รีวิว The Red Sleeve
2021-11-17 17:04:49
Advertisement
คลิก!!!

The Red Sleeve Ep.1-2



นำแสดงโดย "อีจุนโฮ #2PM & อีเซยอง"

: เรื่องย่อ :
"องค์รัชทายาท อีซัน" (อีจุนโฮ) ตกหลุมรัก "ซองด็อกอิม" (อีเซยอง) และเมื่อได้กลายเป็น "กษัตริย์จองโจ" เขาก็ต้องการรับด็อกอิมเข้ามาเป็นนางสนมของตัวเอง แต่ตัวเธอกลับไม่ต้องการเช่นนั้น

-----------------------

ถือว่าเป็นเดือนที่ตารางการดูซีรีส์แน่นมากๆ สำหรับแฟนคลับชาวไทย เมื่อสตรีมมิ่งเจ้าดังอย่าง Viu เสริมทัพคอนเทนต์ซีรีส์เรื่องใหม่หลากหลายแนวมาให้เลือกชมกันแบบจัดเต็ม ไม่ว่าคุณจะชอบแนวดราม่า สืบสวนสอบสวน วาไรตี้ หรือซีรีส์แนวย้อนยุครักโรแมนติก Viu ก็จัดให้แบบไม่กั๊ก
.
วันนี้ เราอยากชวนมาดูอีกหนึ่งเรื่องที่ออกอากาศมาแล้ว 2 ตอน The Red Sleeve ซีรีส์ย้อนยุคจากช่อง MBC ที่ได้สองนักแสดงนำอย่าง อีจุนโฮ และอีเซยอง มาประกบคู่กัน โดยภาพรวมจากที่เราได้รับชมไปแล้ว 2 ตอน ก็ต้องบอกต่อว่า เป็นซีรีส์ที่มีประเด็นชวนติดตามเยอะพอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งของ องค์รัชทายาท หรือฝั่งของ “ด็อกอิม” ทั้งคู่มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง และมีประเด็นให้หยิบมาเล่นอีกเยอะมาก
.
โดยเฉพาะมุมมองการเล่าเรื่องที่เลือกจะมองจากมุมของนางเอกเป็นหลัก สังเกตจากการปูพื้นฐานชีวิตของทั้งสองตัวละครในวัยเด็ก ที่เน้นฝั่งของด็อกอิมมากกว่า ในด้านของงานภาพก็สวยงามมาก ลำดับเรื่องราวได้ดี ไม่งง มีฉากให้ลุ้น และฉากฮาๆ แทรกมาเป็นระยะๆ ใครชอบแนวนี้รับรองว่าถูกใจแน่นอน

รับชม The Red Sleeve พร้อมซับไทยได้ที่
Link : https://bit.ly/3kuaCas

 

5 เหตุผล ที่ทำให้ซีรีส์เรื่อง The Red Sleeve
ประสบความสำเร็จบนเวที MBC Drama Awards 2021

นำแสดงโดย "อีจุนโฮ #2PM & อีเซยอง"

: เรื่องย่อ :
"องค์รัชทายาท อีซาน" (อีจุนโฮ) ตกหลุมรัก"ซองด็อกอิม" (อีเซยอง) และเมื่อได้กลายเป็น "กษัตริย์จองโจ" เขาก็ต้องการรับด็อกอิมเข้ามาเป็นนางสนมของตัวเอง แต่ตัวเธอกลับไม่ต้องการเช่นนั้น

รับชม The Red Sleeve พร้อมซับไทยได้ที่
Link : https://bit.ly/3kuaCas

-----------------------

หากจะพูดถึงซีรีส์สักเรื่อง ที่เรตติ้งแรงที่สุด น่าติดตามที่สุดในตอนนี้ The Red Sleeve คือ ลิสต์อันดับต้นๆที่ใครต่างก็พูดถึง และล่าสุดซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้ไปประกาศความยิ่งใหญ่บนเวที MBC Drama Awards 2021คว้า 8 รางวัลทรงคุณค่ามาครองได้สำเร็จ ต่อไปนี้ คือ 5 เหตุผล ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้ทั้งรางวัล และได้ทั้งหัวใจของผู้ชมไปครอง
.
1.การตีความใหม่ผ่านมุมมองของ "ด็อกอิม"

ประเด็นนี้สำหรับใครที่เป็นสายดูซีรีส์มาตั้งแต่ต้น ก็คงคุ้นเคยกับภาพของเหล่านางใน ที่โดยทั่วไปมักจะเป็นเพียงไม้ประดับเสริมบารมีของพระราชาในวัง ส่วนใหญ่บทเด่นจะไปตกอยู่กับ พระสนม หรือพระมเหสี ที่ต้องทำสงครามการเมืองภายใน แย่งเวลา แย่งความสนใจมาจากฝ่าบาทให้ได้ ทั้งนี้ ก็เพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวเองได้เป็นผู้ให้กำเนิดองค์รัชทายาท ที่จะกลายมาเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป
.
แต่สำหรับ "ด๊อกอิม" นางในวังหลวงที่มีความผูกพันกับองค์รัชทายาทมาตั้งแต่วัยเด็ก โดยที่องค์รัชทายาทเองก็ไม่รู้ตัว เธอกลับไม่ได้สนใจที่จะยกฐานะตัวเองขึ้นเป็นพระสนมเลยแม้แต่น้อย มีแต่คอยที่จะช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้างฝ่าบาทตั้งแต่ตอนเด็ก จนถึงตอนโต ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ เราจะไม่ได้มองผ่านสายตาขององค์รัชทายาท "อีซาน" แต่เป็นการมองผ่านสายตาของ "ด็อกอิม" ที่โลกทั้งใบถูกจำกัดไว้อยู่แค่ในวัง

2.การผูกเรื่องราว และผังตัวละคร

ในซีรีส์หนึ่งเรื่อง ย่อมต้องเล่าเรื่องราวของตัวละครมากกว่าหนึ่งตัว ยิ่งเป็นซีรีส์ที่มีตัวละครจากประวัติศาสตร์ ยิ่งต้องเกี่ยวพันกับตัวละครอีกเยอะมาก The Red Sleeve ก็คืออีกหนึ่งซีรีส์ที่วางโครงสร้างความสัมพันธ์เอาไว้ได้ดีมาก โดยเฉพาะในองก์แรกของเรื่อง ที่กล่าวถึงอดีตอันเจ็บปวด และความหวาดกลัวที่ครอบงำในหัวใจของ "อีซาน" มาตั้งแต่ยังเด็ก

3.เคมีที่ลงตัวระหว่าง อีจุนโฮ กับ อีเซยอง

อันนี้ต้องชมจริงๆ เพราะเคมีของทั้งคู่เหมาะสมกับรางวัล BEST COUPLE ที่ขึ้นไปยืนคู่กันบนเวทีมากๆ เราเชื่อว่าตัวละคร ด๊อกอิม คือบทบาทที่เค้นเอาศักยภาพหลายๆด้านของ อีเซยอง ให้ออกมาสู่สายตาของผู้ชมได้อย่างครบถ้วนเลย โดยเฉพาะความฉลาด ความกวน ที่ฉีกออกจากคาแรคเตอร์เดิม ซึ่งหลายคนอาจจะติดภาพจำมาจากเรื่องก่อนๆ ยิ่งได้มาประกบคู่กับ อีจุนโฮ นักแสดงระดับรางวัลที่ใครก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสง่างาม และเหมาะสมกับชุดองค์รัชทายาทมากจริงๆ ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ เรารับรองว่าถ้าคุได้เริ่มดูแล้ว คุณจะฟินกับเคมีที่สมจริงของทั้งคู่แน่นอน

4.ตัวละครสมทบที่เติมเต็มให้กับเส้นเรื่อง

ซีรีส์ที่ดี นอกจากจะต้องส่งเสริมให้บทบาทของคู่พระนางโดดเด่นแล้ว ยังต้องมีตัวละครสมทบที่ทำให้เส้นเรื่องน่าลุ้น น่าติดตามด้วย ตรงนี้ต้องบอกเลยว่า The Red Sleeve สอบผ่านเลย เพราะเส้นทางอุปสรรคของความสัมพันธ์ระหว่าง ลีซาน กับ ด๊อกอิม นอกจากจะเป็นกำแพงของชนชั้น และกำแพงทางความรู้สึกที่ทั้งคู่มีต่อกัน ยังมีตัวละครอย่าง พระอาจารย์ฮง พระสนฮวาบิน และซังกุง คอยเสริมให้เส้นเรื่องน่าลุ้น น่าติดตาม

5.การเขียนบทที่ดี ทำให้ผู้ชมคาดเดาบทสรุปได้ยาก

และสุดท้ายที่ต้องชมเป็นพิเศษ คือ มือเขียนบท จองแฮริ ที่เรียบเรียงบทประพันธ์ต้นฉบับของ คังมีคัง ออกมาเรียงร้อยเป็นเรื่องราวในราชสำนักได้อย่างสนุกสนาน และชวนติดตาม จนคนดูอย่างเรา คิดนนำบทไปข้างหน้าแทบไม่ได้เลย เพราะเมื่อดูมาจนถึง EP.15 เราก็ยังไม่แน่ใจว่าบทสรุปของเรื่องจะออกมาสมหวัง หรือน้ำตาท่วมจอ แต่ที่มั่นใจได้แน่ๆ คือ การได้รับอนุมัติให้เพิ่มตอนเข้ามา แสดงว่าประเด็นต่างๆในเรื่อง น่าจะมีเวลามากพอให้สามารถเคลียร์ความสัมพันธ์ และปิดฉากเรื่องนี้ได้อย่างงดงาม

 

The Red Sleeve ตอนจบ

นำแสดงโดย "อีจุนโฮ #2PM & อีเซยอง"

: เรื่องย่อ :
"องค์รัชทายาท อีซาน" (อีจุนโฮ) ตกหลุมรัก "ซองด็อกอิม" (อีเซยอง) และเมื่อได้กลายเป็น "กษัตริย์จองโจ" เขาก็ต้องการรับด็อกอิมเข้ามาเป็นนางสนมของตัวเอง แต่ตัวเธอกลับไม่ต้องการเช่นนั้น

รับชม The Red Sleeve พร้อมซับไทยได้ที่
Link : https://bit.ly/3kuaCas

-----------------------

เรียกว่าเดินตามรอยความยิ่งใหญ่ของซีรีส์ระดับตำนาน Moon lovers : Scarlet Heart Ryeo เลย สำหรับบทสรุปของซีรีส์เกาหลีแนวซากึก (อิงประวัติศาสตร์) เรื่อง The Red Sleeve ถ่ายทอดเรื่องราวความรักอมตะระหว่าง อีซาน กับด็อกอิม 2 ตัวละคร ซึ่งอ้างอิงมาจากบุคคลสำคัญที่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ของประเทศเกาหลีใต้ ได้อย่างเข้มข้นและน่าติดตามตลอดทั้ง 17 EP โดยในตอนจบ ซีรีส์เรื่องนี้ลาจอไปด้วยเรตติ้งสูงถึง 17.4%
.
สำหรับเรา The Red Sleeve ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ขึ้นหิ้งประจำปี 2021 ด้วยความสมดุลของเส้นเรื่องที่เปิดตัวมาพร้อมกับความสนุกสนาน สดใส ก่อนจะพาผู้ชมเดินทางไปสำรวจเส้นทางชีวิตรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคในวังหลวงระหว่าง อีซาน กับด็อกอิม ที่ในประวัติศาสตร์จริง ไม่มีวินาทีไหนเลยในวังหลวง ที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข
.
โดยเฉพาะชีวิตของ ด็อกอิม ที่ต้องเผชิญกับความลำบากมาตั้งแต่ยังเด็ก แม้จะรู้ว่า อีซาน รักเธอมากแค่ไหน แต่ในฐานะนางใน ก็ไม่เคยใฝ่หาที่จะรับตำแหน่งพระสนมเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันก็คือตัวตนที่แท้จริงของ ด็อกอิม ที่อีซานรัก และเฝ้าทะนุถนอมมาตลอดระยะเวลา 15 ปี
.
สำหรับความเข้มข้นของซีรีส์ นอกจากเราจะได้เห็นความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยอุปสรรค เพราะชนชั้น และชาติกำเนิดของทั้งคู่แล้ว เรายังได้เห็นหัวใจรักอันเด็ดเดี่ยวของ อีซาน องค์รัชทายาท ผู้กลายมาเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคโชซอนที่มอบให้กับผู้หญิงเพียงคนเดียว นั่นคือ ด็อกอิม
.
ภาพฝันอันสวยงามของ อีซาน ที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายเรื่อง จึงเป็นเหมือนกับส่วนเสริมที่แม้ว่าในบันทึกประวัติศาสตร์ เส้นทางความรักของทั้งคู่จะไม่ได้จบลงอย่างงดงามราวกับเทพนิยาย แต่ก็เป็นซีนที่เติมเต็มให้กับผู้ชมว่าในห้วงคำนึงสุดท้ายของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ เขายังคงเลือกจะใช้วินาทีนั้น อยู่กับผู้หญิงที่ตัวเองรัก โดยไม่สนใจจะกลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริงที่จากมาแม้แต่น้อย

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X