|
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เด็กชายวัย 12 ปี ชาวจีน ถูกพ่อจับล็อกไว้ในบ้านกับแม่นานกว่า 8 ปี จนไม่สามารถพูดได้อย่างใจเหมือนคนอื่น โดยครอบครัวของเด็กชายอาศัยอยู่ที่เมืองจี้หนิง มณฑลชานตง ประเทศจีน
ทั้งนี้ พ่อของเด็กชาย เปิดเผยว่า ภรรยาของเขาไม่รู้มาก่อนว่า ตนเองป่วย จนพวกเขาแต่งงงานก่อน แต่ 1 ปีต่อมา เธอก็เริ่มกลายเป็นคนวิกลจริต และไม่เคยรับการรักษาใด เธอไม่สามารถสื่อสารกับคนรอบข้างได้อย่างปกติ และมักจะพูดพึมพำพร้อมกับหัวเราะอยู่คนเดียว
“เธอใช้ชีวิตเหมือนดั่งซากศพมานานหลายปี และผมไม่มีความสามารถพอที่จะส่งเธอไปรักษาที่โรงพยาบาล ผมมีอาชีพเพียงชาวไร่ชาวนาและทำงานเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ครอบครัวมีชีวิตรอด” พ่อของเด็กชาย กล่าว
ขณะที่ เรื่องลูก พ่อของเด็กชาย เปิดเผยว่า ลูกชายของเขาไม่เคยได้ดื่มนมแม่แม้แต่นิดเดียว เขาต้องให้ลูกดื่มนมผงแทน เขาดูแลภรรยาและลูกด้วยตัวเองมาตลอด เวลาที่เขาต้องออกไปทำงาน เขาจะล็อกบ้านให้ลูกชายอยู่กับแม่ เมื่อเขากลับบ้าน เขาจะซื้ออาหารมาฝากเสมอ และเนื่องจากว่า เขาล็อกให้ลูกชายอยู่ในบ้านกับแม่นาน ลูกชายเขาเลยไม่มีโอกาสได้สื่อสารหรือรับการศึกษาแบบปกติ ลูกชายของเขาไม่สามารถดูแลตัวเองหรือพูดได้ ยกเว้นแต่การพึมพำเป็นครั้งคราว
“ลูกชายผมสามารถพูดได้แค่ พ่อ และแม่ แต่ก็ไม่บ่อยครั้งที่เขาจะพูดได้ ลูกชายผมไม่มีเพื่อนเล่น เพราะคนในหมู่บ้านไม่ยอมให้เด็กเข้ามาเล่นด้วย” พ่อของเด็กชาย กล่าว
ด้าน เจ้าหน้าที่ศูนย์บำบัดอาการทางจิต กล่าวว่า พวกเขาจะช่วยอย่างเต็มที่ที่สุดเพื่อทำให้เด็กชายกลับมาใช้ชีวิตอย่างเด็กทั่วไปได้อย่างมีความสุข
อย่างไรก็ตาม พ่อของเด็กชาย กล่าวว่า เขารู้สึกขอบคุณที่องกรณ์ส่วนท้องถิ่นเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการรักษาของเด็กชาย โดยเขากล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกชายของเขาไม่ได้เป็นคนโง่ แต่แค่ไม่ได้รับการศึกษาเหมือนเด็กคนอื่นเท่านั้น และนี่เป็นสิ่งสำคัญที่เขาคิดว่า ลูกชายควรจะได้รับ
ขอขอบคุณที่มา http://www.springnews.co.th/