อาหาร 5 อย่างที่คุณควรเลี่ยง
2012-10-05 17:48:40
Advertisement
คลิก!!!



อาหาร 5 อย่างที่คุณควรเลี่ยง (Health plus)

          ได้อ่านรายงานการวิจัยจาก  EWG (Environmental Working Group) ในสหรัฐอเมริกาเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าผลการตรวจเลือดของเด็กแรกเกิดในสหรัฐอเมริกามีสารที่อาจเป็นพิษตกค้าง ในเด็กอ่อนได้โดยเฉลี่ยมากถึง 287 ชนิด! ทั้งยาฆ่าแมลง สารปรอท และสารเคมีอย่างพวก Teflon ซึ่งก็เป็นเพราะคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์นั้น รับประทานอาหารที่มีสิ่งปนเปื้อนเหล่านี้เข้าไป จึงตกค้างอยู่ในลูก

          งานวิจัยพบว่าการเก็บตัวอย่างอาหารทั้งหลายมียาฆ่าแมลง และยาฆ่าวัชพืชตกค้างมากถึง 50-90% เลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่อาหารที่เรากินในปัจจุบันนี้ ห่างไกลจากความปลอดภัยโดยสิ้นเชิง มาดูกันสิว่าจะเริ่มต้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีนั้น คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารอะไรบ้าง

          อาหารกระป๋องทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลไม้กระป๋อง ทั้งนี้เพราะความเป็นกรดจากผลไม้กระป๋อง จะไปกร่อนให้สารเคมีบางอย่างออกมาจากกระป๋องและปนเปื้อนอยู่ในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Bisphenol-A หรือเรียกย่อๆ ว่า BPA ซึ่งพบว่าเชื่อมโยงไปถึงปัญหาสุขภาพ ตั้งแต่โรคหัวใจ เบาหวาน ความอ้วน ปัญหาของระบบสืบพันธุ์ ระบบประสาท และอาจเชื่อโยงไปถึงการเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย ควรจะต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในเด็ก แค่ได้อาหารกระป๋องวันหนึ่งสัก 2-3 ครั้ง ก็เกินค่าปลอดภัยไปแล้ว ทางที่ดีเลือกรับประทานผักผลไม้สด หรือถ้าอยากรับประทานผลไม้ที่ไม่ตรงตามฤดูกาล ก็ขอเลือกที่เก็บไว้ในขวดโหลแก้วจะดีกว่ากระป๋องโลหะ


          ควรเลี่ยงป๊อปคอร์นที่ทำโดยไมโครเวฟ ทั้งนี้เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากไมโครเวฟนั้น จะไปทำให้สารเคมีในถุงป๊อปคอร์นระเหยมาปนเปื้อน ทำให้ข้าวโพดคั่วของคุณนั้นไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารที่เรียกว่า PFOA (Perfiuorooctanoic Acid) ซึ่งเคลือบอยู่ภายในถุงของป๊อปคอร์น จากการวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่าสารนี้ สามารถเชื่อมโยงไปถึงการมีลูกยาก การทำงานที่ผิดปกติของสารเคมีต่างๆ เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งตับอ่อน มะเร็งของตับและมะเร็งของอัณฑะ


          เนื้อสัตว์รวมถึงปลาที่มาจากฟาร์มปศุสัตว์ ที่ เร่งเลี้ยงให้สัตว์เหล่นี้เจริญเติบโตเร็วกว่าธรรมชาติ โดยใช้ทั้งยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมนกระตุ้น ไปจนถึงให้สารอาหารที่ไม่ธรรมชาติ อย่างเช่น วัวควรจะกินหญ้าตามธรรมชาติ แต่วัวที่เลี้ยงในปศุสัตว์นั้นกลับไปให้กินธัญพืช ถั่วเหลือง ข้าวโพด ซึ่งไม่ใช่อาหารธรรมชาติ งานวิจับพบว่าเมื่อเทียบเนื้อวัวจากฟาร์มปศุสัตว์ กับวัวที่เลี้ยงกินหญ้าตามธรรมชาติ เนื้อวัวกินหญ้าจะมีเบต้าแคโรทีน วิตามินอี  กรดไขมัน จำเป็นโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 conjugated linoleic Acid หรือ CLA มากกว่า รวมทั้งมีเกลือแร่ แคลเซียม แมกนีเซียม โปแตสเซียมสูงกว่าด้วย ทั้งนี้สาระสำคัญคือ กรดไขมันชนิด CLA นั้น จำเป็นต่อสุขภาพ มีคนนำมาใช้ช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะช่วยลดการสะสมของไขมัน ช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น เสริมการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทั้งยังช่วยรักษาระดับของ คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ไม่ให้สูงจนเกินไป มีผลช่วยป้องกันเบาหวานได้ดี แต่จะได้จากวัวที่เลี้ยงตามธรรมชาติเท่านั้น หากเลี้ยงโดยปศุสัตว์ใช้สารเคมียาและฮอร์โมนเร็วก็จะไม่มีสาร CLA เท่าที่ควร

          นอกจากจะต้องเลี่ยงสัตว์จากฟาร์มเลี้ยงแล้ว ปลาแซลมอนที่มาจากฟาร์มเลี้ยงก็ควรจะต้องระมัดระวังด้วย เพราะมักมีสารเคมี ทั้งยาฆ่าแมลงจำพวก DDT Dioxin และสารก่อมะเร็งบางอย่าง ซึ่งพบได้มากในปลาที่เลี้ยงมากกว่าปลาที่จับได้จากทะเล แต่ปลาจากทะเลก็ใช่ว่าจะปลอดภัยเสียทีเดียว เพราะโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหลาย ต่างเอาขยะไปโยนทิ้ง ทำให้มีโลหะหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารปรอทตกค้างการศึกษาโดย US Geological Survey พบว่าเมื่อสำรวจแม่น้ำสายต่างๆ ในอเมริกา 300 สาย มีถึง 27% ที่มีระดับของปรอทในปลาจากแม่น้ำเหล่านั้น มากกว่าค่ากำหนดของ US EPA ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลสิ่งแวดล้อม ทางที่ดีควรเลือกรับประทานปลาที่มาจากธรรมชาติในแหล่งที่บริสุทธิ์ อย่างเช่น อลาสก้า ซึ่งไม่ค่อยจะมีโรงงานอุตสาหกรรมมากนัก หรือาจจะหันไปรับประทานปลาตัวเล็กๆ อย่างปลาซาร์ตีน หรือปลาแอนโชวี่ ซึ่งยังมีกรดไขมันจำเป็น โอเมก้า 3 แถมเคี้ยวก้างกรุบกรอบได้ทั้งตัวได้แคลเซียมเพิ่มขึ้นด้วย และปลาตัวเล็กก็จะปลอดภัย จากสารเคมีตกค้างมากกว่าปลาตัวใหญ่


          ควรหลีกเลี่ยง นม และผลิตภัณฑ์นม ทั้งนี้ เพราะนมส่วนใหญ่นั้น ได้มาจากฟาร์ม โคนม ซึ่งมีการใช้ ฮอร์โมนเร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโกรทฮอร์โมนที่เรียกว่า rBGH Recombinant bovine Growth Hormone ซึ่งหมายถึง ฮอร์โมนที่ไปเร่งการเจริญเติบโต เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์นมมากที่สุด พบว่าโกรทฮอร์โมนที่ไม่ธรรมชาตินี้ตกค้างอยู่ในนม และผลิตภัณฑ์นมและอาจจะไปเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมากได้


           ควรหลีกเลี่ยง ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ที่ผลิตเป็นอุตสาหกรรมทั้งหมด ซึ่งมักจะเป็น Nonorganic คือมีสารเคมี ทั้งยาฆ่าแมลง ยาฆ่าวัชพืช ฮอร์โมนเร่ง ยาปฏิชีวนะทั้งหลาย ทางที่ดีควรจะเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่มาจากฟาร์ม organic ซึ่งหมายถึงเลี้ยงโดยธรรมชาติ วัวก็ต้องกินหญ้า ไม่ใช่ให้กินถั่ว กินธัญพืช ไก่ก็ต้องเลี้ยงโดยธรรมชาติ ไม่ใช่ใส่สารเคมีเร่ง ซึ่งค่อนข้างจะหายาก และราคาแพง แต่เพื่อสุขภาพของตัวคุณเองในระยะยาว เห็นทีจะต้องพยายามปลูกผักทำสวนครัว เลี้ยงไก่ เอาไว้กินไข่เองที่บ้านถึงจะปลอดภัยที่สุดนะคะ


          เอา เป็นว่าอะไรที่ดูไม่ธรรมชาติก็พยายามหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารสด ที่ผ่านความร้อนไม่สูงมากหนัก ด้วยการต้ม ตุ๋นนึ่ง หลีกเลี่ยงการปิ้ง ย่าง ทอด ซึ่งจะทำให้คุณค่าอาหารเสีย และเพิ่มสารพิษมากขึ้นกว่าเดิม

 

 

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X