สนามบินนานาชาตินาริตะเตรียมลดทอนมาตรการตรวจเข้มที่ไม่จำเป็น โดยจะใช้เทคโนโลยีมาช่วยรักษาความปลอดภัยมากขึ้น
       
       สนามบินนานาชาตินาริตะ ประตูสู่กรุงโตเกียวเมืองหลวงของญี่ปุ่น ประกาศว่าจะยกเลิกมาตรการตรวจบัตรประจำตัวผู้ที่มารับส่งผู้โดยสาร โดยจะตรวจเอกสารเฉพาะผู้โดยสารเท่านั้น
       
       นับตั้งแต่เปิดใช้งานในปี 1978 ผู้ที่จะผ่านเข้าในพื้นที่สนามบินนาริตะทุกคนจะต้องแสดงบัตรประจำตัวหรือหนังสือเดินทาง ส่วนคนขับรถโดยสารก็ต้องลงจากรถและเปิดกระโปรงท้ายก่อนเข้าเขตสนามบิน ขณะที่ผู้ที่เดินทางมาโดยรถไฟก็จะถูกตรวจเอกสารเช่นเดียวกันก่อนที่จะออกจากชานชาลา
       
       มาตรการตรวจเข้มเช่นนี้ถูกบังคับใช้เนื่องจากชาวนาและกลุ่มต่างๆ ได้ต่อต้านการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างสนามบิน และไม่ได้มีการยกเลิกตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี อย่างไรก็ตามมาตรการคุมเข้มเช่นนี้ทำให้การจราจรบริเวณหนาบินหนาแน่นมาก ส่วนผู้โดยสารก็ต้องต่อแถวยาวเพื่อตรวจสัมภาระและร่างกายอย่างละเอียดทั้งเมื่อเข้าและออกสนามบิน มาตรการเข้มงวดเช่นนี้ใช้เฉพาะที่สนามบินนาริตะแห่งเดียวเท่านั้นในประเทศญี่ปุ่น
       
       นอกจากนี้ ทางสนามบินนาริตะยังจะยกเลิกการตั้งด่านสกัดรถยนต์บริเวณทางเข้าสนามบิน โดยจะติดตั้งกล้องวงจรปิดมากกว่า 330 ตัว ซึ่งกล้องไฮเทคเหล่านี้จะสามารถจดจำใบหน้าผู้คนและป้ายทะเบียนรถยนต์ได้
       
       สนามบินนาริตะยืนยันว่าระบบรักษาความปลอดภัยยังคงมีความมั่นใจระดับสูงสุด โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ ก็เพื่อลดความแออัดของผู้โดยสารซึ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อกรุงโตเกียวเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกในปี 2020 รวมทั้งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากรของสนามบินด้วยเช่นกัน