ทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนยืนยันกระแสข่าวลือในแวดวงวิทยาศาสตร์ระดับโลก ด้วยการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานการตัดแต่งพันธุกรรมเอ็มบริโอ หรือตัวอ่อนมนุษย์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมายว่าไม่เหมาะสม ทั้งในทางปฏิบัติและในแง่จริยธรรม

ทีมนักวิทยาศาสตร์จีน นำโดย หวง จุนจิ่ว นักพันธุวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยซุนยัตเซน ในเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ตีพิมพ์รายงานผลการศึกษาวิจัยในวารสาร "โปรตีนแอนด์เซลล์" เปิดเผยผลการทดลองการกำจัด "ยีน" ซึ่งส่งผลก่อให้เกิดโรคเลือดผิดปกติที่ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตในคน ด้วยเทคนิคการตัดแต่งพันธุกรรมที่มีการนำมาใช้ในสัตว์ทดลองเมื่อปี 2012 ที่ผ่านมาและรู้จักกันในชื่อย่อ "คริสเปอร์" (CRISPR)ซึ่งเป็นการตัดต่อพันธุกรรมแบบดึงเอายีนเก่าออกมาแล้วนำยีนใหม่เข้าไปทดแทน โดยอาศัยตัวอ่อนของมนุษย์จำนวน 86 ชิ้น ซึ่งได้จากคลินิกเจริญพันธุ์ในท้องถิ่นในการทดลอง โดยอ้างว่า ตัวอ่อนคนที่นำมาใช้ในการทดลองครั้งนี้ทั้งหมด ไม่สามารถเจริญและวิวัฒนาการเป็นทารกได้อีกแล้ว

ในการทดลองมีเอ็มบริโอ 71 ชิ้นเท่านั้นที่รอดชีวิตจากกระบวนการทดลอง และในจำนวนทั้งหมดที่รอดชีวิตจากการทดลอง มีเพียงส่วนน้อยส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่าแสดงอาการรับเอาชิ้นส่วนพันธุกรรมที่ใส่เข้าไปใหม่เพื่อทดแทนยีนที่ก่อให้เกิดโรคเลือดได้และถึงแม้จะมีการยอมรับดังกล่าวก็ให้ผลลัพธ์ออกมาแบบผสมผสานระหว่างเซลล์ที่เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมแล้วกับเซลล์ที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงพันธุกรรม

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ เทคนิคคริสเปอร์ที่ใช้ในการศึกษาทดลองครั้งนี้ ไม่เพียงสามารถใช้ในการแก้ไขไม่ให้เกิดโรคใดโรคหนึ่งได้เท่านั้น ยังสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขส่วนอื่นๆ ได้ด้วย อาทิ สร้างความสวยความหล่อหรือความฉลาด เป็นต้น

ก่อนหน้าการตีพิมพ์เผยแพร่รายงานการทดลองดังกล่าวนี้นานนับเดือน มีข่าวเล่าลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ในแวดวงนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ส่งผลให้นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งซึ่งไม่เห็นด้วยกับการศึกษาวิจัยที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์เหมือนกับทำหน้าที่"พระเจ้า"ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้"ห้ามการทดลองใช้เทคนิคคริสเปอร์ไปตัดแต่งพันธุกรรมของมนุษย์จนกว่าจะมีการตรวจสอบผลกระทบจากเทคนิคนี้ให้แน่ชัด"

นักชีววิทยาชั้นนำของโลกยังแสดงความคิดเห็นถึงอันตรายของการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมมนุษย์โดยถาวรซึ่งสามารถส่งต่อลักษณะพันธุกรรมที่ปรับเปลี่ยนไปยังลูกหลานในรุ่นต่อๆไปนั้นมีอันตรายใหญ่หลวงเพราะมีโอกาสสูงมากที่การปรับแต่งพันธุกรรมดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์โดยถาวร

ในขณะที่คาร์ลซิมเมอร์ผู้เชี่ยวชาญสเต็มเซลล์ระบุว่า การทดลองดังกล่าวและตัวเทคนิคที่ใช้เองมีปัญหาอยู่หลายอย่างมาก รวมทั้งข้อเท็จจริงที่ว่า เทคนิคคริสเปอร์เองไม่ได้แม่นยำมากมายนักและบ่อยครั้งที่เข้าไปทดแทนวัสดุทางพันธุกรรมผิดตำแหน่ง

ดังนั้นนอกเหนือจากปัญหาในเชิงจริยธรรมกล่าวคือจะทำอย่างไรกับการทดลองที่ผิดพลาดหรือเกิดผลข้างเคียงอันเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเทคนิคแล้ว

การนำมาใช้ในทางปฏิบัติก็ยังเป็นปัญหาด้วยเช่นเดียวกันเพราะการทดแทนที่ล้มเหลวดังกล่าวนั้นอาจก่อให้เกิดโรคใหม่ที่ร้ายแรงและยังไม่มีหนทางเยียวยาขึ้นมาเองได้อีกด้วย