ส.ส.ประชาธิปัตย์ วอล์คเอ้าท์ ไม่ร่วมลงมติแก้ รธน. ที่มา สว. วาระ 3 ก่อนมอบพวงหรีดให้ประธานสภา

            เมื่อ วันที่ 28 กันยายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา สมัยสามัญทั่วไป เพื่อลงมติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของวุฒิสภา ในวาระ 3 ซึ่งสมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส. รัฐบาล ฝ่ายค้าน และสมาขิกวุฒิสภา เดินทางมาร่วมลงมติจำนวนมาก โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งวิธีการลงมติใช้วิธีการขานชื่อสมาชิกรัฐสภา

            โดยในขณะที่นายสมศักดิ์เรียกสมาชิกเพื่อเข้าสู่วาระลงมติ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ลุกขึ้นขอหารือว่า ตนเห็นว่ายังไม่สมควรที่จะมีการลงมติในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ ในวาระที่ 3 โดยระบุถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากรับวินิจฉัยตีความคำร้อง กลุ่ม 40 ส.ว. และ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นคัดค้านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว.

            จากนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคน ลุกขึ้นประท้วงประธาน ที่อนุญาตให้นายจุรินทร์ลุกขึ้นหารือคล้ายเป็นการอภิปราย โดยนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส. พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นทักท้วงว่า วันนี้เป็นการนัดลงมติในวาระ 3 ในรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถอภิปรายได้ ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนวินิจฉัยแล้วว่า ให้ท่านจุรินทร์หารือตามสมควร เพื่อรักษาบรรยากาศ ขณะที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทย อีกหลายคนต่างลุกขึ้นประท้วงประธานฯ ในประเด็นเดียวกัน

            ต่อมา นายสมศักดิ์ จึงกล่าวว่า ขอวินิจฉัยให้เข้าสู่ระเบียบวาระ และเข้าสู่วาระการลงมติเลย แต่ก็ถูก ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ พยายามตะโกนประท้วงประธาน ในขณะนั้น ทางสมาชิกวุฒิสภามีการเสนอญัตติขอเลื่อนการลงมติ แต่นายสมศักดิ์ยืนยันว่าเราเข้าสู่วาระการพิจารณาแล้ว การเสนอญัตติขอเลื่อนคงเป็นไปไม่ได้
       
            จนกระทั่งเวลา 10.50 น. ประธานตรวจสอบองค์ประชุม มีผู้เข้าประชุม 363 คน ถือว่าครบองค์ประชุม จากนั้นให้เลขาฯ ดำเนินการ โดยใช้วิธีการขานชื่อ และให้บอกว่า เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ระหว่างนั้น ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ต่างพากันลุกขึ้นและเดินออกจากห้องประชุมทันที หลังจากนั้น ส.ส. พรรค ประชาธิปัตย์ ได้นำพวงหรีดเข้ามาที่ด้านหน้าบัลลังก์ ซึ่งนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่นำออกไป ซึ่งหลังการลงมติ ที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 358 ต่อ 2 และงดออกเสียง 30 เสียง