โจจินอุงจาก Believer 2 พูดถึง โอซึงฮุน ที่มาแสดงแทน รยูจุนยอล ในภาคแรก
2023-11-23 15:33:27
Advertisement
คลิก!!!

นักแสดง โจจินอุงได้ออกมาเผยความรู้สึกหลังจาก 'Believer 2' ได้ปล่อยออกมา

 

ได้มีการสัมภาษณ์นักแสดง โจจินอุง จากภาพยนตร์ของเน็กฟลิกซ์อย่าง 'Believer 2' เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

 

ภาพยนตร์เรื่อง 'Believer' ที่กลายเป็นกระแสจากปากต่อปากของผู้ชมเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาก็ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2023 กับภาพยนตร์ของเน็กฟลิกซ์เรื่อง 'Believer 2' ที่จะพูดถึงเรื่องราวหลังจากเกิดการต่อสู้อันดุเดือดที่สถานียงซานในรอบ 5 ปี โดยโจจินอุงก็ยังคงรับบทเป็นนักสืบวอนโฮที่ไล่ตามหา 'ท่านอี' ใน 'Believer 2’ เช่นเดิม

 

 

ทางเราได้ถามว่า 'Believer 2' ที่ปล่อยออกมาในรูปแบบ midquel ในรอบ 5 ปีนั้นเริ่มต้นมาอย่างไร โจจินอุงได้กล่าวว่า "ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำแบบไหน ยังไง แต่เห็นบอกว่าถ้าทำก็คงจะดี เลยบอกไปว่า 'อยากทำถึงตรงนี้นะ?' ตอนที่ทำ (ในซีซันที่ 1) ก็เหนื่อยมากๆ แน่นอนว่าไม่มีหนังเรื่องไหนที่ไม่เหนื่อยหรอก แต่จู่ ๆ ก็ได้คุยกับประธานบริษัทผู้ผลิต เขาบอกว่า 'ถ้านายไม่ทำก็ไม่มีเหตุผลที่จะเขียนสิ' ผมเลยบอกว่า ‘ลองเขียนดูก่อนครับ เอาเป็นว่าผมจะทำ’ ตัวของฉากต่าง ๆ ต้องบอกว่ามันเป็นอารมณ์ความรู้สึกอันเข้มข้นของวอนโฮที่ไม่ได้ปล่อยออกมาที่กระท่อมหรือเปล่านะ เป็นอารมณ์ที่ออกมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้แก้ไข แต่พอจัดการแล้วปล่อยออกมาก็รู้สึกเหนียวแน่นขึ้น”

 

แต่ทว่านักแสดงที่จะรับบทเป็นซอยองรัก (นักแสดง รยูจุนยอล) ของภาพยนตร์ ‘Believer’ เมื่อ 5 ปีก่อนกับซอยองรัก (นักแสดง โอซึงฮุน) ใน ‘Believer 2’ กับตอนนี้จะเป็นคนละคนกัน พอต้องมาถ่ายทำกับนักแสดงคนอื่นทั้ง ๆ ที่เป็นบทเดียวกันนั้นมีจุดที่ยากบ้างหรือเปล่า? เขาก็ได้เผยออกมาว่า “ผมไม่มีนะ แต่ซึงฮุนเขาพยายามมาก ๆ เลย” และ “เขาคุยกับผู้กำกับบ่อยมาก แถมยังคอยถามผมถึงการปรับบทให้เข้ากันว่าเป็นอย่างไร ผมชอบนะ เขาเตรียมตัวมาเยอะมาก ๆ แถมตอนออดิชันเองก็ดูอย่างเข้มงวดและมีความรับผิดชอบ”

 

 

เสน่ห์อันแตกต่างของซอยองรักที่แสดงโดยโอซึงฮุนคืออะไร? โจจินอุงได้กล่าวพร้อมยิ้มออกมาว่า “แทนที่จะบอกว่าเป็นเสน่ห์ที่แตกต่างผมไม่ได้คิดว่ามันสำคัญขนาดนั้น หากลองดูอยู่เฉย ๆ ในครั้งนี้ก็จะพบว่า ‘Believer 2’ มีส่วนที่บรรยายถึงรักเยอะมาก นักแสดง โอซึงฮุนถึงจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่ก็แสดงเก่งนะ ไม่กังวลเรื่องการแสดงเลยแต่ว่าตัวเองก็ต้องแก้ไขมันด้วยตัวเองสิ ไม่มีแยกมาให้คำแนะนำอะไรแบบนั้นหรอก ตัวเองต้องเชื่อใจในตัวเองสิ ผู้ชมถึงจะได้เชื่อ ถ้าวิ่งมาถามก็จะบอกว่า ‘จัดการเองเลย’ ผมเองก็ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย”

 

โจจินอุงก็ได้อธิบายต่อว่า “ไม่ได้คำนวณนะ ถ้าคำนวณอะไรแบบนั้นก็ไม่สนุกแหละ ต่อให้ไม่คำนวณก็ยังคิดถึงการเดินทางที่ผ่านมาและแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ เขา (โอซึงฮุน) ก็ไปนั่งท่องบทในที่ที่กล้องก็เข้าไปจับยาก ผมก็เลยบอกไปว่า ‘ไม่ต้องท่องก็ได้ ไปพักเถอะ’ และ ‘ถ้านายทำฉันเองก็ต้องทำด้วยหนิ’ (หัวเราะ) ทำแบบนั้นแล้วสนุกมาก”

 

ถ้าอย่างนั้นเหตุผลที่ตัดสินใจจะเล่น ‘Believer 2’ ต่อจาก ‘Believer’ คืออะไรกันนะ? โจจินอุงก็ได้ระบายออกมาว่า “เพราะเขาบอกมาว่าทีมของพวกเรามารวมตัวกันหมดเลย ถึงผมจะเป็นคนที่มั่นคงแต่ก็อยากจะระบายสิ่งที่อยู่ในใจเกี่ยวกับวอนโฮแหละ พอได้ถ่ายก็เหมือนว่าระบายไปยาวเลยแต่พอไปดูแล้วก็ไม่ยาวแหละ มันเป็นหนังแอกชั่นและมีสไตล์ แต่ทว่ามันก็เหมือนหนังที่โยนคำถามมาให้เยอะเลย รู้สึกอึดอัดมาก ๆ ว่า ‘ทำไมฉันถึงกำลังวิ่งไปแบบนี้นะ?’ พอถ่ายเสร็จก็มีความคิดหลายอย่างเลยว่า ‘ต้องทำอะไรสักอย่างสิ ต้องไปสักที่สิ ต้องแสดงไปเรื่อย ๆ หรือเปล่านะ’ ผมตายอยู่ที่นั่นเลยครับ ตายนะแต่ก็แค่อึดอัดน่ะ อย่างน้อยวอนโฮก็เป็นอิสระจากคำถามนี้ จากแคตตากอรีนี้ ลาก่อนนะ นักสืบโจวอนโฮ อย่ากลับมาอีกละ อย่าเจอกันอีกเลย”

 

เขาก็ได้กล่าวเสริมอีกว่า “เหมือนจะเป็นอิสระจากที่นั่นแล้วก็เหลือกลิ่นอายของส่วนนั้นเยอะแยะเลย ผมได้ถูกเชิญให้ไปดูตอนจบที่งานภาพยนต์หนังนานาชาติปูซาน ทุกคนต่างเงียบกันหมดเลย เหมือนว่าส่งถึงแขกรับเชิญตามบรรยากาศนั้นเลย การตอบคำถามไปแล้วย่อยภาพยนตร์กันก็สนุกมากเลย มันสนุกนะที่มางานเปิดตัวภาพยนตร์แล้วได้ย่อยหนังเรื่องนี้ผ่านคำถามเฉพาะของตัวเอง ก็นึกถึงความคิดของตัวเองที่ผ่านมาแล้วก็คิดด้วยว่า ‘Believer’ นี่กลายเป็นหนังที่ถามคำถามแนวปรัชญาได้แบบนี้แล้วเหรอ?”

 

หลังจากที่ ‘Believer’ ฉายออกไปก็มีการคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของท่านอีกกันอย่างล้นหลาม บ้างก็บอกว่าท่านอีคือรัก บ้างก็บอกว่าไบรอัน แน่นอนว่าก็มีคนที่คาดเดาว่าเป็นวอนโฮด้วยเช่นกัน แต่ทว่า ‘Believer 2’ ก็ได้เฉลยตัวตนที่แท้จริงของท่านอีโดยแบบที่ไม่ต้องเดากันอีก ใน ‘Believer’ ก็เป็นกระแสจากการที่ทำให้ผู้ชมได้จินตนาการกัน แต่พอเฉลยหมดทุกอย่างแล้วไม่รู้สึกเสียดายเหรอ? โจจินอุงกล่าวว่า “หนังมันจะสมบูรณ์แบบได้ด้วยการตีความผ่านจินตนาการ ไม่ว่าจะทำแบบไหนก็ต้องมีความเสียดายอยู่แล้ว นั่นคือทางเลือกของผู้ผลิต ผลิตออกมาเป็นสี่เหลี่ยม ผลิตออกมาให้ยาว ๆ ผลิตออกมาสั้น ๆ แล้วถ่ายทอดออกมา”

 

 

โจจินอุงได้พูดต่อว่า “ผมก็ลองเชื่อถือและเชื่อมั่นกับสิ่งที่เลือก พอท่านอีปรากฏตัวออกมา แม้จะไม่ได้เจอนักแสดงตัวเป็น ๆ แต่ก็ดูเป็นคุณลุง คุณปู่ธรรมดา ๆ แต่ก็มีความชั่วร้ายและความน่าเกรงขามอยู่ รักน่าจะเหนื่อยที่สุดในโลกแล้ว เป็นทั้งหัวโจกของพ่อแม่ อีกทั้งเป็นคนที่เหมือนท่าไม้ตาย ก็เข้าใจแหละ” ต่อด้วย “ในฉากที่รักพูดว่า ‘หัวหน้าไม่อยู่ข้างนอกครับ ช่วยจบให้หน่อยครับ’ ตอนมาที่กระท่อม ผมก็คิดว่า ‘นายจะได้เป็นอิสระแค่คนเดียวเหรอ?’ นายนี่เป็นเด็กที่เห็นแก่ตัวไปจนจบเลยสินะ คิดแบบนั้นแล้วผมก็จะไม่มาตายที่นี่ ภาพที่เช็กกระสุนเปล่าคงจะเป็นส่วนที่ผลักดันวอนโฮ ตอนที่ถ่ายฉากนั้นก็พูดประมาณว่าจะแสดงในแบบนี้ดีกว่า แทนที่จะบอกว่า ‘ต้องทำแบบนี้หรือเปล่า’” 

 

โดยภาพยนตร์เน็ตฟลิกซ์เรื่อง ‘Believer 2’ เป็นภาพยนตร์แอ็กชันอาชญากรรมที่เล่าถึงเรื่องราวของนักสืบ ‘วอนโฮ’ (นักแสดง โจจินอุง) ที่ยังคงไล่ตามหา ‘ท่านอี’ กับ ‘รัก’ (นักแสดง โอซึงฮุน) ที่หายตัวไปหลังจากเกิดการต่อสู้อันดุเดือดที่สถานียงซาน และสงครามอันรุนแรงของ ‘Big Knife’ (นักแสดง ฮันฮโยจู) ผู้มาจากจีนเพื่อแก้ไขสถานการณ์กับ ‘ไบรอัน’ (นักแสดง ชาซึงวอน) ที่ปรากฏตัวอีกครั้ง

 

ที่มา  naver

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X