|
หลังจากเคยนำประสบการณ์ฝันร้ายสิวเห่อบนทุกตารางนิ้วบนใบหน้าของ คุณบันบัน บิ วตี้บล็อกเกอร์คนสวยจากประเทศสิงคโปร์มาฝากกันไปแล้ว อาการแพ้ใน 4 วันแรกของเธอช่างหนักหนาสาหัสเกินกว่าสิวธรรมดาอยู่หลายเท่า และเธอได้ทิ้งท้ายไว้ว่าในที่สุดก็ได้ไปพบแพทย์ จนคิดว่าการรักษาน่าจะเดินมาถูกทางแล้ว หลังจากวันนั้นมาอาการของเธอเป็นอย่างไรต่อบ้าง เราติดตามความคืบหน้ามาอัพเดทให้ได้ทราบกันแล้วค่ะ
หลัง สิวปะทุขึ้นมาถึงวันที่ 4 คุณบันบันได้ไปพบแพทย์มาถึงสองราย ซึ่งรายแรกจ่ายยาหมดอายุให้เธอมาหลอดหนึ่ง แม้จะได้รับการเปลี่ยนหลอดใหม่ที่ถูกต้องแล้ว แต่ความเชื่อใจที่หายไปฮวบฮาบ เธอจึงได้ไปพบแพทย์คนที่สองที่รู้สึกว่าน่าเชื่อถือมากกว่า ได้คำวินิจฉัยว่าเธอน่าจะแพ้สารผสมบางอย่างในการทำทรีทเม้นท์ ก่อนจะได้รับยาชุดใหม่กลับไป อย่างไรก็ดีในคืนวันที่ 4 อาการสิวของเธอก็ยังคงปะทุขึ้นมาอีกอย่างน่ากลัว เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
หลังจากรับประทานยาไปแล้ว อาการสิวในวันที่ 5 ของเธอก็ดูทุเลาลงบ้าง ตุ่มหนองบางส่วนเริ่มแห้ง แต่ก็มีอีกหลายตุ่มใหม่ที่แข่งกันผุดพรายขึ้นมา ทั้งยังลามไปถึงที่ลำคอด้วย ซึ่งเธอบอกว่าตุ่มเหล่านี้ทั้งทำให้รู้สึกเจ็บ รั้งผิว รวมถึงคันมากทีเดียว
แพทย์ผิวหนังท่านนี้ได้จ่ายยาให้กับเธอใหม่ หนึ่งในนั้นคือยาตัวเดียวกับที่ได้จากคุณหมอท่านที่สอง นอกจากนั้นยังมีเจลล้างหน้าและโลชั่นอีกอย่างละ 1 ตัว อย่างไรก็ดี อาการในคืนวันที่ 6 ของเธอก็ดีขึ้นกว่าตอนเช้าเสียอีก โดยเธอสรุปคร่าว ๆ ว่า 3 ปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าของเธอเริ่มดีขึ้นก็คือ ไม่มีการเจาะเค้นเอาหนองออกอีก ซึ่งเป็นการรบกวนผิวหน้าอย่างมาก, ได้พบแพทย์ที่ดี และยาที่รักษาได้ตรงอาการ และประการสุดท้ายก็คือ ได้กำลังใจดี ๆ ที่ได้จากคนรอบตัวทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาก "ยาที่รักษาทางใจก็สำคัญไม่แพ้ยาที่รักษาอาการภายนอกเลย"
วันที่ 7 สิวหนองต่าง ๆ ยุบลงไปแทบทั้งหมด เหลือก็แต่รอยแดงและความไม่สม่ำเสมอของสีผิวที่เห็นได้ชัดเจน
ข้ามมาดูวันที่ 10 สิวต่าง ๆ ยุบและแห้งหายไปหมดแล้ว เธอขอบคุณแฟนบล็อกหลาย ๆ คนที่เตือนเข้ามาว่า ยาที่เธอกินอยู่ (Prednisolone) อาจมีผลข้างเคียงให้ตัวบวมและน้ำหนักขึ้น และได้ชี้แจงว่าคุณหมอผิวหนังให้มากินในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ซึ่งเธอกินครบโดสแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงยาทาอย่างเดียว
ในวันที่ 17 คุณบันบันบอกว่ามีสิวขึ้นเพิ่มมาสองเม็ด แต่มันเป็นสิวที่ทำให้เธอรู้สึกดีใจ เพราะอย่างน้อยมันคือสิวที่เป็นสิวจริง ๆ ไม่ใช่สิวหนองที่ผุดขึ้นมาเพราะอาการแพ้
ส่วนรูปที่อัพเดทอาการล่าสุดของเธอในตอนนี้ คือใบหน้าในวันที่ 18 หลังการแพ้ทรีทเม้นท์สิวเห่อ สิวโดยรวมทั่วไปหน้าดีขึ้นกว่าเดิมมาก นั่นเป็นสัญญาณว่าผิวหน้าตอบสนองต่อยาเป็นอย่างดี แม้ในตอนนี้จะมีปัญหาผิวลอกเป็นขุยทั่วใบหน้าอยู่บ้างก็ตาม ซึ่งเธอคิดว่าน่าจะเป็นอาการของผิวที่กำลังผลัดตัวเอง
ท้าย ที่สุดคุณบันบัน ก็ได้ฝากข้อคิดและข้อเตือนใจหลาย ๆ อย่างไว้ให้กับชาวบล็อก และสาว ๆ ผู้รักสวยรักงามเช่นเธอ หากเกิดอาการผิดปกติอะไรก็ตามขึ้นกับผิว เธอแนะนำว่า "อย่าวินิจฉัยอาการด้วยตัวเอง" อย่าเชื่อไปเองว่าต้องกินอย่างนั้นถึงจะดี ต้องทำแบบนี้ถึงจะหาย ทางที่ดีที่สุดและน่าจะช่วยรักษาได้ตรงอาการและเห็นผลมากที่สุด คือการไปพบแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งก็คือแพทย์ผิวหนังนั่นเอง แต่เธอก็ไม่ได้ห้ามให้คนอื่นทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ กับใบหน้า เธอยังคงยืนยันว่าหากหายดีเธอเองก็จะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อดูแลผิวและประทินความสวยความงามต่อไป หากได้ผลดีก็พร้อมจะมาบอกต่อตามประสาบิวตี้ บล็อกเกอร์ อย่างที่เธอเคยเป็น และมันก็เป็นงานที่เธอรัก แต่เธอก็จะระมัดระวังมากขึ้นในการเลือกใช้ แน่นอนว่าการอ่านรายละเอียดส่วนประกอบก่อนใช้นั้นสำคัญมาก และการได้ทดสอบอาการแพ้กับผิวบอบบางส่วนอื่น ๆ ของร่างกายในบริเวณเล็ก ๆ ก่อนจะมาลองใช้กับผิวหน้าก็เป็นเรื่อง "จำเป็น" ที่ต้องทำทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
นอกจากเรื่องนี้แล้ว เธอยังย้ำชัด ๆ อีกครั้ง ยืนยันความคิดเธอนับแต่ครั้งแรกที่สิวหนองเป็นร้อยเม็ดปะทุขึ้นบนผิวหน้า ก็คือการไม่มองคนที่มีสภาพผิวหน้าแย่ ๆ ล่วงหน้าไปในแง่ไม่ดี คุณบันบันบอกว่า มีอีกหลายคนที่ประสบปัญหาไม่ต่างไปจากเธอ และไม่ใช่เพียงปัญหาผิวหน้าเท่านั้น ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกอย่างเรื่องน้ำหนักตัว ผมร่วง หรืออื่น ๆ ด้วย หลาย ๆ คนต้องอยู่กับปัญหาเหล่านั้นนานเป็นปี ๆ ไม่ใช่แค่เป็นวัน เป็นเดือน หรือเป็นปัญหาปุบปับชั่วครั้งชั่วคราวอย่างเธอ แต่เขาก็ต้องทนใช้ชีวิตอยู่กับให้ได้ ซึ่งในตอนนี้เธอเข้าใจอย่างสุดซึ้งแล้วว่าความรู้สึกที่ผสมปนเปไปด้วยความ เจ็บปวด ความอับอาย ความมั่นใจหดหาย ขาดโอกาสดี ๆ บางประการในชีวิตไป แถมสุขภาพจิตก็เสียนั้นเป็นอย่างไร ไม่มีใครที่ไม่อยากหาย ไม่มีใครที่ไม่เคยขวนขวายหาหนทางรักษา
เธออยากจะเป็นหนึ่งเสียงแทนพวกเขาที่ "ไม่เพอร์เฟคท์" เหล่า นี้ว่า แท้จริงแล้วคนกลุ่มนี้คือคนที่เข้มแข็งที่สุด และกล้าหาญที่สุด ที่สามารถผ่านสายตาที่มองมาอย่างดูถูก เหยียดหยัน ล้อเลียน ถูกมองว่าด้อยกว่า มองว่าไม่รู้จักดูแลตัวเอง หรือความคิดในแง่ลบอื่น ๆ มาได้ เพราะเชื่อว่าไม่มีใครเต็มใจที่จะเผชิญกับเรื่องไม่น่าพึงใจเหล่านี้ และต่างก็ต้องการเป็นปกติเหมือนกับคนอื่น ๆ ทั้งนั้น พวกเขาเหล่านี้ต่างหากที่เราควรจะศึกษาไว้ว่าเขาผ่านมันมาได้อย่างไร ปล่อยวางได้อย่างไร เธอได้เข้าใจแล้วเพราะสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วกับตัวเธอเอง และก็อยากให้คนอื่น ๆ ได้ลองปรับความคิดของตัวเองดูด้วยเช่นกัน
นับว่าประสบการณ์สิวของคุณบันบันได้ให้อะไรมากกว่าแค่วิธีดูแลตัวเองจริง ๆ และขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจส่งถึงเธอให้ร่องรอยสิวและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอของ เธอหายวันหายคืนโดยไวด้วยนะคะ