นักแสดงเกาหลี พูดถึงผลกระทบต่อชีวิตจริงหลังจากรับบทฆาตกรต่อเนื่อง
2020-04-25 10:21:25
Advertisement
คลิก!!!

คำจำกัดความของ จิตเภท คือ ภาวะขาดจิตสำนึกต่อการกระทำ, ไม่รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมีแนวโน้มจะก่ออาชญากรรม ซึ่งเราจะได้เห็นนักแสดงหลายคนถ่ายทอดบทบาทของโรคจิตผ่านทั้งทางภาพยนตร์และซีรีส์ ถือเป็นบทตัวละครที่ท้าทายความสามารถ และการทำให้คนดูเชื่อว่าพวกเขาโรคจิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้นักแสดงต้องทุ่มเททำความเข้าใจตัวละคร จนบางครั้งส่งผลต่อชีวิตจริง ลองไปฟัง 5 นักแสดงที่เคยรับบทฆาตกรต่อเนื่องพูดถึงชีวิตของพวกเขาหลังจากรับบทนี้กันดีกว่า

1. ยุนคเยซัง (Yoon Kye Sang) จากเรื่อง The Outlaws

ยุนคเยซัง รับบทเป็น จางเฉิน ในเรื่อง The Outlaws เมื่อปี 2017 เขาบอกว่า “ไม่สามารถหยุดนึกถึงฉากโหดร้ายในซีนฆาตกรรมหลังจากถ่ายทำได้” เขายอมรับว่า “มีครั้งหนึ่งผมรู้ตัวว่าตัวเองกำลังคิดว่า ‘ฉันน่าจะแทงมีลึกไป’ เป็นความคิดที่แปลกมาก...ทำเอาท้องผมปั่นป่วนเลย”

2. ชเวมินชิก (Choi Min Sik) จากเรื่อง I Saw The Devil

ชเวมินชิก รับบทเป็นคนขับรถแทกซี่ คยองชอล ในเรื่อง I saw The Devil หลังจากถ่ายทำเสร็จ เขาต้องเข้าพบจิตแพทย์อยู่เป็นเดือน เขาเล่าว่า “หลังจากถ่ายหนัง เวลามีคนมาคุยด้วย แบบคุยปกติเลยนะ แต่ในใจผมคิดว่า ‘ทำไมไอ้บ้านี่ถึงมาคุยกับผมว่ะ?’ มันทำให้ผมตกใจตัวเอง ผมสาบานกับตัวเองว่าจะไม่รับบทฆาตกรอีกแล้ว”

3. คิมแจอุค (Kim Jae Wook) จากเรื่อง Voice

คิมแจอุค รับบทเป็น โมแทกู ในเรื่อง Voice เมื่อปี 2017 เขาทำให้ผู้ชมประทับใจในฝีมือการแสดง แต่บทนั้นส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเขา นักแสดงหนุ่มเปิดเผยว่า “หลังจากถ่ายทำฉากที่มีเลือด ฉากที่ผมทรมาณและฆ่าคน ผมหายใจไม่สะดวก และตัวสั่นไม่หยุด” หลังจากถ่ายทำซีรีส์จบ น้ำหนักเขาลดลงอย่างมาก และ เขาแทบไม่กล้ามองตัวเองในกระจก

4. อีคยูซอง (Lee Kyu Sung) จากเรื่อง When The Camellia Blooms

หลังจากรับบทฆาตกรต่อเนื่องลึกลับ ในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ When The Camellia Blooms เมื่อปี 2019 อีคยูซองบอกว่าเขาฝันร้าย “เหมือนกำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา” เขาเล่าว่า “ผมต้องทำตัวให้ไม่สงสารคนอื่น เพื่อให้อินกับตัวละคร ผมพยายามจะลืมมัน” หลังจากจบซีรีส์ เขาต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเยียวยาสภาพจิตใจจากบทตัวละครในเรื่องได้

5. อีจุงอ๊ก (Lee Joong Ok) จากเรื่อง Stranger From Hell

บทของเขาในซีรีส์เรื่อง Stranger From Hell ทำให้เขาต้องทำหน้านิ่งและโรคจิตอยู่ตลอด เขาจึงบอกว่าต้องเปลี่ยนสีหน้าหลังจากแสดงเสร็จ เขาเล่าว่า “ผมเครียดตลอดเวลา เพราะว่าถึงแม้ไม่มีถ่าย ก็ต้องคิดว่าผมจะแสดงให้ดูออกมาโรคจิตและบ้ากามยังไง” หลังจากถ่ายทำจบไปเป็นสัปดาห์ เขาพบว่าตัวเองเผชิญกับความลำบาก และคิดว่า “ตัวเองอาจจะไม่สามารกลับมาใช้ชีวิตปกติได้แล้ว”

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X