พีดี จองจีอิน ได้ร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ Craving TV ทางช่อง MBC ซึ่งออกอากาศไปเมื่อวันที่ 14 มกราคม และได้เล่าเบื้องหลังของซีรีส์เรื่อง The Red Sleeve พีดีอธิบายว่า

“เราคิดตลอดว่าตัวละครถ่ายทอดได้ไม่สมบูรณ์ไปนิดหน่อยเพราะเรื่องของเวลา เราวางแผนจะทำ 20 ตอน แต่สุดท้ายทำได้แค่ 17 ตอนเนื่องจากการจัดการและเงื่อนไขการถ่ายทำ”

พีดีบอกว่า “ความกังวลคือ ช่วงเวลาที่ยกมาเล่าในซีรีส์ เป็นเวลาที่เรารู้กันดี อีกเรื่องที่ต้องให้ความสนใจคือ มารยาทและการจัดวางตำแหน่งที่นั่ง นักเขียนบทบอกว่าอยากให้ทั้งนักแสดงนำและนักแสดงสมทบคนอื่นแสดงออกมาด้วยท่าทางและรูปแบบเดียวกัน เราเลยให้นักแสดงไปเรียนมารยาทที่เหมาะสม การวางตัว ท่าทางการดื่มชา เรื่องการจัดที่นั่งก็เป็นเรื่องที่ยากกว่าที่คิด ต้องขอคำแนะนำอยู่ตลอด”

นอกจากนี้พีดียังได้พูดถึงเรื่องราวของอีซาน (รับบทโดย อีจุนโฮ (Lee Jun-ho)) และ ซองด๊อกอิม (รับบทโดย อีเซยอง (Lee Se-young)) ว่า “สำหรับพระสนมอึยบิน เราอยากจะคงความสดใสและขี้เล่นของตัวนิยายต้นฉบับเอาไว้ เธอเป็นนางสนมที่มีชื่อเสียง และต้องมาเจอกับเรื่องราวหนักหนาในตอนท้าย ทำให้ในช่วงแรกของซีรีส์เราพยายามใส่ความเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวากับเธอให้มากที่สุด สำหรับพระราชาจองโจ เรามีความกังวลอย่างมากเช่นกัน พอเราได้เจอกับอีจุนโฮ เขาบอกเราว่าอยากให้ตัวละครออกมาสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พระราชาจองโจจึงถูกวางบทให้เป็นคนอ่อนไหวแต่เชื่อใจได้รวมถึงเป็นที่รักของคนที่เข้ามาอยู่ในการปกครองของเขา”

พีดียังเล่าอีกว่า “เราพยายามจะดัดแปลงออกมาให้ดี เพื่อให้คนที่ไม่เคยอ่านต้นฉบับก็สนุกไปกับซีรีส์ได้ นักเขียนบทมีส่วนสำคัญในการดัดแปลง และสิ่งที่ฉันโฟกัสคือเรื่องการแสดงออกด้านอารมณ์”

พีดีบอกว่าเธอได้รับความช่วยเหลือจากทีมอาร์ตและแมคอัพเป็นอย่างมาก เพราะนี่เป็นผลงานย้อนยุคเรื่องแรกของเธอ “แค่ชุดของนางใน ฉันก็เลือกจากสี 50-60 สีแล้วค่ะ”

สำหรับฉากที่ได้รับคำชื่นชมอีกฉากของเรื่องนี้ คือฉากที่ อีซานค่อยๆเปิดดูของในกล่องที่ด็อกอิมทิ้งเอาไว้ พีดีบอกว่า “ก่อนจะถ่ายทำ จุนโฮบอกว่าเขาไม่อยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในกล่องบ้าง ฉันได้จัดเรียงสิ่งของที่อยู่ในกล่อง ให้ค่อยๆเปิดออกมา คือหนังสือ 2 เล่ม จดหมายขอโทษ และชุดนางใน”

“ด๊อกอิมไม่ได้ให้กล่องนี้กับพระราชาหลังจากรู้ว่าตัวเองตั้งครรถ์ อีซานไม่รู้ความรู้สึกของเธอจนถึงตอนสุดท้าย” เธอเล่าต่อ “อีจุนโฮร้องไห้หนักมากตอนที่อ่านจดหมายขอโทษ เขาคงนึกถึงตอนที่ถ่ายทำฉากนั้นด้วย นอกจากนี้เขาร้องไห้มากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นชุดนางในของเธอ”

“ตอนที่เขาหยิบชุดของเธอมาดม เขาได้กลิ่นน้ำหอมของเซยองที่เคยใส่ชุดนั้นจริง มันช่วยดึงอารมณ์ได้มากขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนด๊อกอิมเคยใส่ชุดนี้จริงๆ”

สำหรับบทบรรยายในตอนท้ายของเรื่อง เธอเปิดเผยสิ่งที่ทำให้ฉากนั้นดูเศร้ายิ่งขึ้นว่าทั้งคู่บรรยายเรื่องแตกต่างกัน อีจุนโฮได้ดูวิดีโอตอนท้าย ในขณะที่อีเซยองไม่ได้ดู “เซยองพูดออกมาโดยไม่ได้ดูวิดีโอ ส่วนจุนโฮได้ดูวิดีโอว่าจบอย่างไร ทำให้ [เหมาะคนนึงรู้ตอนจบ แต่อีกคนไม่รู้] คำบรรยายที่ออกมาเลยดูเศร้า”

พีดีจองจีอินบอกว่า “เพราะว่าซีรีส์ถูกขยายจาก 16 ตอนเป็น 17 ตอน ทำให้ฉันคิดว่าต้องแก้ไขตอนจบนิดหน่อย ฉันคิดว่ามันจะแตกต่างออกไปจากตอนจบที่ออกอากาศไป” ทำให้ผู้ชมตื่นเต้นว่า เราจะได้เห็นฉากจบที่ต่างออกไปจากในซีรีส์ “และฉันคิดว่าหลังจากนี้ฉันควรพักยาว”