คนเรามักยกเหตุผล ต่าง ๆ นานาเพื่อเป็นข้อแก้ต่างให้ตัวเองยามมาสายผิดนัดเสมอ ไม่ว่าจะฝนตก รถติด ท้องเสีย นาฬิกาพัง ฯลฯ แต่ถ้าเจอเหตุผลของคุณลุงจิม ดันบาร์ จากสกอตแลนด์คนนี้เข้าไป คนที่รอฟังคำแก้ตัวคงหงายเงิบไปตาม ๆ กัน เพราะแกอ้างว่า แก "ป่วยด้วยโรคไม่ตรงเวลา" จึงไม่สามารถมาทันตามเวลาที่นัดหมายกันไว้ได้อยู่ร่ำไป
 
          เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมว่า ด้วยโรคไม่ตรงเวลานี้ ทำให้คุณลุงจิม วัย 57 ปี จากเมืองฟอร์ฟา ทำอะไรก็สายล่าช้าไปกว่าเวลานัดเสมอ ตั้งแต่ไปโรงเรียนสายสมัยเด็ก ๆ ไปทำงานสาย นัดกินข้าวกับเพื่อนก็ไปสาย นัดไปเที่ยวกับเพื่อนก็สาย ไปดูหนังก็สาย ไปงานศพก็ยังสาย ขนาดเมื่อตอนที่นัดหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยสาเหตุของอาการนี้ก็ยังไปสายตั้ง 20 นาทีเลย ซึ่งยังนับว่าสายน้อยแล้วเมื่อเทียบกับเวลาเลทอื่น ๆ ของแกที่มีตั้งแต่อีกไม่กี่นาทีจะครบชั่วโมง ไปจนถึงหลาย ๆ ชั่วโมง

          โดยแพทย์ได้วินิจฉัยอาการของสายเสมอของคุณลุงว่า อาจจะเกิดความผิดปกติอะไรสักอย่างกับสมองส่วนเดียวกับในคนที่เป็นโรคสมาธิ สั้น (Attention-Deficit Hyperactivity Disorder) แต่ในเคสของลุงจิมกลับทำให้แกไม่สามารถคะเนเวลาที่แน่นอนในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้

          แน่นอนว่าหลาย ๆ คนคงเลิกคิ้วด้วยความสงสัยว่า "โรคอะไรแบบนี้มันมีอยู่ด้วยหรือ" ซึ่งก็เข้าเป้าตามที่ลุงจิมแกคาดไว้ ที่ต้องการให้ข่าวอาการป่วยโรคแปลกของตัวเองนี้เผยแพร่ออกไป เนื่องจากรู้ว่าน่าจะมีอีกหลายคนที่มีอาการเดียวกัน และมันเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตและการเข้าสังคมอย่างมหันต์ จึงอยากจะบอกพวกเขาว่าความผิดปกติที่ไม่เคยมาตามนัดได้เลยนั้น เป็นเพราะป่วย "โรคไม่ตรงเวลา" เหมือนอย่างตัวของลุงจิมนั่นเอง

          อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญอาการผิดปกติหลาย ๆ คนก็ยังตั้งแง่และสงสัยกับความเจ็บป่วยด้วยโรคแปลกนี้ อย่างดอกเตอร์เชอรี จาคอบสัน นักจิตบำบัด จากฮาร์เลย์ เธอราพี คลินิก ในลอนดอน กล่าวว่า

          "อาการ นี้ไม่เคยปรากฏอยู่ในคู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต (American Psychiatric Association's Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders) เลยแม้แต่น้อย ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่อาการป่วยทางการแพทย์อะไรหรอก ถึงการมาสายเป็นประจำจะเป็นอาการอย่างหนึ่งของโรคสมาธิสั้นได้ แต่บางทีมันก็เข้าข่ายเป็นพฤติกรรมนิสัยส่วนตัวได้ด้วยเช่นกัน และผมคิดว่าการเอาพฤติกรรมหรืออาการแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ในทุก ๆ วันมาตีเป็นความเจ็บป่วยทางการแพทย์นี่มันไม่ค่อยฉลาดเลยนะ"

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม