บ็อบบี้ (Bobby), จุนฮเว (Junhoe) และ ดงฮยอก (Donghyuk) วง iKON พูดถึงเรื่องที่ บีไอ (B.I.) ออกจากวง, บ็อบบี้แต่งงาน และอื่นๆอีกมากมายอย่างตรงไปตรงมา
2022-06-05 09:12:14
Advertisement
คลิก!!!

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน บ็อบบี้ (Bobby), จุนฮเว (Junhoe) และ ดงฮยอก (Donghyuk) วง iKON ได้ร่วมเป็นแขกในรายการ Oh Eun Young’s Golden Clinic พวกเขาได้ร่วมพูดคุยถึงความสำเร็จ, สมาชิกในวง และเรื่องราวอีกมากมายกับจิตแพทย์ชื่อดัง โออึนยอง

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา วง WINNER เพื่อร่วมค่าย YG Entertainment ของ iKON ได้มาร่วมรายการ และร่วมพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา ทั้งเรื่องปัญหาอาการวิตกกังวลของ ซงมิโน (Song Mino), การจากไปของคุณย่าของ คิมจินอู (Kim Jin Woo) และอีกมากมาย


จุนฮเวเล่าเรื่องของตัวเอง “ตอนที่ผมมีเรื่องกังวลหลายอย่าง ผมได้เจอกับ [ซง] มิโน และถามเขาว่าผมจะพูดได้แค่ไหนในรายการ Golden Clinic มิโนบอกว่า ‘ตอนที่นายไปอยู่ที่นั่น นายจะจบลงด้วยการเล่าออกไปทุกอย่าง’ ผมเลยมาพร้อมกับความซื่อสัตย์ที่อยากจะพูดทุกอย่างครับ”


เมื่อถามถึงความกังวลในปัจจุบันของเขา สมาชิกทั้ง 3 คนของ iKON บอกว่าพวกเขากังวลมาก ดงฮยอกอธิบาย “สิ่งที่น่าขำคือ เราไม่รู้ว่าเรากังวลเรื่องอะไร ตอนนี้เราเดบิวต์ด้วยกันมา 8 ปีแล้ว ถ้ารวมตอนที่เป็นเด็กฝึกหัดด้วยเราก็ใช้เวลาด้วยกันมามากกว่า 10 ปีแล้ว เราจดจำช่วงเวลาที่น่าตื้นตันใจของเราได้ทั้งตอนเดบิวต์ และตอนที่มีความสุขจากความสำเร็จตอนที่เราได้รับความรักมากมาย แต่ว่าสมาชิกทุกคนก็ยังมีความกังวลที่อธิบายไม่ถูกอยู่ดี”
 

ช่วงสัมภาษณ์ในสตูดิโอ จุนฮเวบอกว่า “ตอนนี้เราเดบิวต์มาได้ 8 ปีแล้วครับ พูดตามตรงเรามียุคทองอยู่ 2 ช่วงคือ อย่างแรกคือตอนเดบิวต์ อีกครั้งตอนเพลง Love Scenario แต่พอมองดีๆ ตอนนี้เราไม่มีอิทธิพลเหมือนที่เคยทำได้ในตอนนั้นแล้วครับ เราไม่สามารถเข้าใกล้จุดสูงสุดได้ [ในเรื่องของความนิยม] และไม่ได้อยู่ในจุดเดิมด้วยซ้ำ ผมคิดว่า [ความนิยมของเรา] ตกลง ถ้ามองกันแบบเป็นกลางเลยนะครับ”

ดงฮยอกอธิบายความสำเร็จของเพลง Love Scenario ว่า “สิ่งที่น่าตกใจคือ คนไม่รู้จัก iKON แต่รู้จักเพลง Love Scenario” เขาพูดต่อ “แม้ว่าจะเป็นปีที่ยอดเยี่ยมของเรา แต่คนก็ยังไม่รู้ว่าใครคือ iKON”

 

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สมาชิกในวงได้พูดถึง บีไอ (B.I) ลีดเดอร์ของวงที่ออกจากวงไปเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2019 หลังจากมีข่าวลือเรื่องยาเสพติด ดงฮยอกบอกว่า “พูดตามตรง มันเป็นช่วงเวลาที่ลำบากของพวกเราในฐานะทีมตอนที่บีไอออกไปแล้วเหลือแค่เรา 6 คน ผมงงไปเลยตอนที่เราไม่มีหัวหน้าวงที่คอยทำอะไรให้เราตั้งหลายอย่าง ตอนนั้นผมคิดว่าสมาชิกแต่ละไม่ได้ก้าวออกไปไหนเลย”

จุนฮเวเสริม “เหมือนกับมันเป็นข่าวของคนอื่น แทนที่จะรู้สึกเศร้า ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่จริง” บ็อบบี้บอกว่า “ผมแทบไม่อยากคิดเลย ‘เราจะทำยังไงต่อล่ะ?’ ใช้เวลาหลายเดือนที่ผมใช้ชีวิตโดยคิดว่า ‘เขาไปแล้ว’ การหายไปของใครซักคนมันทำให้รู้สึกใช้ชีวิตแบบขมขื่น เพราะว่าเขาเป็นเพื่อนที่ใช้เวลาด้วยกันมานานจนถึงเมื่อวาน แล้วอยู่ๆก็ไป”

บ็อบบี้อธิบายว่าเขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของวง “สมาชิกที่เป็นเหมือนเสาหลักของวงที่ทำอะไรเพื่อวงมากมายจากไป ผมคิดว่า ‘นี่คือจุดจบของ iKON แล้วเหรอ?’”

เมื่อสมาชิกในวงได้พูดถึงเรื่องข่าวลือของ บีไอ ที่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก คุณหมอโออึนยองได้บอกพวกเขาว่า “คุณอยู่ในจุดที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็กลับถูกด่าว่าและต้องรับผิดชอบ เหมือนกับชื่อเสียงของ iKON ถูกทำลาย” เธอพูดต่อ “น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะพูดเรื่องนี้ระหว่างสมาชิกด้วยกัน แต่ว่าถึงแม้คุณจะไม่ได้มาพูดออกอากาศแบบนี้ ฉันเชื่อว่าสมาชิกทั้ง 6 คนควรจะพูดถึงมันอย่างจริงจัง คุณต้องปลอบโยนกันและกัน”


จากนั้นสมาชิกแต่ละคนพูดถึงบุคลิกของพวกเขาและความกังวล จุนฮเวบอกว่าความกังวลของเขาผสมรวมไปกับความมั่นใจ ดงฮยอกเล่าว่า “ผมกังวลเพราะว่าหลายครั้งเขาจะทำตัวขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขาในวันนั้น” บ็อบบี้พูดเสริม “มีอยู่หลายครั้งระหว่างการสัมภาษณ์ของพวกเรา 6 คน แล้วอยู่ๆ จุนฮเวก็พูดบางอย่างขึ้นมาซึ่งเป็นเรื่องที่เราตั้งตัวไม่ทัน”

จุนฮเวอธิบาย “ทุกคนกังวลเรื่องผมหมดเลยครับ พวกเขากังวลเวลาที่ผมเปิดปากพูด” เขาพูดต่อ “ตัวผมเองเต็มไปด้วยความมั่นใจ ผมเชื่อว่า ‘ผมจะทำออกมาได้ดี’” อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมาความมั่นใจของเขาเริ่มสั่นคลอน

 

จุนฮเวพูดต่อ “มีเรื่องที่เป็นประเด็นใหญ่ เมื่อไม่นานมานี้ผมกลายเป็นคนซื่อสัตย์เกินไปแบบไร้เหตุผล ตัวอย่างเช่น ตอนที่อัลบั้มของเราปล่อยออกมา เราก็ไปสัมภาษณ์กัน ผมถูกถามว่า ‘เพลงไหนที่คุณชอบที่สุดในอัลบั้ม?’ แล้วผมตอบไปว่า ‘ไม่มีเลยครับ’ แม้ว่าผมจะชอบทุกเพลง รวมถึงเพลงไตเติ้ลของเราก็ดี แต่พูดตามตรงคือไม่มีเพลงไหนที่ประทับใจผมขนาดนั้น ผมเลยพูดแบบนั้นออกไป”

เขาพูดต่อ “พอถูกบอกให้ส่งข้อความถึงแฟนคลับ ผมบอกว่า ‘ขอโทษครับ’ นี่เป็นอัลบั้มแรกของเราในรอบ 1 ปีครึ่ง และผมอยากจะบอกแฟนคลับแบบนั้นเพราะทำให้พวกเขารอมานาน”


บ็อบบี้ทำให้ทุกคนหัวเราะ เมื่อเขาพูดขึ้นมาว่า “คือเวลานั้นมันก็สนุกดีนะครับ แต่ก็มีบ้างที่ผมคิดว่าเขาสามารถพูดแบบนั้นได้เหรอ”

คุณหมอโออึนยองอธิบายกลไลป้องกันตัวของจุนฮเวว่า “คุณมีแรงผลักดัน และความสามารถในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ข้อเสียคือคุณจะไม่ค่อยอดทนและใจร้อน”

สำหรับบ็อบบี้ สมาชิกในวงบอกว่าไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับเขา เพราะบ็อบบี้ไม่ค่อยบอกความรู้สึกให้ใครรู้

บ็อบบี้บอกว่า “พวกเขาเคยเรียกผมว่าตัวสร้างบรรยากาศตอนที่พวกเราเดบิวต์ครับ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าผมเป็นพวกที่เงียบจนเกินไปแล้ว ผมรู้สึกทำตัวไม่ถูกกับทุกคน” เมื่อถามว่าเขารู้สึกกระอักกระอ่วนกับสมาชิกในวงด้วยหรือไม่ บ็อบบี้ตอบว่า “พูดตามตรงคือเป็นกับทุกคนเลยครับ”

คุณหมอโออึนยองตอบ “การไม่พูดไม่ได้หมายถึงคุณไม่ชอบคนตรงข้ามคุณ เพราะว่าคุณรู้จักพวกเขามา 10 ปีแล้ว ฉันไม่คิดว่าคุณไม่คุ้นเคยกับพวกเขา ถ้าเป็นความรู้สึกกระอักกระอ่วน มีช่วงเวลาที่คุณไม่อยากยุ่งกับพวกเขาไหม?” บ็อบบี้ตอบ “ผมคิดว่าไม่พูดจะดีกว่า ผมรู้ดีว่ามีคนสงสัยเกี่ยวกับตัวผม และผมอยากจะตอบพวกเขาทั้งหมด แต่ว่ารู้สึกเหนื่อยและรำคาญที่ต้องทำมัน”

บ็อบบี้เล่าย้อนไปตอนที่เขารู้สึกรำคาญคนอื่นเป็นครั้งแรก และหมอโออึนยองบอกว่าการกระทำของเขาน่าจะมาจากความเจ็บปวด “ตอนนั้นผมคิดว่าการใช้ชีวิตแบบคนดังมันช่างแตกต่างจากที่ผมจินตนาการไว้ ตอนนั้นผมได้รับความรักและถูกจดจำจากรายการ Show Me The Money และหลังจากนั้นผมเลยคิดว่าผมจะสามารถโชว์ความเป็นตัวของตัวเองและเพลงที่ผมอยากทำ”

เพราะเขาได้รับการตอบสนองและความคิดเห็นที่ไม่เหมือนความคิดของเขา บ็อบบี้บอกว่า “คนไม่ได้อยากเห็น ‘ตัวผม’ เขาอยากเห็นคนที่เขาอยากให้ผมเป็น มันเลยไม่มีเหตุผลที่จะทำตัวซื่อสัตย์ 100%”

 

บ็อบบี้บอกว่าเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่ต้องทำตัวไม่ซื่อสัตย์กับตัวเอง อย่างเช่นเวลาที่เขาต้องยิ้มทั้งที่ไม่อยากยิ้ม จากนั้นเขาเปิดเผยว่าเขาไม่มีความสุขในช่วงเวลาที่เป็นจุดสูงสุดของ iKON ในช่วงเพลง Love Scenario “ผมอยากจะพักแต่ผมต้องเติมเต็มความคาดหวังและการตั้งตารอของคนอื่น ผมเลยไม่สามารถนอนได้ ผมจะไม่พอใจไลฟ์สไตล์แบบนี้ เลยรู้สึกกดดันที่ต้องทำต่อไป”

จากนั้นสมาชิกได้พูดถึงเรื่องเซอร์ไพรส์ของบ็อบบี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นข่าวที่เขากำลังจะแต่งงานและกำลังจะเป็นพ่อคน ดงฮยอกถูกถามว่าเขารู้เรื่องได้ยังไง และเขาเล่าว่า “ผมคิดว่าเขาบอกทุกคนเป็นการส่วนตัว ผมแค่กอดเขาเงียบๆ เขาร้องไห้หนักมาก เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขาร้องไห้หนักขนาดนั้น”

ดงฮยอกพูดต่อ “เพราะว่าผมรู้จักบ็อบบี้และนิสัยของเขาค่อนข้างดี เหตุผลที่ผมกอดเขาก็เพราะว่าสิ่งที่เขาบอกผมหมายถึงเขารู้ว่ากำลังจะต้องรับผิดชอบอะไร ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกกลัวของเขา ผมเลยไม่มีอะไรจะพูดกับเขา”

เมื่อถามว่าบ็อบบี้เปลี่ยนไปอย่างไรตั้งแต่แต่งงาน จุนฮเวตอบว่า “มุมมองของเขาที่มีต่อทุกอย่างเปลี่ยนไป สำหรับผมสิ่งที่ผมอยากทำมาก่อนเป็นอันดับแรก แต่ผมรู้สึกว่าสำหรับเขา เขาคิดถึงครอบครัวของเขาก่อนมากกว่าสิ่งที่เขาต้องการ”

บ็อบบี้ได้เล่าตอนที่เขารู้ข่าวเป็นครั้งแรกว่า “ผมรู้สึกผิดต่อ iKON ครับ ในขณะที่รู้สึกยินดี [ที่กำลังจะมีลูก] แต่มันจะเป็นช่วงที่ผมจะทำงานได้กับวงไม่เต็มที่ โดยเฉพาะงานในฐานะไอดอล” เขากังวลและได้อธิบายพร้อมขอโทษสมาชิกแต่ละคนเป็นการส่วนตัว ซึ่งแต่ละคนต่างยินดีและอวยพรเขา

 

บ็อบบี้ถูกถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกอย่างไร เขาบอกว่าไม่มีโอกาสจะได้หยุดมองความรู้สึกตัวเองด้วยซ้ำ เพราะมีอะไรต้องทำหลายอย่าง ทั้งบอกข่าวกับทุกคนและวางแผนแต่งงานของตัวเองรวมถึงอนาคต เขาพูดต่อ “นี่เป็นงานที่คุณต้องเป็นตัวอย่างให้กับเด็กและเยาวชน แต่การท้องก่อนแต่งไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดี และเพราะเรื่องนี้ผมเลยรู้สึกเสียใจต่อ [แฟนคลับ] ที่ไม่ได้เห็นตัวอย่างที่ดี”

จากนั้นบ็อบบี้บอกว่าเขาแยกชีวิตของเขาในฐานะ บ็อบบี้ วง iKON และ ผู้ชายที่ชื่อ คิมจีวอน [ชื่อจริงของบ็อบบี้] ออกจากกันโดยตลอด แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ฉลาด แต่คุณหมอโออึนยองอธิบายว่าบางครั้งก็ไม่สามารถทำได้ “ถ้าคุณแยกมันออกจากกันมากเกินไป สุดท้ายมันก็จะยากที่ปรับตัวในภายหลัง” อย่างเช่นตอนที่พยายามไม่เอาความสุขในฐานะพ่อคนมาแต่งเพลงและแบ่งปันกับแฟนคลับ

 

บ็อบบี้ได้ตอบรับคำแนะนำของคุณหมอโออึนยองว่า “แทนที่จะเป็นมนุษย์ชื่อคิมจีวอน หรือ บ็อบบี้ ผมจะแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับตัวผมเอง เพราะฉะนั้นได้โปรดติดตามด้วยนะครับ”

ที่มา ( 1 ) ( 2 )

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X