แม้ว่า"ไมลีย์ ไซรัส" อดีตทีนควีนสาวชื่อดังจะตกเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลกกับพฤติกรรมฉาวเกินงามขณะขึ้นแสดงบนเวที MTV VMAs ร่วมกับ"โรบิน ธิค"พร้อมกับกระแสวิจารณ์ด้านลบไปทั่ว แต่"คานเย เวสต์"นักร้องดังที่ฉาวไม่แพ้กันกลับให้ความสนใจคว้าตัวร่วมงานในนาทีสุดท้าย
       
       คานเย เวสต์ นักร้องสุดฉาววัย 36 ปีที่เคยก่อคดีเมาแล้วขึ้นไปแย่งไมค์ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ขณะขึ้นรับรางวัลบนเวที MTV VMAs ปี 2009 โดยระบุว่าเทย์เลอร์ไม่เหมาะสมคนที่สมควรได้รางวัลกลับบ้านคือบียอนเซ จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก
       
       ล่าสุดคานเย เจอมวยถูกคู่จับไมลีย์ ไซรัส นักร้องสาววัย 20 ปีที่กำลังเป็นข่าวฉาวจากเวทีเดียวกันมาร่วมงานในเพลงใหม่อย่าง Black Skinhead เสียเลย
       
       โดยแหล่งข่าวบอกกับทางอัส วีคลีย์ ว่านักร้องคู่นี้นัดเจอกันหลังงานประกาศผลรางวัล VMAs โดยไมลีย์ไม่ได้เข้าร่วมงานปาร์ตี้หลังงานประกาศผลที่ถูกจัดไว้ เพื่อไปพูดคุยเรื่องงานเพลงที่ถูกนัดหมายขึ้นอย่างกระทันหันแทน
       
       แหล่งข่าววงในระบุด้วยว่า การร่วมงานกันครั้งนี้เกิดขึ้นแทบจะเรียกได้ว่านาทีสุดท้าย จากความหัวไวของคานเย ที่ค้นพบโอกาสเหมาะในการทำงานร่วมกับนักร้องสาวที่เพิ่งเป็นข่าวฉาวถูกพาดหัวข่าวไปทั่วโลกจากการแสดงสุดเอ็กซ์บนเวที
       
       "เขาอยู่ในช่วงไอเดียกำลังบรรเจิด" แหล่งข่าวเผย "แน่นอนว่าเขาทำทุกอย่างในนาทีสุดท้าย และตัดสินใจที่จะยึดเอาพลังเหลือล้นเหล่านั้นไว้แล้วก็จัดการบันทึกเสียงเลยหลังจากที่เธอเพิ่งขึ้นแสดง พวกเขาตัดสินใจกันในคืนนั้นเลย"
       
       ทั้งคู่ไม่เพียงแค่จะทำงานร่วมงานกันในเพลงเดียวเท่านั้น แต่พวกเขาได้ทดลองงานร่วมกันมาแล้วในหลายๆเพลงจากอัลบั้มใหม่ของไมลีย์ที่ชื่อว่า Bangerz ซึ่งจะปล่อยออกมาในวันที่ 4 ต.ค. นี้
       
       แม้ว่าไมลีย์ จะถูกกระแสโจมตีอย่างหนักจากการแสดงบนเวที MTV ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าไมลีย์ ก็ยังเป็นที่ต้องการอย่างสูงจากผู้คนในวงการเพลง
       
       โดยผลงานเพลงล่าสุดที่ไมลีย์ ได้ร่วมงานกับ จัสติน บีเบอร์ อย่าง Twerk ก็เพิ่งถูกปล่อยออกมาสู่โลกออนไลน์ได้ไม่นานหลังจากที่ไมลีย์ ตกเป็นข่าวเรื่องการแสดงสุดฉาว
       
       ในส่วนของการแสดงที่ถูกวิพากษ์อย่างหนาหูนี้ มีรายงานด้วยว่าทีมงานของไมลีย์ที่เห็นการแสดงของเธอบนเวทีต่างก็รู้สึกแย่ไปตามๆกัน โดยแหล่งข่าวระบุว่า "ทีมงานของไมลีย์ช็อคมากกับการแสดง พวกเขาได้ดูตอนซ้อมแล้วแต่การแสดงดูซอฟท์กว่านี้มากถ้าเทียบกับตอนแสดงสด"
       
       แต่แม้คนทั่วไปจะผิดหวังกับการแสดงของไมลีย์ แต่กับไดแอน มาร์เทล ผู้อยู่เบื้องหลังมิสิควิดีโอ We Can't Stop และ Blurred Lines ของโรบิน ธิค ก็ได้ยืนยันว่าเธอจะให้กำลังใจสนับสนุนไมลีย์ อดีตเด็กดิสนีย์ต่อไป หลังได้เห็นเธอใช้นิ้วโฟมยักษ์ลูบไล้ไปที่ส่วนสำคัญของโรบิน ธิค พร้อมระบุว่านั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักนิด 
       
       "ไมลีย์มีไอเดียอยู่แล้วว่าเธออยากจะให้การแสดงออกมาเป็นอย่างไร ในเพลง Blurred Lines ฉันได้ตัดสินใจใช้นิ้วโฟมยักษ์ ซึ่งไมลีย์ก็นำมันไปใช้และเล่นกับมันได้เป็นอย่างดี ตอนนี้เธอไปไกลเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ และฉันก็จะอยู่ตรงนั้นข้างเธอ"
       
       ไดแอน ยังกล่าวถึงผู้คนที่วิจารณ์เกี่ยวกับการแลบลิ้นของไมลีย์ โดยระบุว่าเป็นปัญหาช่องว่างระหว่างวัยทำให้ไม่เข้าใจถึงการแสดงออกของนักร้องสาว พร้อมออกโรงเตือนอยากให้ทุกคนไปสนใจเรื่องอื่นที่มีสาระน่าสนใจกว่า 
       
       "สำหรับทีมงานแก่ๆ การแลบลิ้นแบบนั้นไม่ใช่เรื่องทางเพศนะคะ มันเป็นโค้ดส่วนตัวของแต่ละบุคคล มันเป็นการเหน็บแนมที่น่ารัก มันไม่ได้ชี้เฉพาะไปที่คุณ แต่มันสำหรับกลุ่มผู้ชมเด็กๆ ดูเหมือนว่าจะมีช่องว่างระหว่างวัยที่กว้างมากๆ...ฉันช็อคกับสิ่งที่พวกเขาช็อคกันมากกว่า ฉันว่ามันยังมีข่าวอย่างอื่นอีกที่เราควรจะหันไปโฟกัสนะ...อียิปต์งี้ ,ซีเรียงี้ จากใจของฉันเลยนะคะ คุณแค่มีเด็กสาวที่กำลังเล่นสนุกไปกับการแสดงก็เท่านั้น"

http://www.manager.co.th