ยอจินกู (Yeo Jin Goo) ได้พูดถึงซีรีส์เรื่องล่าสุดของเขา Beyond Evil ทางช่อง JTBC ในบทสัมภาษณ์กับ Edaily

ซีรีส์ Beyond Evil เป็นซีรีส์แนวระทึกขวัญจิตวิทยา เล่าเรื่องของผู้ชาย 2 คนที่ยอมฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อตามล่าฆาตกรต่อเนื่อง ยอจินกู รับบทเป็น ฮันจูวอน นักสืบหนุ่มที่ย้ายมาประจำที่สถานีตำรวจในชนบทที่เงียบเหงาของมันยาง เขาได้เจอกับ อีดงชิก (รับบทโดย ชินฮาคยอน (Shin Ha Kyun)) อดีตนักสืบที่ผันตัวมาทำงานเพื่อบ้านเกิดของเขา

เมื่อถามยอจินกูว่าจะเป็นอย่างไรหากใน 10 ปีข้างหน้า Beyond Evil ถูกนำมาทำใหม่ และเขาได้มารับบทเป็นอีดงชิกแทน ยอจินกูบอกว่า “ถ้าผมต้องแสดงเป็น อีดงชิก ผมคงต้องขออนุญาตคุณชินฮาคยอนก่อน” เขาบอกเพิ่มเติม “ถ้ามีการนำเรื่องนี้มาทำใหม่จริง มันคงน่าสนใจถ้าเนื้อเรื่องนำเสนอเรื่องราวของ ฮันจูวอนที่ได้เจอคู่หูคนใหม่หลังผ่านมา 10 ปี”

ยอจินกูยังบอกว่าเขาอยากแสดงบทตัวละครแบบ จองเจ (รับบทโดย ชเวแดฮุน (Choi Dae Hoon)) เพราะอยากลองแสดงเป็นตัวละครที่อ่อนแอตั้งแต่ต้นจนจบ เขายังสนใจบทของ ฮอซองแท (Heo Sung Tae) ที่รับบทเป็น อีชางจิน และ ชเวจินโฮ (Choi Jin Ho) ที่รับบทเป็น ฮันกีฮวาน ซึ่งเป็นบทที่มีการถ่ายทอดอารมณ์ที่มีความน่าสนใจ

สำหรับเรื่องบรรยากาศในกองถ่าย ยอจินกูเล่าว่า “สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุด คือเวลาที่เราซ้อมด้วยกันในทุกฉากที่จะถ่ายทำ ถึงแม้จะไม่ได้ถ่ายทำจริง แต่ก็เหมือนว่าเราได้แสดงอยู่ตลอดเวลา”

ยอจินกูยังบอกอีกว่าคนที่แสดงเป็นคนในหมู่บ้านมันยาง คือนักแสดงที่ควรได้รับคำชื่นชมมากที่สุด “ถึงแม้จูวอนจะไม่เข้ากับคนในมุนยาง แต่เขาก็อยากมีส่วนร่วมกับคนในหมู่บ้านจริงๆ”

เมื่อถามว่าผลงานเรื่องไหนที่เขาคิดว่าเป็นเรื่องเด่นของเขา ยอจินกูตอบว่า “ผมคิดว่าเราไม่สามารถเลือกให้ตัวเองได้ครับ คำถามนี้ต้องถามคนอื่น และผมจะรู้สึกดีถ้าคนเลือกให้ Beyond Evil เป็นผลงานชิ้นเอกของผม จริงๆมันคงเป็นเรื่องดีที่ทุกผลงานของผมที่ได้แสดงให้ทุกคนดูจะถูกมองว่าเป็นผลงานที่บ่งบอกความเป็นผม ผมคิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นได้จะดีมากเลยครับ”

ยอจินกูบอกว่าเขาได้เรียนรู้มากมายจาก ชินฮาคยอน “ตอนที่ผมมองคุณชินฮาคยอนแสดง ผมคิดว่า ‘ผมอยากเป็นนักแสดงแบบเขา’ และ ‘ผมจะเป็นแบบเขาได้ไหมนะ?’” เขาพูดต่อ “ถ้าผมได้เป็นนักแสดงที่เท่แบบเขา ผมก็แอบคิดว่าจะมีนักแสดงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมในตอนนี้ คิดกับผมแบบที่ผมคิดกับเขาในตอนนี้หรือเปล่า”

ยอจินกูพูดต่อ “ผมเคยรู้สึกกลัวเวลาที่ [ชินฮาคยอน] ตอบกลับผมมา เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมแสดงเป็นตัวละครที่ไม่ถูกกับนักแสดงรุ่นพี่” เขาอธิบายว่ากังวลว่าทำอย่างไรถึงจะทำให้ชินฮาคยอนพอใจในการแสดงของเขาในฐานะตัวละครที่ต่อต้านตัวละครของเขา ยอจินกูบอกว่าชินฮาคยอนเชื่อในตัวเขา และช่วยเติมเต็มสิ่งที่เขายังขาดไป

เมื่อปี 2006 ยอจินกูเคยแสดงเป็น ชินฮาคยอนตอนเด็กในภาพยนตร์เรื่อง No Mercy for the Rude เขาพูดถึงตอนนั้นว่า “ผมจำไม่ได้ครับว่าเคยเจอกับชินฮาคยอน แต่เขาบอกว่าจำได้ว่าเห็นผม เวลาเปลี่ยนไป ผมได้มาทำงานในโปรเจคเดียวกันกับเขาแล้วในตอนนี้”

ยอจินกูได้เลือกฉากที่เขาประทับใจมากที่สุด โดยเขาเลือกฉากตอนจบ พร้อมให้เหตุผลว่า “ส่วนตัวแล้วมีอีกหลายฉากที่ผมอยากเลือก แต่ฉากจบของ Beyond Evil เป็นอะไรที่น่าจดจำมากที่สุด ผมคิดว่ามันคือฉากที่บอกความเป็น อีดงชิก และ ฮันจูวอน ตั้งแต่ต้นจนจบ” เขาพูดต่อ “ฉากนั้นพวกเขามองกันและกัน และเป็นคัร้งแรกที่อีดงชิกยิ้มให้กับจูวอนอย่างไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง ฉากที่จูวอนเห็นสิ่งนั้นและเก็บดงชิกไว้ในความทรงจำของเขาเป็นตอนที่ดีและประทับใจมากครับ”

ยอจินกูปิดท้ายว่า “แม้ว่าจะมีโปรเจคที่ผมสามารถผสานตัวตนของผมเข้าไปในบทได้ แต่ผมก็ยังมองหาบทบาทใหม่และด้านใหม่ๆของตัวเอง ผมสงสัยว่าตัวเองจะทำออกมาอย่างไรเหมือนกัน และผมคิดว่าโปรเจคต่อไปของผมหากเป็นแนวโรแมนติกก็คงดี”
Beyond Evil ออกอากาศตอนสุดท้ายไปแล้วเมื่อวันที่ 10 เมษายน

ที่มา ( 1 ) ( 2 )

แปลโดย  https://popcornfor2.com