วันที่ 19 มี.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้ากรณีลูกเสืออายุ 7 เดือน ตกลงมาตายอย่างอนาถจากตึกชั้นที่ 11 ในเมืองผิงตู มณฑลซานตง ประเทศจีน ขณะถูกขังอยู่ในกรงแล้วตกใจเสียงพลุวันตรุษจีน สร้างความเศร้าสลดใจให้คนรักสัตว์ทั่วโลกว่า จากการสอบสวนพบว่า เจ้าของเสือเป็นนักการเมืองสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ระดับเทศบาล ชื่อนายหยาง เหวินเจิ้ง เป็นผู้เลี้ยงลูกเสือตัวดังกล่าวอีกทั้งยังเลี้ยงเสือไว้ถึง 11 ตัว เป็นอีกคดีที่สร้างความอื้อฉาวให้กับพรรคคอมมิวนิสต์



 การสอบสวนพบว่า นายหยางและเพื่อนที่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลในสภาประชาชนจีน อุปการะเสือสองตัวมาเลี้ยงจากเพื่อนร่วมงานอีกคน เพื่อนคนนั้นมีเสืออยู่ถึง 8 ตัวแล้ว แต่สู้ค่าใช้จ่ายวันละถึง 1,600 หยวน (ราว 8,553 บาท) ไม่ไหวจึงมอบให้ ต่อมานายเหวินเจิ้งกับเพื่อนก็ช่วยกันเพาะพันธุ์เสือออกมาได้ 3 ตัว แต่สุดท้ายแล้วก็ตายหมด ทั้งคู่จึงช่วยกันเพาะพันธุ์ได้ใหม่อีก จนมีรวมกันแล้วได้ทั้งหมด 11 ตัว ภายหลังเมื่อถูกจับได้ นายเหวินเจิ้งและเพื่อนร่วมสภาทั้ง 2 ลาออกจากตำแหน่ง อีกทั้งยังถูกปรับคนละ 3,000 หยวน หรือราว 16,037 บาท



 ในประเทศจีน เสือถือเป็นสัตว์สงวน ผู้ที่จะมีไว้ในครอบครองได้นั้นต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการเสียก่อน แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีการค้าขายอย่างผิดกฎหมายอยู่ โดยเนื้อและกระดูกของเสือสามารถใช้เป็นส่วนผสมในยาแผนจีนได้ หรือผู้ที่มีอาชีพเพาะพันธุ์เสือ ก็สามารถขายให้ตลาดมืดได้ด้วยราคาไม่ต่ำกว่า 1 ล้านหยวน (ราว 5,345,679 บาท)