารือกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ โดยระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ปัญหาในขณะนี้คือ ผู้รักษาการตามกฎหมาย ซึ่งก็คือนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรที่จะปรึกษาหารือให้ได้ข้อสรุปก่อนว่าสถานการณ์จัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้เป็นอย่างไร และมีอุปสรรคจริงหรือไม่

โดยนายอภิสิทธิ์ ชี้ว่า ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นว่าไม่มีปัญหา ก็ไม่ต้องคุยกับใคร กกต. ก็ดำเนินการจัดการเลือกตั้งต่อ แต่ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นว่ามีปัญหา ก็ต้องมาตั้งหลักว่าแล้วจะจัดการเลือกตั้งให้เป็นที่ยอมรับตามรัฐธรรมนูญอย่างไร แล้วให้ กกต.เป็นเจ้าภาพในการเริ่มต้นดำเนินการกระบวนการนั้นมากกว่า ซึ่งตนยังไม่เห็นประโยชน์ของการที่อยู่ดี ๆ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมาเป็นหัวโต๊ะ แล้วไปเชิญคน 60-70 คนมาหารือให้เกิดความขัดแย้งและปัญหาเพิ่มขึ้น

นายอภิสิทธิ์ ยังระบุอีกว่า นายกฯ จะโยนความรับผิดชอบให้ใครไม่ได้ และที่ผ่านมานายกฯ ไปโกหกกับเลขาธิการสหประชาชาติอย่างนั้นแล้วจะอยู่ในฐานะอะไรที่จะเชิญคนเข้าหารือ ถ้านายกฯ ยังเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไม่ตรงกับข้อเท็จจริงเช่นนี้ ตนก็ยังมองไม่เห็นว่านายกฯ จะอยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรกับใครได้ และที่ทำในขณะนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์กับใคร ตนไม่คิดว่าจะต้องไปทะเลาะกับใคร คนที่เขามองเห็นว่าการเลือกตั้งไม่ตอบโจทย์และทำได้ยากในขณะนี้ก็พูดไปหมดแล้ว จึงอยู่ที่ว่านายกฯ ในฐานะผู้รักษาการตามกฎหมายจะประเมินว่าอย่างไร ผู้ที่คัดค้านการเลือกตั้งมากที่สุดคือพรรคเพื่อไทย ดังนั้น นายกฯ ต้องไปคุยกับ ทางพรรคเอง การที่นายกฯ อ้างว่ากลัวจะถูกเล่นงานทางกฎหมายนั้น ความจริงพี่ชายตัวเองก็เคยทำมาแล้วทั้งนั้น ทั้งออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ ทั้งลาพักรักษาการนายกฯ ซึ่งหากนายกฯ ยังยืนยันว่าไม่มีอำนาจในการเลือกตั้ง ก็ไม่ต้องมาเชิญใครหารือ ควรปล่อยให้ กกต.ตัดสินใจ

สำหรับการที่รัฐบาลพยายามดำเนินการในครั้งนี้ เป็นเพียงการสร้างกระบวนการขึ้นมาเพื่อให้เดินไปตามสิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้น ทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่าบ้านเมืองเดินได้ยากมาก ซึ่งยังมีหลายฝ่ายพยายามช่วยแก้ปัญหา แต่นายกฯ กลับใช้เป็นเครื่องมืออย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงนอกระบบ และเกิดความรุนแรง ดังนั้นจึงต้องมาหาจุดร่วมว่าทำอย่างไรไม่ให้การเมืองกลับไปเป็นแบบเดิม ๆ

นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึง การเสนอให้รัฐบาลไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในภาคเหนือและภาคอีสาน หากมีการปฏิวัติรัฐประหาร โดยชี้ว่า ทำไมจึงมีแนวคิดอยากแบ่งแยกประเทศ เหตุใดจึงไม่พยายามคิดให้คนมาหาแนวทางร่วมกัน การคิดแบ่งแยกอย่างนี้จึงทำให้คนมาชุมนุมจำนวนมาก รัฐบาลคงพยายามรักษาอำนาจไว้ แม้ว่าประเทศจะอยู่ในสภาพอย่างนี้ ไม่ทราบว่าทำเพื่ออะไร เหตุใดไม่คิดหาทางออกและยอมรับสภาพความเป็นจริง

ส่วนกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ จะนำภาพขึ้นเวที กปปส.ให้เลขาธิการสหประชาชาติดูนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยากทำอะไรก็ทำเลย อยากไปหลอกลวงใครที่ไหนก็ทำ แต่หลอกลวงคนไทยไม่ได้แล้ว ตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แต่นายสุรพงษ์ อย่าโกหกสหประชาชาติให้สังคมโลกเข้าใจผิดเหมือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เชื่อว่าจะไม่สามารถตบตาสหประชาชาติได้ และถ้าโกหกระดับโลกได้อย่างนี้ก็ไม่สามารถไปพูดคุยอะไรกับใครได้

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม