|
เอเอฟพี - ซีรีส์สุดฮิตแห่งยุคของวงการโทรทัศน์สหรัฐฯ Breaking Bad ออกอากาศในตอนจบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางติดตามชมของคนดูโทรทัศน์ทั่วสหรัฐฯ ที่เฝ้าหาจอติดตามบทสรุปเรื่องราวของ "วอลเตอร์ ไวต์" ตัวละครประเภท "แอนตี้ฮีโร่" ที่ไม่เหมือนใคร และมีคนรักมากที่สุดในทศวรรษนี้ก็ว่าได้ การแพร่ภาพตอนสุดท้ายของซีรีส์ฮิต Breaking Bad กลายเป็นข่าวใหญ่ในหน้าสื่อทุกประเภทของสหรัฐฯ ที่แม้แต่ประเด็นทางการเมืองเรื่องก็ยังถูกแย่งชิงความสนใจไปได้ อย่างที่แฟนของซีรีส์คนหนึ่งเขียนข้อความเอาไว้ว่า "วินาทีที่ Breaking Bad จบลงอย่างเป็นทางการ คุณก็คงไม่รู้แล้วว่าจะทำอะไรกับชีวิตแล้ว" และเมื่อตอนสุดท้ายของ Breaking Bad ออกอากาศไปเป็นที่เรียบร้อย ข้อความต่าง ๆ จากทั้งทาง Twitter และสื่อสังคมออนไลน์ทุกแห่งที่ชาวสหรัฐนิยมใช้กันก็พูดถึงเรื่องนี้พร้อม ๆ กันทันที ... "ถือว่าสมบูรณ์แบบในทุกด้าน สนุกสุด ๆ ขอบคุณมากจริง ซีรีส์เรื่องนี้แทบจะเปลี่ยนผมไปเลย" คนดูรายหนึ่งกล่าว ส่วนอีกคนก็เขียนข้อความว่า "เพอร์เฟ็ค ไม่มีอะไรให้บ่น เป็นตอนจบที่สมบูรณ์มาก" สำหรับมุมมองของมืออาชีพ นักเขียนของ Variety เรียกบทสรุปของ Breaking Bad ว่า "มีส่วนผสมที่พอดี" ส่วน New York Times ก็แสดงความเห็นว่า "เป็นตอนจบที่ลงตัว ... แต่ในเวลาเดียวกันสำหรับซีรีส์ที่ให้อารมณ์สิ้นหวังแบบนี้ จะบอกว่าเป็นการจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็คงจะได้" นักวิจารณ์รุ่นใหญ่ แฮงค์ สติวเวอร์ แห่ง Washington Post ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคมคาย และโหดหินในการกล่าวถึงผลงานเรื่องต่าง ๆ ก็ยังกล่าวชมว่าในตลอด 5 ฤดูกาลของ Breaking Bad ไม่เคยมีตอนที่แย่เลย "ในฐานะนักวิจารณ์ผมคงต้องยอมรับว่า ซีรีส์สุดโปรด (อาจจะที่สุดตลอดกาล) ของผมได้จบไปเรียบร้อยแล้ว" |
|||||
หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของ Breaking Bad คือการฉากหลังของเรื่อง ซึ่งอยู่ในนิวเม็กซิโกที่ค่อนข้างดิบเถื่อน และแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับซีรีส์ส่วนใหญ่ที่มักจะเสนอภาพเมืองใหญ่อันแออัด พร้อมด้วยเหล่านักแสดงที่ดูสมจริงสมจัง ไม่มีดาราหล่อสวยมาเรียกแขกดึงดูดคนดู ในเรื่องราวซึ่งไม่มีสีขาวจัดหรือดำจัด แต่เป็นโลกสีเทาที่ความดีและความเลวแทบไม่สามารถแยกออกจากกันได้ นักแสดงวัย 57 ปี ไบรอัน เครสตัน คือผู้รับบท วอลเตอร์ ไวต์ ได้อย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นนักแสดงที่ฮอลลีวูดจับตามอง จนทำให้เขาโอกาสได้เล่นหนังดัง ๆ อย่าง Argo และถูกลือว่าอาจได้รับบท "เล็กซ์ ลูเธอร์" ในซูเปอร์แมนภาคต่อไป จากที่ก่อนหน้านี้เขาแทบจะไม่เคยมีบทบาทอะไรให้เป็นที่จดจำเลยนอกจากบทพ่อที่ไม่ได้เรื่องในซีรีส์ตลก Malcom in the Middle แม้จะมีความเห็นเกี่ยวกับตอนจบของ Breaking Bad ออกไปในหลาย ๆ ทาง แต่แฟน ๆ ส่วนใหญ่ก็พอใจกับบทสรุปของเรื่องราวต่าง ๆ ที่ดำเนินมา 5 ปีเต็ม จะมีก็แต่เรื่องโฆษณาจำนวนมากที่ฉายคั่นอยู่ตลอดการแพร่ภาพของตอนจบเท่านั้น ที่หลายคนคิดว่าเยอะเกินไปหน่อย แต่ก็น่าจะทำให้ AMC ทำเงินได้อย่างมหาศาลจากค่าโฆษณาที่ว่ากันว่าสูงถึง 250,000 เหรียญฯ ต่อ 30 วินาทีกันเลยทีเดียว แม้จะปิดฉากไปอย่างสวยงาม แต่อันที่จริงแล้วสถานีโทรทัศน์ AMC ต้องเดิมพันกับ Breaking Bad สูงไม่น้อย เพราะกระแสของซีรีส์ในฤดูกาลแรก ๆ ยังไม่ค่อยจะร้อนแรงนัก แต่คนดูก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี ซึ่งคาดกันว่าในตอนสุดท้ายของซีรีส์ฤดูกาลที่ 5 ที่เป็นฤดูกาลสุดท้าย น่าจะมีตัวเลขผู้ชมสูงถึง 10 ล้านคน |
http://www.manager.co.th