Revenant ออกอากาศทางช่อง SBS เล่าเรื่องของหญิงสาวที่ถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง และชายหนุ่มที่มองเห็นวิญญาณและพยายามตามหาความจริงเบื้องหลังการตายปริศนา

คิมแทรี (Kim Tae Ri) ได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมจากการแสดงเป็น กูชานยอง หญิงสาวที่ถูกผีสิง และต้องแสดงเป็น 2 ตัวละคร ระหว่างกูชานยองในเวลาปกติ และกูชานยองที่กำลังถูกวิญญาณร้ายครอบงำ
 

หลังจาก Revenant ออกอากาศตอนสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม คิมแทรีได้ร่วมพูดถึงผลงานการแสดงล่าสุดของเธอเรื่องนี้ และกล่าวขอบคุณผู้ชมและแฟนคลับ

คิมแทรีบอกว่า

“เวลาผ่านไปเร็วและซีรีส์เดินทางมาถึงตอนจบ ก่อนอื่น ฉันอยากจะขอบคุณทีมงาน, นักแสดง ที่ตั้งใจทำงานอย่างหนัก ฉันขอขอบคุณผู้ชมสำหรับความรักที่มีให้กับซีรีส์เรื่องนี้ ฉันมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าผู้ชมติดตามและเอาใจช่วยตัวละคร และชมซีรีส์ในแบบที่ฉันแนะนำไปในก่อนที่ซีรีส์จะออกอากาศ”
 

คิมแทรีได้พูดถึงการแสดงเป็นกูชานยองในเวลาปกติ และเวลาโดยผีสิงว่า

“ฉันพยายามจะพูดให้ตรงกับบทแบบเป๊ะๆ เท่าที่จะทำได้ เพราะฉันไม่อยากจะให้พลาดคำบอกใบ้อะไรไปเลยแม้เพียงนิดเดียวก็ตาม ฉันคุยกับผู้กำกับและนักเขียนบทเยอะมากเพื่อหาวิธีเน้นความแตกต่างระหว่าง 2 ตัวละครนี้”

เธอพูดต่อ

“ยิ่งฉันแสดงมากเท่าไหร่ ฉันก็เข้าใจตัวละครของฉันมากขึ้นเท่านั้นค่ะ”
 

เมื่อถามว่าฉากไหนที่เธอคิดว่าน่ากลัวที่สุด คิมแทรีบอกว่า

“ฉันคิดว่าตอนที่ 4 น่ากลัวค่ะ ฉันรู้เนื้อเรื่องหมดแล้วนะคะ และตอนแสดงก็รู้อยู่แล้วว่าฉากต่อไปจะเจออะไร แต่ฉันก็ยังตกใจและขนลุกเวลาที่อยู่ๆมีอะไรโผล่มาอยู่ดี ฉากที่เงาเปลี่ยนเป็นปีศาจในตอนที่ 7 ก็น่ากลัวค่ะ” 

คิมแทรียังได้พูดถึงเรื่องที่ผู้ชมเดาเนื้อเรื่องได้

“ฉันจำได้ว่าไปเจอผู้ชมพูดเกี่ยวกับฉากที่ ฮวังอี และ ชานยองจับมือกัน และบอกว่าปีศาจตัวนี้ไม่ใช่ม๊กดัน ฉันส่งไปให้ผู้กำกับดู นักเขียนบทถึงกับคิดว่ามีทีมงานทำเนื้อเรื่องรั่วหรือเปล่า...”
 

คิมแทรีได้พูดถึงการร่วมงานกับ โอจองเซ (Oh Jung Se) ที่รับบทเป็น ยอมแฮซัง) และ ฮงคยอง (Hong Kyung) ที่รับบทเป็น อีฮงแซ ในเรื่องว่า

“ฉันได้เรียนรู้หลายอย่างจากวิธีการแสดงที่แตกต่างกันของพวกเรา ฉันได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขาเยอะมาก และรู้สึกขอบคุณที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับพวกเขาทั้ง 2 คน”

พร้อมพูดต่อ

“ฉันได้รับพลังจากนักแสดงทุกคนที่ทำงานด้วย ช่วงเวลาถ่ายทำเป็นอะไรที่สนุกมาก”

เมื่อถามถึงความรู้สึกของชานยองในฉากสุดท้าย คิมแทรีบอกว่า

“ทั้งชานยองและฮวังอีอยากจะมีชีวิต อย่างไรก็ตามชานยองไม่สามารถทนต่อชีวิตของเธอได้ด้วยภาระหลายอย่าง ในขณะที่ฮวังอีอยากจะมีชีวิตโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น หลังจากสู้กันมาอย่างยาวนานทำให้ชานยองตัดสินใจว่าเธอจะใช้ชีวิตของตัวเองในแบบที่เธอเลือก ฉันจินตนาการว่าชานยองจะยิ้มหลังจากฉากปลดปล่อยนั้น และฉันหวังว่าผู้ชมจะหาคำตอบของตัวเองได้ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร”

คิมแทรีปิดท้ายว่า

“ฉันหวังว่าชานยองจะมีความสุขในตอนจบค่ะ” 

คิมแทรีกล่าวขอบคุณผู้ชมอีกครั้งว่า

“ขอบคุณมากๆค่ะ ฉันคิดว่าไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ พวกเขามีช่วงเวลาหนุ่มสาวของตัวเอง เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนมีความสุขนะคะ”

ที่มา  Daum