ผู้นำฝรั่งเศส เมิน อังกฤษไม่จับมือสหรัฐฯ โจมตีซีเรีย แย้มการโจมตีอาจมีขึ้นในวันพุธที่ 4 ก.ย.นี้ ขณะที่ โอบามา ลั่น รับไม่ได้ซีเรียใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชน ไม่เว้นแม้แต่เด็ก ชี้ คนอยู่เบื้องหลังต้องรับผิดชอบ

           หลัง จากที่สภาผู้แทนราษฎรในอังกฤษมีมติไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของรัฐบาลที่ให้ใช้ ปฏิบัติการทางการทหารลงโทษซีเรียร่วมกับสหรัฐอเมริกานั้น ในวันที่ 31 สิงหาคม 2556 นายฟรังซัวส์ โอลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เลอมองด์ ว่า การขาดอังกฤษไปจะไม่ส่งผลกระทบต่อจุดยืนของฝรั่งเศสที่ต้องการมาตรการที่ มั่นคงและเหมาะสมที่จะปฏิบัติต่อรัฐบาลกรุงดามัสกัส และเปรยเป็นนัยว่า การโจมตีอาจมีขึ้นในวันพุธที่ 4 กันยายนนี้ หลังจากคณะตรวจสอบอาวุธเคมีของสหประชาชาติเดินทางออกจากซีเรียในวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม เพื่อเข้ารายงานต่อนายบัน กีมูน เลขาธิการยูเอ็น

          ขณะที่รัสเซียได้ออกมายินดีกับมติของสภาอังกฤษ โดยยูริ ยูเชคอฟ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า การลงคะแนนของสภาอังกฤษแสดงให้เห็นว่าสาธารณชนตระหนักและเข้าใจถึงอันตราย ของการใช้กำลังทหาร เป็นการสะท้อนความเห็นเสียงส่วนใหญ่ของชาวอังกฤษและ ชาวยุโรป เพราะการใช้กำลังทหารโดยไม่ผ่านการรับรองของสภาความมั่นคงแห่งยูเอ็นจะเป็น การทำลายระเบียบของโลก
   
          "การกระทำที่ไม่ผ่านมติสภาความมั่นคงจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อระบบและบทบาทของยูเอ็น เพราะไม่เพียงจะทำให้สถานการณ์ในซีเรียเลวร้ายลงไปกว่าเดิม แต่จะทำให้ตะวันออกกลางลุกเป็นไฟ" นายยูเชคอฟ กล่าว และว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ พูดเองเออเองว่ารัฐบาลใช้อาวุธเคมี ซึ่งรัสเซียไม่อาจเชื่อได้ เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่เคยเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

          ทางด้านสหรัฐอเมริกา นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า ใน ฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้นำโลกควรจะต้องทำบางสิ่งบางอย่าง เพื่อหยุดยั้งความเลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้น แม้ตนเองจะเหนื่อยและท้อแท้กับเรื่องการทำสงครามเหมือน ๆ กันประชาคมโลกส่วนใหญ่ แต่สำหรับประเทศซีเรียนั้น ได้ใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนไปเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก ๆ เป็นการกระทำที่ยากจะรับได้ ดังนั้น ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้จะต้องรับผิดชอบ

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม