ชาวบ้านกรุงเก่าประท้วงเจ้าอาวาส ปิดศาลาห้ามทำบุญวันพระ
2013-09-08 13:05:24
Advertisement
คลิก!!!

 

ชาวบ้านประท้วงเจ้าอาวาสวัดศรีประชา จ.พระนครศรีอยุธยา ล็อกประตูศาลาการเปรียญไม่ให้ทำบุญวันพระ เนื่องมาจากปัญหาความขัดแย้ง 

          วันที่ 5 กันยายน 2556 รายการข่าวเช้า ทางช่อง 3 รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่วัดศรีประชา ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีชาวบ้านกว่า 50 คน มารวมตัวกันที่หน้าศาลาการเปรียญ โดยมีนายคะนึง จันบาง อายุ 48 ปี เป็นแกนนำ เพื่อประท้วงกรณี พระครูปลัดอภิชาติ สุวรรณโชโต เจ้าอาวาสวัดศรีประชาและเจ้าคณะตำบลชะแมบ ปิดประตูพร้อมล็อกกุญแจศาลาการเปรียญ ไม่ยอมให้เข้าไปทำบุญ ทั้งที่เมื่อวานนี้ตรงกับวันพระ

          จากการสอบถาม ทำให้ทราบว่า ก่อนหน้านี้ พระครูปลัดอภิชาติ ไม่พอใจชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายในวัด ท่านจึงทำการล็อกประตูศาลาการเปรียญตั้งแต่เช้ามืด ก่อนที่จะเดินทางออกจากวัดไปพร้อมผู้ช่วยเจ้าอาวาส โดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ ทำให้ชาวบ้านผู้สูงอายุที่นุ่งขาวห่มขาว ตั้งใจจะมาถือศีลทำบุญ ต่างไม่พอใจ และเรียกร้องให้ทางวัดเปิดประตูศาลาการเปรียญ 

          อย่างไรก็ตาม ทางพระลูกวัดไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากลูกกุญแจทั้ง 2 ดอก อยู่ที่พระครูปลัดอภิชาติ และผู้ช่วยเจ้าอาวาส และเมื่อเวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ชาวบ้านก็เริ่มไม่พอใจมากขึ้น จนกระทั่งมีการตะโกนเพื่อเรียกร้องให้เปิดประตู แต่พระลูกวัดก็ไม่สามารถทำอะไรได้

 

วัดศรีประชา


          นอกจากนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พระมหาวีระยุทธ เจ้าคณะอำเภอวังน้อย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความไม่เข้าใจกันระหว่างชาวบ้านกับเจ้าอาวาส ซึ่งมีชนวนเหตุมากจาก 2 เรื่อง ดังนี้

          1. ก่อนหน้านี้เกิดความขัดแย้งกันเองของกลุ่มพระสงฆ์ในวัด และลุกลามไปถึงชาวบ้านในชุมชน โดยเฉพาะกรณีการตรวจสอบการบริหารจัดการภายในวัด เช่น การแต่งตั้งกรรมการวัดที่ไม่โปร่งใส

          2. ความไม่โปร่งใสของโครงการก่อสร้างวิหารน้อยที่จะใช้ประดิษฐานพระพุทธรูป ฉลองสัมพุทธชยันตี 2,600ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

          ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ได้มีชาวบ้านไปทักท้วง จนพระครูปลัดอภิชาติ เกิดความไม่สบายใจ และ ในวันพระที่มีการทำบุญ พบว่า มีชาวบ้านบางกลุ่มเข้ามาสร้างความปั่นป่วนอีก ดังนั้นพระครูปลัดอภิชาติ จึงตัดสินใจปิดประตูศาลา ไม่ให้ใครเข้ามาทำบุญเลย   

          ทั้งนี้ พระมหาวีระยุทธ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ปัญหาจะต้องตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย คือ ตัวแทนชาวบ้าน เจ้าอาวาส และคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง มาหารือร่วมกันเพื่อหาข้อยุติ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางวัดเคยเรียกชาวบ้านมาประชุมแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังหาทางออกไม่ได้ จนเรื่องบานปลายมากขึ้น

          ขณะที่ นางสายสุดา โพธิ์ศรี อายุ 63 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า การปิดศาลาการเปรียญห้ามเข้าไปทำบุญในวันพระช่วงเข้าพรรษาแบบนี้ ทำให้ชาวบ้านรู้สึก ไม่ดี หากแก้ไขปัญหาไม่ได้ ก็อาจมีการรวมตัวประท้วงเพื่อขับไล่เจ้าอาวาส ซึ่งก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น  

 

 

 
 
 
 
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X