รายงานจากพนักงานชันสูตรเปิดเผยว่ารถยนต์ที่พา “พอล วอล์คเกอร์” จบชีวิตลงเมื่อปลายปีก่อน วิ่งด้วยความเร็วถึง 160 กม./ชั่วโมง โดยเมื่อรถยนต์เกิดชนขึ้น ความเร็วดังกล่าวถึงกับทำให้รถยนต์เกือบขาดเป็นสองท่อนเลยทีเดียว

โดยรายงานที่เผยแพร่ออกมาล่าสุดยังบ่งชี้ว่าอุบัติเหตุยังทำให้เกิดไฟลุกขึ้นท่วมรถยนต์ และเผาร่างของนักแสดงวัย 40 ปี จนดำเป็นตอตะโก ชนิดที่ไม่สามารถจดจำได้เลยว่านี่คือร่างไร้วิญญาณของ พอล วอล์คเกอร์ รวมถึงรายละเอียดในด้านต่าง ๆ อีกหลายจุด

รถยนต์ Porsche Carrera GT ปี 2005 ราคา 400,000 เหรียญสหรัฐฯ เป็นของ โรเจอร์ โรดาส เพื่อนที่เสียชีวิตลงในเหตุการณ์อันน่าเศร้าครั้งนี้ด้วย โดย โรดาส เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าวจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ที่ ซานตา แคลริต้า ในเขตทางตอนเหนือของลอสแอนเจลิส ระหว่างทั้งคู่ไปร่วมงานการกุศลที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิของ วอล์คเกอร์

ผลชันสูตรยังยืนยันว่าทั้งโรดาส และวอล์คเกอร์ ไม่ได้มีสารเสพติดใด ๆ อยู่ในระบบของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ หรือยาเสพติดประเภทกัญชา, โคเคน, ฝิ่น หรือ เมทแอมเฟตามีน ก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่ได้แถลงผลการชันสูตรออกมาตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. แล้ว แต่เพิ่งจะทราบผลการตรวจพิษวิทยาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ซึ่งส่วนหนึ่งของรายงานการสอบสวนมีใจความว่า “ผู้ขับรถ Porsche Carrera GT ได้ขับรถด้วยความเร็วที่ไม่ปลอดภัย ในอัตราประมาณ 100 ไมล์/ชั่วโมง (160 กม./ชั่วโมง)” ซึ่งผลการสืบสวนยังเปิดเผยว่ารถยนต์ได้เสียการควบคุมอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนชนต้นไม้ในบริเวณนั้น ก่อนจะพุ่งไปชนยังเสาไฟที่บริเวณใกล้เคียงกัน รายงานยังระบุว่ารถยนต์พังเสียหายแทบจะทั้งคัน และเกือบจะขาดครึ่ง หลังเกิดการชนขึ้น ก่อนจะโดนไฟเผาจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตทั้งสองคน รายงานของเจ้าหน้าที่ระบุว่าแทบจะไม่สามารถแยกออกด้วยตาเปล่าว่าใครเป็นใคร โดยศพของ วอล์คเกอร์ ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้โดยสาร และโดนไฟเผาไหม้จนจำจดไม่ได้ สวมเสื้อยืดสีดำ และกางเกงยีน กับกางเกงบ็อกเซอร์สีเทา โดยสิ่งบ่งขี้ว่าร่างดังกล่าวคือพระเอกดังก็คือ ลักษณะของร่างกาย และกล้ามเนื้อ ที่เจ้าหน้าที่บอกว่ามีลักษณะใกล้เคียงกับ “นักมวย” ส่วนศพของ โรดาส ปรากฏบาดแผลรุนแรงหลายจุด ทั้งกะโหลกที่แตกจนมีสมองไหลออกมา

ด้านชะตากรรมของหนัง Fast & Furious 7 ที่ต้องเลื่อนการถ่ายทำออกไป และเปลี่ยนกำหนดเข้าฉายเป็นแบบ 2015 แทนที่จะเป็นปีนี้นั้นทาง The Hollywood Reporter เปิดเผยว่าผู้กำกับ เจมส์ วาน และผู้เขียนบท คริส มอร์แกน ได้เปลี่ยนบทหนังเพื่อหาบทสรุปให้กับตัวละคร ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ ของ วอล์คเกอร์ ขณะเดียวกันการเปลี่ยนบทไปครั้งนี้ ก็ยังจะเปิดโอกาสให้หนังมีภาคต่อออกไปได้อีก

ซึ่งแหล่งข่าวของ The Hollywood Reporter เปิดเผยว่าผู้สร้างได้ตัดสินใจที่จะไม่ฆ่าตัวละคร โอ’คอนเนอร์ ทิ้ง แม้ผู้แสดงบทนี้อย่าง วอล์คเกอร์ จะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แต่พวกเขาจะหาทางออกด้วยการเขียนบทให้ โอ’คอนเนอร์ เลือกที่จะ “ถอนตัว” ออกไปจากโลกของการโจรกรรมรถยนต์ เพื่อไปใช้ชีวิตที่สงบสุขแทน โดยผู้สร้างจะใช้ฉากที่ วอล์คเกอร์ แสดงเอาไว้ รวมกันการถ่ายทำฉากใหม่ ๆ เพิ่มเติมลงไปเพื่อให้เรื่องราวเดินทางไปสู่ทิศทางดังกล่าว

โดยทาง Universal ได้วางโปรแกรมใหม่ให้กับ Fast & Furious 7 เป็นวันที่ 10 เม.ย. 2015 แทนที่จะเป็นปีนี้ตามโปรแกรมเดิม ซึ่งหนังได้ถ่ายทำไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง ก่อนจะต้องพักการถ่ายทำแบบไม่มีกำหนด หลัง พอล วอล์คเกอร์ ที่เป็นตัวเอกของเรื่องเสียชีวิตลง

http://www.manager.co.th