|
จีน ตอกจีทูเจี๊ยะ! ทูตชี้ไม่มีสัญญา-แอลซีข้าวมาร์คเตือนกระทบสัมพันธ์ (ไทยโพสต์)
ทูต จีน ยัน ไม่เคยมีสัญญาซื้อขายข้าว 5 ล้านตัน แค่ลงนามในหลักการ ยันไม่มีการเปิดแอลซี รัฐบาลจีนไม่ได้ซื้อ แต่ชักนำเอกชนให้ไปตกลงกันเองในไทย ไม่ทราบโอนเงินอย่างไร
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 16.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ คณะโรงเรียนการเมืองของประเทศจีน นำโดยรองผู้อำนวยการการเมือง จากกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ พร้อมกับนายก่วน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้เดินทางมาเยือนพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังรอง ผอ.การเมืองของจีน บรรยายเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของประเทศจีนในทางเศรษฐกิจและการเมือง
ทั้งนี้ นายก่วน มู่ ให้สัมภาษณ์ถึงการขายข้าวแบบจีทูจีระหว่างไทยกับจีนว่า เป็นประเพณีที่เกิดขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว เพราะประเทศไทยผลิตข้าวมากที่สุด และขายข้าวได้เป็นอันดับหนึ่งของโลกตลอดมา จึงมีการหารือกันขอให้จีนซื้อข้าวเพิ่มเพื่อช่วยเหลือชาวนาไทยให้มีรายได้ดี ขึ้น ซึ่งต่อมาก็มีการลงนามในข้อตกลงสนับสนุนค้าสินค้าเกษตร และสนับสนุนการค้าและวางแผนงาน 5 ปีด้านการเกษตร
เขาบอกว่า เรื่องข้าวนั้นถือว่ามีความสำคัญมากกว่ายางพาราและมันสำปะหลัง หรือผลไม้อื่น แต่ข้าวก็ถือว่าขายลำบาก แต่ตามประเพณีที่ปฏิบัติมา จีนก็เห็นว่าควรที่จะสนับสนุน จึงลงนามในหลักการระหว่างรัฐบาลเป็นในระดับหลักการเท่านั้น แต่ถ้าจะซื้อขายจริง ๆ จะมอบหมายให้บริษัทไปหารือกับประเทศไทยโดยตรง
"ทราบว่ามีการเซ็นสัญญากับบริษัทแล้วประมาณหลายแสนตัน แต่ไม่เคยมีสัญญาซื้อขาย 5 ล้านตันตามที่รัฐบาลไทยกล่าวอ้าง เพราะจีนไม่ได้ซื้อข้าวจากไทยประเทศเดียวจึงไม่ได้ซื้อมากมาย เพราะเราก็ไม่ได้ขาดข้าวอยู่แล้ว เพียงแต่ซื้อเพื่อปรับตามความต้องการของตลาดที่ชอบรสชาติข้าวไทย แต่บางครั้งก็ซื้อจากเวียดนาม รัสเซีย และอีกหลายประเทศ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัทที่จีนมอบหมายให้ซื้อข้าวกับ บริษัท จีเอสเอสจี กับไทยใช่หรือไม่ ทูตจีนกล่าวเลี่ยงว่า ไม่ได้มีบริษัทเดียว แต่มีหลายบริษัท ประมาณ 4-5 บริษัท ซึ่งสัญญาซื้อขายก็ยังไม่ได้ยุติทั้งหมด ต้องตกลงกันต่อไป สาเหตุที่จีนเลือกซื้อข้าวไทยขณะที่ราคาสูงกว่าประเทศอื่น เพราะคุณภาพและรสชาติต่างกัน
เมื่อ ถามว่า สังคมกำลังสงสัยว่าจีทูจีในการขายข้าวระหว่างไทยกับจีน กำลังเป็นเครื่องมือบังหน้าในการทุจริต เอกอัครราชทูตปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ โดยกล่าวว่า "ไม่ทราบ " และอยากอธิบายว่า การซื้อข้าวจากไทยเป็นประเพณีที่ทุกปีต้องซื้อ ส่วนการเปิดแอลซี รัฐบาลจะไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของบริษัท เนื่องจากการดำเนินการของบริษัทหรือรัฐวิสาหกิจจะทำเอง รัฐบาลมีบทบาทเพียงแค่ชี้นำให้มีการซื้อขายเท่านั้น จากนั้นบริษัทจะไปตกลงกันเองกับประเทศไทย
"ระบบที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจีนเป็นผู้ซื้อ แต่มีบทบาทชักนำให้รัฐวิสาหกิจหรือภาคเอกชนเข้ามาซื้อเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลแล้ว รวมถึงเรื่องการตกลงราคาก็เป็นเรื่องที่สองฝ่ายคุยกัน หลักการอยู่ที่กลไกตลาดบริษัทที่ซื้อไปต้องขายได้กำไร เพราะถ้าขาดทุนคงไม่ซื้อ เพราะรัฐบาลไม่ได้ช่วย เนื่องจากมีกฎเกณฑ์และระเบียบหลายอย่าง” นายก่วน มู่ กล่าว
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม