ม็อบชาวนา 23 อำเภอ จาก จ.บุรีรัมย์ จับมือเครือข่าย กปปส. ปิดประตูเข้า-ออกหน้าศูนย์ราชการ ทวงเงินจำนำข้าวที่รัฐค้างจ่าย พร้อมปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ

วัน ที่ 17 มกราคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลไม่สามารถจ่ายเงินค่าข้าวเปลือกที่ชาวนานำไปเข้าโครงการรับ จำนำได้ครบทันกำหนด ตามที่เคยระบุไว้ ทำให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไม่ได้รับเงินค้างจ่ายค่าข้าวเปลือกที่เกษตรกรนำไปเข้าร่วมโครงการรับ จำนำ

ซึ่งขณะนี้กลุ่มชาวนาในหลายจังหวัดได้รวมตัวกันปิดถนนแล้ว เช่น ที่ จ.เพชรบูรณ์ ชาวนาหลายตำบลในเขต อ.เมือง รวมตัวกันปิดถนนศึกษาเจริญ ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อทวงเงินค่าข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำปี 2556-2557 แต่ผ่านไป 4 เดือนแล้วยังไม่ได้เงิน พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐจ่ายให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรปลูกข้าวโพดใน จ.เพชรบูรณ์ 200 คนเข้าร่วมปิดถนนศึกษาเจริญ ด้วยเช่นกัน เนื่องจากราคาข้าวโพดตกต่ำ

ส่วน ที่ จ.พิจิตร ชาวนาใน อ.โพธิ์ประทับช้าง ได้นำใบประทวนข้าวที่เก็บไว้กว่า 4 เดือนมาเข้าคิวรอขึ้นเงินกับ ธกส. แต่ก็ไม่ได้รับเงิน กลุ่มชาวนาจึงมีการนำโรงศพมาตั้งปิดถนนน้ำลำโพง จาก นั้นชาวนาจาก 4 อำเภอ ได้แก่ อ.บึงนาราง อ.โพทะเล อ.โพธิ์ประทับช้าง และอ.บางมูลนาก ได้รวมตัวกับชาวนา จ.นครสวรรค์ เพื่อปิดถนนสายเอเชีย 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก อ.บึงนาราง จ.พิจิตร สายขาล่องเข้ากรุงเทพฯ ทั้ง 2 เลน เป็นเหตุให้รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ โดยทางแกนนำต้องการให้รัฐบาลจ่ายเงินที่ค้างอยู่ภายในวันนี้ ไม่เช่นนั้นจะยกระดับการชุมนุมขึ้นไปอีก

ด้าน จ.อุบลราชธานี พบว่า ชาวนาใน อ.พิบูลมังสาหาร ได้รวมตัวชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัด ระบุว่า หากสิ้นเดือนนี้รัฐบาลยังไม่จ่ายเงิน กลุ่มชาวนา จ.อุบลราชธานี จะชุมนุมปิดถนน และไปเข้าร่วมกับกลุ่ม กปปส. ที่กรุงเทพมหานคร

ขณะที่ จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่นำเครื่องกีดขวางวางกั้นบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด และปิดกระตูเข้า-ออก หลังชาวนาจาก อ.ลาดยาว อ.โกรกพระ อ.ท่าตะโก และ อ.ชุมแสง เริ่มทยอยเดินทางมายังศาลากลางตามที่มีการนัดหมายว่าจะชุมนุมทวงถามเงินจำนำ ข้าวที่รัฐบาลติดค้างมานานหลายเดือน

ด้านตัวแทนสมาพันธ์เกษตรกรเชียงใหม่-ลำพูน เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากกลุ่มชาวนาภาคกลางให้ส่งตัวแทนแต่ละจังหวัดไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง และยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้รัฐบาลรักษาการกู้เงินไปจ่ายให้กับชาวนา

ส่วนความเคลื่อนไหวของชาวนาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวเช่นกัน นายบุญเพ็ง ศรีนวล ตัวแทนสภาเกษตร อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ระบุว่า ได้เตรียมหารือกับสมาชิกในเครือข่าย หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีชาวนากว่าร้อยละ 70 หรือประมาณ 20,000 คน ซึ่งเป็นชาวนาในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว แต่ยังไม่ได้รับเงิน รวมเป็นเงินกว่า 4,000 ล้านบาท แม้รัฐบาลจะอนุมัติเงินมาให้ก่อนหน้านี้ 900 ล้านบาท ดังนั้นตัวแทนสภาเกษตร อ.ราษีไศล จึงเตรียมยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อทวงถาม และหากไม่มีความคืบหน้าจะกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวอีกครัั้ง

อย่าง ไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า เกษตรกรจาก 23 อำเภอ จาก จ.บุรีรัมย์ และมวลชน กปปส. กว่า 1,000 คน ได้มารวมตัวชุมนุมประท้วง บริเวณประตูทางเข้า-ออกหน้าศูนย์ราชการจังหวัด และศาลากลางจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินจำนำข้าว เพราะเกษตรไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว รวมถึงไม่มีชำระหนี้ที่กู้นายทุนมาทำนาทั้งในและนอกระบบ

โดยแกนนำเกษตรกรที่มาชุมนุมได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยผ่านเครื่องขยาย เสียง โจมตีนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล ขณะที่บางส่วนได้ขนเสบียงอาหารมา พร้อมตั้งเต็นท์ที่หน้าศูนย์ราชการ เพื่อปักหลักประท้วงกดดันให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินให้เกษตรกรโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้องค์การคลังสินค้า และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร ได้รับจำนำข้าวจากเกษตรกร จ.บุรีรัมย์ และออกใบประทวนไปแล้วรวม 291,118 ตัน ในจำนวนนี้เกษตรกรได้นำใบประทวนไป ขึ้นเงินที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรทุกสาขาในเขตพื้นที่ จังหวัดแล้ว 60,546 ราย ปริมาณข้าว 272,979 ตัน คิดเป็นยอดเงินกว่า 5,157 ล้านบาท

แต่ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้รับการจัดสรรเงินมาเพียง 1,051.49 ล้านบาท จ่ายเงินให้เกษตรกรไปแล้วรวม 10,233 ราย วงเงินกว่า 984.43 ล้านบาท ส่วนเกษตรกรที่เหลืออีก 50,313 ราย วงเงินกว่า 4,173 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอการจัดสรรงบจากรัฐบาล