ผ่าตัดปรับเปลี่ยนโฉมหน้า เรื่องจริงไม่อิงนิยายที่ศัลยกรรมทำได้ (สวยด้วยแพทย์)

คุณผู้อ่านที่เคยอ่านนิยายหรือดูหนังที่ตัวละครทำศัลยกรรมแปลงโฉม จนหน้าตาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน คงแอบคิดสิว่า ผู้แต่งต้องโม้หรือไม่ก็มีจินตนาการล้ำยุคเสียจริง ๆ อันที่จริงความก้าวหน้าทางการแพทย์สมัยนี้ สามารถเปลี่ยนหน้าตาชนิดที่ว่าไม่เหลือเค้าเดิมได้แล้ว และไม่ใช่เรื่องยากเกินฝีมือศัลยแพทย์ไทยด้วย

การทำศัลยกรรมตกแต่งนอกจากช่วยเพิ่มความสวยงาม เช่น การเสริมจมูก ทำตาสองชั้น ฯลฯ ยังให้คุณประโยชน์สำหรับผู้ป่วยบางกลุ่ม อย่างกรณีโครงการเปลี่ยนใบหน้า ซึ่งทางรพ.ยันฮี ได้ให้การช่วยเหลือเด็กสาวที่ถูกน้ำกรดกระเด็นเข้าหน้าเสียโฉม โดยทีมแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งของ รพ.ยันฮี ได้ผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าที่อัปลักษณ์ของเด็กสาวจนสำเร็จ ทำให้เธอกลับเข้าสังคมได้อีกครั้งอย่างมั่นใจ

สำหรับการทำศัลยกรรมปรับเปลี่ยนโฉมหน้า คนที่ต้องการทำมักมีจุดประสงค์ต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ก็อยากให้ใบหน้าดูดีขึ้นสวยขึ้น เช่น อยากมีหน้าตาคล้ายดาราที่ตนเองชื่นชอบ เป็นต้น

การผ่าตัดเปลี่ยนโฉมหน้าต้องอาศัยการผ่าตัดหลายอย่างร่วมกัน ลักษณะรูปหน้าของแต่ละบุคคล การทำผ่าตัดเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การเสริมจมูก ทำตา 2 ชั้น ตัดคาง เสริมคาง จะไม่ทำให้หน้าเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง ส่วนใหญ่การผ่าตัดที่ทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปมาก มักจะเป็นการเสริมหน้าผาก การฉีดไขมันเข้าแก้ม การทำตา 2 ชั้น ในบางรายที่จมูกแบนไม่มีดั้งจมูก ก็อาจจะทำการเสริมจมูกด้วย ผลที่ออกมาคือเพื่อน ผู้ใกล้ชิดอาจจะจำไม่ได้ เมื่อดูเพียงลักษณะภายนอก แต่ถ้าได้ยินเสียงก็อาจจะจำได้

ขั้นตอนการผ่าตัด

ในการเปลี่ยนโฉมหน้าศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด จะต้องอธิบายให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดเข้าใจในหลาย ๆ ด้าน ได้แก่

- รูปหน้าที่จะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว โดยจะใช้คอมพิวเตอร์แสดงรูปใบหน้า ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดซ้อนกับรูปหน้าที่ต้องการ ศัลยแพทย์จะวิเคราะห์ดูว่า จะสามารถทำผ่าตัดให้ได้เหมือนกับที่ต้องการมากน้อยเพียงใด ซึ่งขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อของผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัด ว่าจะทนต่อการเปลี่ยนแปลงได้ขนาดใด

- ค่าใช้จ่ายในการทำผ่าตัด ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าต้องทำผ่าตัดหลายอย่างหรือไม่ ถ้าทำมาก ค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้น

- ผู้รับการผ่าตัดต้องยอมรับได้ว่า เอกลักษณ์เดิมที่มีอยู่ในตัวจะหายไป

- ศัลยแพทย์จะไม่แนะนำผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป รับการผ่าตัดเปลี่ยนโฉมหน้าเนื่องจากผู้ที่มีอายุน้อย กระดูกยังไม่เจริญเต็มที่ ส่วนผู้ที่มีอายุมากแล้ว มีความเสี่ยงต่อหลายอย่าง เช่น กระดูกเปราะง่าย แผลหายช้ากว่าปกติ ความอดทนต่อการผ่าตัดลดน้อยลง

การผ่าตัดและผลการผ่าตัด


การทำผ่าตัดเปลี่ยนโฉมหน้า จะได้ผลดีเพียงใด ขึ้นอยู่กับรูปลักษณะของแต่ละบุคคลว่าทำได้ง่ายหรือยาก เช่น คนที่มีใบหน้าใหญ่มากๆ ทำได้ยากกว่าคนที่มีใบหน้าเล็ก เนื่องจากผู้ที่มีใบหน้าใหญ่จะต้องผ่าตัดทำให้ใบหน้าเล็กลง โดยการตัดกระดูกให้ยุบเข้าไป ซึ่งทำได้ยาก ส่วนผู้ที่มีใบหน้าเล็กจะใช้วิธีการเสริมโดยใช้วัสดุเทียม ซิลิโคน สารสังเคราะห์ เข้าไปวางทำให้ดูหน้าใหญ่ขึ้น ไม่ต้องตัดกระดูกส่วนใดทิ้ง

การผ่าตัดเปลี่ยนแปลงใบหน้าอาจมีผลต่อระบบประสาทบนใบหน้าบ้าง แต่เป็นการชั่วคราวเท่านั้น ศัลยแพทย์จะหลีกเลี่ยงบริเวณผ่าตัด ที่จะมีผลต่อเส้นประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้า เช่น การหลับตา ยิ้ม ยักคิ้ว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดที่ต้องยกผิวหนังจากส่วนที่เกาะขึ้นมา ก็อาจจะกระทบกระเทือนเส้นประสาทบริเวณนั้นได้บ้าง ทำให้เกิดอาการชา แต่จะหายไปภายใน 6 เดือน ยกตัวอย่างเช่น การดึงหน้า หลังจากทำแล้วจะเกิดอาการชาบริเวณหน้ากกหูได้ แม้จะไม่ได้ตัดเส้นประสาท แต่เส้นประสาทเล็กๆ บริเวณนั้นจะถูกทำลายไปบ้าง แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายได้เอง ภายใน 6 เดือน ในเรื่องของการตอบสนองต่อสิ่งสัมผัสต่างๆ จะยังคงมีอยู่ อาจรู้สึกน้อยลงกว่าเดิม ไม่ไวเท่าเดิม จะเป็นปกติภายใน 6 เดือนเช่นเดียวกัน

การเปลี่ยนแปลงใบหน้าไม่มีกฎที่แน่นอนว่าต้องทำส่วนใดหรือ ต้องทำอะไรบ้าง ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดนั้น ต้องการเปลี่ยนลักษณะให้เป็นอย่างไร ศัลยแพทย์จะพิจารณาและวิเคราะห์เป็นส่วนๆ เช่น ในบางคนมีสันจมูกที่โด่ง เรียวสวยอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเสริมจมูกเพิ่ม โดยยึดหลักเปลี่ยนแปลงส่วนที่ยังไม่สวยให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม การเปลี่ยนแปลงโฉมหน้ามากหรือน้อยนั้น ต้องดูความต้องการของผู้เข้ารับการผ่าตัดด้วยว่า ต้องการเปลี่ยนให้มาก ให้ใคร ๆ จำหน้าไม่ได้ โดยศัลยแพทย์ต้องพิจารณาว่าสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด

ส่วนของแผลจากการผ่าตัดนั้น จะถูกซ่อนไว้ในบริเวณที่คนภายนอกมองไม่เห็น เช่น ในปาก ไรผม หลังหู หน้าหู ในช่วง 2-3 เดือนแรกหลังผ่าตัด ผู้รับการผ่าตัดอาจจะมีใบหน้าบวมเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นใบหน้าจะหายบวมกลับเข้าสู่สภาพปกติ

การทำผ่าตัดเปลี่ยนโฉมหน้า โดยทั่วไปศัลยแพทย์จะไม่แนะนำให้ทำพร้อมกันทีเดียว ทั้งที่โดยความเป็นจริงแล้วสามารถทำได้ เพราะศัลยแพทย์ต้องการให้ผู้ที่รับการผ่าตัดค่อย ๆ ดูความเปลี่ยนแปลงว่าชอบหรือไม่ ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการหรือไม่ ทั้งยังช่วยให้ไม่ต้องเจ็บปวดกับแผลหลายแผลพร้อมกัน

ในกรณีที่ผู้รับการผ่าตัด ต้องการเปลี่ยนแปลงใบหน้าให้กลับมาเหมือนเดิมก่อนผ่าตัด ได้หรือไม่นั้น ขึ้นกับว่าการทำผ่าตัดนั้นทำอะไรบ้าง ถ้าเป็นเพียงเฉพาะส่วนของการเสริม ศัลยแพทย์สามารถดึงส่วนที่เสริมออกก็จะกลับมาเหมือนเดิม เช่น เสริมจมูก หน้าผาก คาง ขมับ แต่กรณีที่ตัดกระดูกออกไป เช่น การตัดกราม โหนกแก้มทิ้งไป การจะทำให้รูปหน้ากลับมาเหมือนเดิมคงทำได้ยาก

การเปลี่ยนแปลงใบหน้านั้นประกอบด้วย การผ่าตัดหลาย ๆ ส่วน แต่ละคนอาจจะทำไม่เหมือนกันขึ้นกับรูปลักษณะของแต่ละบุคคล และส่วนที่จะเปลี่ยนไปว่าอำนวยต่อการเปลี่ยนแปลงเพียงใด การผ่าตัดที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก จนไม่เหลือเค้าโครงเดิม จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงจุดเด่นบนใบหน้าหลายๆ ส่วนพร้อมกัน ซึ่งต้องการการผ่าตัดทั้งเล็กและใหญ่ โดยเฉพาะโครงสร้างกระดูกใบหน้า ผลการผ่าตัดที่เหมาะสมมักจะได้ผลดีเป็นที่พอใจ แต่ทั้งนี้ความมุ่งหมายในการเปลี่ยนแปลงใบหน้า เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งศัลยแพทย์ตกแต่งจำเป็นต้องประเมินก่อนทำการผ่าตัด เพื่อมีให้เกิดความผิดพลาดจากสิ่งที่ผู้ป่วยคาดหวัง และผลการผ่าตัดที่ได้รับ แต่โดยทั่วไป แพทย์มักจะไม่แนะนำการเปลี่ยนแปลงใบหน้ามากจนไม่เหลือเค้าโครง หรือเอกลักษณ์ประจำตัวเดิม เนื่องจากอาจมีปัญหาต่อบุคคลรอบข้าง และการใช้ชีวิตหลังการผ่าตัดได้เช่นกัน

ข้อมูลจาก

หนังสือสวยด้วยแพทย์