สั่งเด้ง ผกก.บ่อผุด เกาะสมุย หลังหนุ่มออสซี่ร้องเรียนผ่านรายการดัง
2012-12-04 14:51:18
Advertisement
คลิก!!!
หนุ่มออสซี่ โจมตีตำรวจไทย
 
 
 
          สั่งเด้ง ผกก.บ่อผุด เกาะสมุย แล้ว หลังเกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวร้องเรียนผ่านสื่อชื่อดังในออสเตรเลีย เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ผบ.ตร. สั่งเร่งดำเนินการตรวจสอบ
 
          หลังจากมีรายงานเรื่อง นาย เจมมี่ คีท นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ร้องเรียนผ่านรายการโทรทัศน์ดังของออสเตรเลีย กรณีที่เขากับแฟนสาว นิโคล ฟิกซิมอนส์ เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย ประเทศไทย และประสบอุบัติเหตุจาก การขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่ได้สวมหมวกนิรภัย เนื่องจากถูกรถจักรยานที่ขับตามมาชนเข้าอย่างจัง ขณะกำลังจะเลี้ยวรถเข้าที่พัก จนแฟนสาวของเขาต้องเสียชีวิต และเมื่อไปยังโรงพัก เขากลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย โยนเอกสารที่เป็นภาษาไทยให้เขาเซ็นยอมรับผิด ในข้อหาขับรถประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เพื่อแลกกับพาสปอร์ตของเขาซึ่งถูกยึดไว้ แต่เขาไม่ยอม จนในที่สุดก็จำใจต้องเซ็นชื่อ ในอีก 6 วันต่อมา นอกจากนี้ นายเจมมี่ ยังระบุด้วยว่า ตำรวจไทยไร้ความยุติธรรม บิดเบือนทุกอย่างได้เพื่อความต้องการ รวมถึงมีการรับสินบนอีกด้วย
 
          จากกรณีดังกล่าว ซึ่งได้ถูกนำเสนอผ่านทางรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน และได้มีการติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้วนั้น ล่าสุด (30 พฤศจิกายน) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยสั่งการให้ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ10) ลงพื้นที่กำกับดูแลคดีที่เกิดขึ้น และตรวจสอบวงจรปิดอย่างละเอียดทั้งหมด หากพบมีการกระทำผิดจริง จะเข้าข่ายความผิดวินัยร้ายแรง
 
          ด้าน พล.ต.ท.ยงยุทธ วานิชเจริญ ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสำนวนการสอบสวน พบพนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง กรณีไม่แจ้งข้อหากับคนไทยที่ขี่รถจักรยานยนต์ชนรถของนักท่องเที่ยวจนเสีย ชีวิต แต่กลับแจ้งข้อหากับนักท่องเที่ยวที่ถูกรถชนเพียงฝ่ายเดียว จึงถือเป็นความบกพร่องในหน้าที่ และสั่งการให้ พ.ต.อ.สำราญ มาเจริญ ผกก.สภ.บ่อผุด ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ บช.ภ.8 อย่างไม่มีกำหนด พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าว ใหม่ทั้งหมด โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.กิติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รอง ผบช.ภ.8 เข้าควบคุมการสอบสวน และทำรายงานชี้แจง ผบ.ตร.โดยเร็วที่สุด
 
          ขณะที่ พ.ต.อ.สำราญ กล่าวว่า จากการตรวจสอบคดีดังกล่าว พบว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำคู่กรณีและแจ้งข้อหาทั้ง 2 ฝ่าย ฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมแจ้งข้อหานายเจมี่ไม่สวมหมวกนิรภัยและไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถ ส่วนสาเหตุที่ น.ส.นิโคล เสียชีวิต มาจากสมองได้รับความกระทบกระเทือน เนื่องจากไม่สวมหมวกนิรภัย โดยได้เชิญผู้จัดการโรงแรมบัดดี้สมุย ไกด์ และเจ้าของร้านรถเช่า มาเจรจาค่าเสียหาย
 
          ทั้งนี้ พ.ต.อ.สำราญ ระบุว่า จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่า นายเจมี่ ขี่รถออกจากบ้านละไม เพื่อเดินทางกลับโรงแรมบัดดี้สมุย แต่เมื่อขี่รถถึงหน้าโรงแรมและอยู่ถนนฝั่งซ้ายสุด จู่ ๆ เขากลับเปิดไฟเลี้ยวขวาและเลี้ยวรถ ทำให้นายก้องหล้า สาตื้อ อายุ 21 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ ที่ขี่รถตามหลังมา เบรกไม่ทัน และพุ่งชนรถนายเจมี่ จนทำให้ น.ส.นิโคล ตกจากรถ และเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เป็นไปได้ว่า อาจเป็นเพราะนายเจมี่ หลงลืมช่องจราจรที่แตกต่างกันระหว่างประเทศนั่นเอง
 
          ส่วนการให้เซ็นชื่อในเอกสารภาษาไทยนั้น พ.ต.อ.สำราญ ชี้แจงว่า เป็นเพียงบันทึกสำนวนของตำรวจ รวมทั้งข้อตกลงเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้น และการยึดหนังสือเดินทางของนายเจมี่ไว้ ก็เป็นขั้นตอนการทำงานของตำรวจ ที่ต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานการสอบสวน จนมีการเซ็นรับทราบข้อหาแล้ว จึงได้คืนหนังสือเดินทางให้ โดยไม่ได้มีการแลกเปลี่ยนเรื่องเงินทองและไม่มีข้อเรียกร้องต่อกันแต่อย่างใด ซึ่ง คาดว่านายเจมี่อาจไม่เข้าใจกฎหมายไทย เพราะความจริงแล้วจะต้องมีการส่งฟ้องศาลก่อน แต่เพราะเจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและมีกำหนดเดินทางกลับ ประเทศ จึงได้คืนหนังสือเดินทางให้ก่อน
 
          ด้าน นายทนงศักดิ์ สมวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวต้องได้ความยุติธรรม สำหรับตอนนี้ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าฝ่ายใดผิดหรือถูก จึงอยากฝากไปยังตำรวจว่า ต้องทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะเป็นคดีที่ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย อยู่ในอันดับต้น ๆ ของกลุ่มนักท่องเที่ยวบนเกาะสมุย และตอนนี้ก็อยู่ในช่วงใกล้ฤดูกาลท่องเที่ยวอีกด้วย
 
 
 
 
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X