เคล็ด (ไม่) ลับ – ‘แบ่งผม’ ยังไงให้ดูเหมือนดาราเกาหลี!
2020-11-01 20:03:05
Advertisement
คลิก!!!

และแน่นอนว่าสำหรับบรรดาเซเลปเกาหลีแล้ว วิธีการจัดทรงผมของพวกเธอนั้นไม่ได้มีแค่การแบ่งผมแบบ ‘แสกกลาง’ หรือ ‘แสกข้าง’ เท่านั้น

 

โดยปกติแล้ว สาว ๆ แต่ละคนมักจะมีวิธีการแบ่งผมของตัวเองในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งส่วนมาก การจัดทรงผมด้วยวิธีการนี้ก็เพื่อเป็นการทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง (ที่ดูแปลกตาไปจากเดิม) ขึ้นกับลักษณะบนใบหน้าของเรา อาทิเช่น การทำให้โครงหน้าดูเรียวขึ้น หรือการมีทรงผมที่ดูเข้ากันกับรูปทรงของคิ้วมากขึ้น เป็นต้น

 

และด้วยเหตุนั้นเอง รูปแบบการจัดแต่งทรงผมของสาว ๆ แต่ละคนก็เรียกได้ว่าเป็น หนึ่งในวิธีการที่ดึงเอาจุดเด่นที่อยู่บนใบหน้าของเราออกมาให้ผู้คนทั่วไปสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น และปกปิดจุดด้อย ที่อาจสร้างความรู้สึกไม่มั่นใจให้กับเรามากนักนั่นเอง อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การรับรู้ แล้วเข้าใจในลักษณะของจุดเด่นที่มีความเฉพาะตัวของเราเองด้วย ซึ่งหากเราสามารถรับรู้ได้ถึงจุดเด่นนั้นแล้วล่ะก็ มันก็เปรียบได้กับระดับความมั่นใจที่ถูกเติมเต็มไปเกินครึ่งแล้วนั่นเอง

 

ดังนั้น เราจึงได้นำวิดีโอที่รวบรวมเคล็ดลับ และคำแนะนำต่าง ๆ มากมายโดย ‘คิม จูยอง’ หรือช่างทำผมคนดังมาให้ทุกคนได้รับชมกัน โดยวิดีโอดังกล่าวนี้ เกิดจากความร่วมมือกันกับ ‘Allure Korea’ ที่พร้อมมาช่วยเหลือในการแบ่งปัน ‘เคล็ดลับความงามดี ๆ’ เกี่ยวกับการจัดแต่งทรงผมของสาวเกาหลี ซึ่งเป็นวิธีการที่เหล่าบรรดาเซเลป ดารา และไอดอลมากมายในวงการบันเทิงต่างเลือกใช้ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ความงามของพวกเธอให้ดูดีมากยิ่งขึ้น! 

 

1. ดึงจุดเด่นบนใบหน้าออกมาด้วยการ ‘แสกผม’

การแสกผมเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในวิธีการส่งเสริมภาพลักษณ์ใบหน้าของเราให้ดูดีมากยิ่งขึ้นโดยต้องไม่ลงทุนลงแรงใด ๆ อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญคือ ‘อัตราส่วนการแบ่งสัดส่วนของเส้นผม’ และเมื่ออ้างอิงจากคำแนะนำของ ‘คิม จูยอง’ แล้ว สัดส่วนที่ (ถูกคัดมาแล้วว่า) ดีมากที่สุดก็คือ การแสกผมแบบ ‘6:4’ หรือ ‘7:3’ นั่นเอง ซึ่งการแบ่งสัดส่วนปริมาณของเส้นผมในลักษณะนี้นั้นอาจเรียกได้ว่าเป็น ‘การแสกกลาง’ สำหรับสาว ๆ บางคน แต่ในขณะเดียวกัน สำหรับรูปหน้าของสาว ๆ บางคนแล้ว การแบ่งผมในลักษณะนี้ก็อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘การแสกข้าง’ (ซ้ายหรือขวา) เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้แล้ว ‘คิม จูยอง’ ยังได้เน้นย้ำอีกว่า ขั้นตอนก่อนการเลือกรูปแบบการแบ่งผมนั้นควรเป็น ‘การตรวจสอบลักษณะใบหน้า’ ของเราเองอย่างละเอียดเสียก่อน เพื่อตรวจสอบ หรือมองหาจุดเด่น ความมั่นใจที่เราต้องการเปิดเผย เพื่อส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ของเราดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น หากรูปทรงของใบหน้าด้านซ้ายของคุณนั้นดูมีความยูนีค หรือลักษณะเด่นที่ไม่มีในใบหน้าด้านขวา หรือแม้กระทั่งกับลักษณะของดวงตาที่มีความคม หรือขนาดที่ใหญ่มากกว่า 

นั่นหมายถึงคุณควรเน้นการแบ่งผมในอัตราส่วนที่เน้นการดึงจุดเด่นที่อยู่บนใบหน้าด้านซ้ายนั้นของคุณออกมา ด้วยการเลือกแสกผมโดยแบ่งเอาอัตราส่วนของเส้นผมในปริมาณที่น้อยกว่าใบไว้ยังใบหน้าด้านซ้ายของคุณ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือจุดกึ่งกลางของการแบ่งอัตราส่วนของเส้นผมแบบ ‘6:4’ นั้น ควรจะเป็นจุดที่ตรงกันกับ ‘หัวคิ้วข้างซ้าย’ ซึ่งเป็นด้านของใบหน้าที่มีจุดเด่น และจุดกึ่งกลางของการแบ่งอัตราส่วนของเส้นผมแบบ ‘7:3’ นั้น ควรจะเป็นจุดที่ตรงกันกับ ‘กลางคิ้วข้างซ้าย’ ของคุณเอง    

 

2. สำหรับคนที่มีใบหน้ารูปไข่ ‘การแสกกลาง’ คือวิธีที่ดีที่สุด

โดย ‘คิม จูยอง’ นั้นได้กล่าวว่า วิธีการแบ่งผมในอัตราส่วนที่เท่ากันทั้งด้านซ้าย และด้านขวานั้นคือ รูปแบบการแบ่งผมที่ดีที่สุดสำหรับสาว ๆ ที่มีรูปทรงใบหน้าเป็นรูปไข่ เนื่องจากการแบ่งผมในลักษณะนี้นั้นจะช่วยให้ใบหน้านั้นดูเรียวยาวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับสาว ๆ คนไหนที่รู้สึกมั่นใจกับการแบ่งผมแบบ ‘แสกข้าง’ มากกว่า นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเปลี่ยนรูปแบบความชอบของตนเอง และมายึดติดกับคำแนะนำนี้

แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่ควรระวังสำหรับการเลือก ‘แสกข้าง’ ของสาว ๆ ที่มีใบหน้ารูปไข่คือ ‘การไม่ลืมเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผม’ ในด้านที่มีปริมาณมากกว่า และ ‘หลีกเลี่ยงการเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผม’ ในด้านที่คุณจะทัดหู (ในด้านที่มีอัตราส่วนน้อยกว่า) เนื่องจากการทำแบบนั้นจะเป็นการ ‘เพิ่มขนาดของหู’ ของคุณให้ดูมีขนาดที่ใหญ่มากกว่าความเป็นจริง

 

3. เลือก ‘เพิ่ม’ หรือ ‘ลด’ ปริมาณวอลลุ่มให้กับเส้นผม โดยคำนึงจาก ‘รูปทรงของหัว’ เป็นหลัก

เป็นที่แน่นอนว่า ‘การทำให้เส้นผมของเราดูมีวอลลุ่ม’ หรือดูมีน้ำหนักนั้นคือ ‘ปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมกันอย่างมากกับรูปแบบการแบ่งเส้นผม’ โดยน้ำหนักที่ถูกเพิ่มมานั้นจะทำให้วิธีการแสกผมของเราดูมีมิติมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่สาว ๆ ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผมของตนเองนั้น ‘คิม จูยอง’ ได้เน้นย้ำว่า การตรวจสอบ และรับทราบว่าพื้นที่ส่วนไหนบนหัวของเรามีรูปทรงที่จับแล้วให้ความรู้สึก ‘เรียบ’ และส่วนไหนที่มี ‘ความนูน’ มากกว่า

เมื่อทราบดังนั้นแล้ว เราก็ควรที่จะเลือกเพิ่มน้ำหนักของเส้นผมในส่วนที่พื้นฐานของเส้นผมในบริเวณนั้น หรือกล่าวคือในพื้นที่บนหัวของเรา ที่มี ‘ความเรียบ’ เป็นหลักเท่านั้น โดยในส่วนของบริเวณที่รูปทรงของหัวของคุณมีลักษณะที่นูน หรือวอลลุ่มในระดับหนึ่งอยู่แล้ว การเพิ่มน้ำหนักให้กับเส้นผมในบริเวณนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องทำ

 

4. ‘ปกปิด’ เส้นหนังศีรษะ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดูละเอียดละอ่อนมากขึ้น

แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนดังมากมายในวงการบันเทิงเกาหลี ที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ‘เสริมความงามอื่น ๆ เพิ่มเติม’ ที่นอกเหนือไปจากสเปรย์ฉีดผม ในการจัดแต่งทรงผมของพวกเขา ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นก็มาทั้งในรูปแบบของสเปรย์ ผง หรือแม้แต่คูชชั่นสีเข้ม ที่ใช้เพื่อการปกปิด หรือเติมเต็มศีรษะในส่วนที่มีปริมาณเส้นผมที่บาง หรือน้อยกว่าส่วนอื่น ๆ

ในกรณีนี้ ‘คิม จูยอง’ กล่าวว่าการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดังข้างต้น เพื่อการปกปิด หรือเพิ่มความเข้มให้กับหนังศีรษะตรงจุดกึ่งกลาง (จุดกลางของการแสกผม) นั้นเป็นวิธีการที่ดีมาก ๆ ในการเพิ่มความละเอียดอ่อน หรือความรู้สึกที่ดูซอฟท์ ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นให้กับใบหน้าของเรา นอกจากนี้แล้ว วิธีการดังกล่าวยังเป็นการช่วยทำให้รูปทรงของใบหน้าของเราดูเล็กลงมากขึ้นอีกด้วย 

และไม่ใช่แค่นั้น การเพิ่มลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการแบ่งเส้นผมในระดับที่มีความถี่มากขึ้น (การแบ่งผมแบบซิกแซก) หรือการเลือกแบ่งเส้นผมในแบบโค้ง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของเรา ๆ ดูมีมิติ และเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

5. ‘Goddess bangs’ หรือผมหน้าม้าแบบข้าง

หากสาว ๆ คนไหนที่มีขนาดของหน้าผากที่ค่อนข้างกว้าง (ในแบบแนวนอน) วิธีการจัดแต่งทรงผมที่ดีที่สุด ซึ่งแนะนำโดย ‘คิม จูยอง’ ก็คือ การเลือกปล่อยผม หรือปัดผมหน้าม้าที่มีความยาวระดับหนึ่งไว้ด้านข้าง และเพิ่มวอลลุ่ม หรือหยักศกเล็กน้อยให้กับเส้นผมในส่วนนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมรูปทรงของหน้าผากของคุณให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น 

โดย ‘คิม จูยอง’ เรียกสไตล์การจัดแต่งทรงในลักษณะนี้ว่า ‘Goddess bangs’ หรือผมหน้าม้าของเทพธิดา ซึ่งอาจเป็นเพราะเหล่าเทพธิดาของเกาหลีใต้นิยมการจัดแต่งทรงผมในลักษณะนี้เป็นส่วนใหญ่เวลาออกงาน

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X