การดูแลผิวให้สวยสุขภาพดี และดูอ่อนเยาว์ นับเป็นภารกิจสำคัญของสาว ๆ ผู้เอาใจใส่เรื่องความสวยความงาม เพราะทุก ๆ วันนี้เราต่างต้องเผชิญกับมลภาวะที่รายล้อมตัวอยู่รอบตัวตลอดเวลา ทั้งจากแสง จากน้ำ จากฝุ่นควัน แถมยังรวมถึงเหล่าสารสังเคราะห์ที่มาจากเครื่องสำอาง และเครื่องประทินผิวแบบที่วางขายกันทั่วไปด้วย งั้นคราวนี้ต้องยกเรื่องการดูแลผิวให้เป็นหน้าที่ของธรรมชาติแล้วล่ะค่ะ กระปุกดอทคอมเลยขอยกประโยชน์ของการใช้น้ำมันจากธรรมชาติในการดูแลผิวพรรณมาฝากกัน สำหรับครั้งนี้เป็นน้ำมันสกัดจากเมล็ดอัลมอนด์ หรือ อัลมอนด์ออยล์ นั่นเอง ใครที่เคยซื้อหามาเก็บไว้ ต้องลองหยิบมาใช้ดูแลความงามกันบ้างแล้วล่ะ ลองใช้ดูได้ตามคำแนะนำทั้ง 9 ข้อนี้เลยจ้า

1. ใช้อัลมอนด์ออยล์ลูบผิวหลังอาบน้ำ

วิธีใช้อัลมอนด์ออยล์ในการดูแลผิวพรรณทั่วทั้งกายที่ง่ายที่สุด ก็คือการใช้มันลูบไล้ผิวหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ในอัลมอนด์ออยล์ มีทั้งวิตามินเอ บี และอี ซึ่งเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิว ช่วยรักษาความชุ่มชื้น และทำให้ผิวมีความนุ่ม ยืดหยุ่น โดยที่ไม่อุดตันรูขุมขนเลยล่ะ

2. ป้องกันการก่อตัวของรอยคล้ำใต้ดวงตา

รอยคล้ำใต้ดวงตาเกิดขึ้นได้จากสองสาเหตุใหญ่ ๆ คือขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ และขาดวิตามินจำเป็นบางชนิด ซึ่งอัลมอนด์ออยล์สามารถช่วยป้องกันในสาเหตุหลังได้เป็นอย่างดี เพียงนวดอัลมอนด์ออยล์ไปเบา ๆ บริเวณใต้ดวงตา ก็จะช่วยป้องกันการก่อตัวของรอยคล้ำได้ ทำให้ผิวใต้ดวงตาชุ่มชื่น เพียงเท่านี้ดวงตาก็ดูสดใสแล้ว

3. ใช้เป็นส่วนผสมของสครับ

ใช้อัลมอนด์ออยล์เป็นส่วนผสมสำหรับการทำสครับผิวแบบโฮมเมด โดยใช้มันผสมกับน้ำตาลทราย ก็จะได้สครับเนื้อข้นที่ช่วยทั้งขัดเซลล์ผิวเก่าออกไป และบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นเติมลงไปให้ผิวได้พร้อม ๆ กัน รับรองเลยว่าเมื่อสครับผิวเสร็จแล้วผิวจะลื่นและนุ่มนิ่มมาก ๆ ทีเดียว

4. จะกินหรือทาก็ช่วยคงความอ่อนเยาว์ของผิวไว้ได้นาน

ประโยชน์ที่น่าเหลือเชื่อของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ อย่างเช่นอัลมอนด์ออยล์ ก็คือคุณสามารถรับประโยชน์จากมันได้ทั้งจากการรับประทาน และการใช้ภายนอก เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะใช้มันเป็นส่วนผสมของการประกอบอาหาร หรือจะใช้ทาผิวภายนอก ก็ช่วยบำรุงผิวได้ดีทั้งนั้นเลยล่ะ

5. ช่วยบรรเทาอาการผื่นจากโรคผื่นแดงและโรคสะเก็ดเงิน

น้ำมันจากเมล็ดอัลมอนด์แบบสกัดเย็น ช่วยบรรเทาอาการเห่อของโรคผื่นแดง (eczema) และโรคสะเก็ดเงินได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ซ่อมแซมผิวที่เสีย และแห้งได้เป็นอย่างดี

6. ใช้บำรุงเรียวปาก แก้อาการปากแตกได้ดี

ริมฝีปากที่แห้งและลอกจะค่อย ๆ หายไปได้ และกลายเป็นเรียวปากที่นุ่มชุ่มชื่นแทน เมื่อคุณใช้อัลมอนด์ออยล์ทานวดริมฝีปากเป็นประจำ หรือใช้มันเป็นส่วนผสมของสครับสำหรับริมฝีปากก็ได้นะคะ

7. ใช้บำรุงมือและเท้า

นอกจากทาผิวกายและผิวริมฝีปากแล้ว คุณยังสามารถใช้อัลมอนด์ออยล์บำรุงมือและเท้า แทนแฮนด์ครีมและฟุตครีมได้ด้วย เนื้อของอัลมอนด์ออยล์นั้นไม่เหนียวเหนอะหนะ เมื่อนวดแล้วจึงซึมลงสู่ผิวได้ไว มอบความชุ่มชื่นให้โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกไม่สบายผิว

8. ใช้อัลมอนด์ออยล์เช็ดเครื่องสำอาง

หากว่าเมคอัพรีมูฟเวอร์ของคุณหมดพอดี ลองใช้อัลมอนด์ออยล์ในการเช็ดเครื่องสำอางแทนก็ได้นะคะ วิธีใช้ก็แค่หยดใส่สำลีแล้วเช็ดตามปกติ หรือใช้นวดลงบนผิวเบา ๆ แล้วค่อยเช็ดออก สำหรับเครื่องสำอางที่ล้างยาก เท่านี้ผิวหน้าก็จะเกลี้ยงเกลาไม่ต่างจากการใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์ที่มีวางขายกันเลยล่ะ

9. ขนตาหนาด้วยอัลมอนด์ออยล์

สาวขนตาบางสามารถให้อัลมอนด์ออยล์ทาที่ปลายขนตา จากนั้นใช้กระดาษทิชชูซับส่วนที่เหลือเยิ้มอยู่ออกเบา ๆ ทำเช่นนี้ทุกคืน ขนตาก็จะแข็งแรงขึ้น และดูหนาขึ้นด้วยจ้า


อัลมอนด์ออยล์ น้ำมันธรรมชาติที่อัดประโยชน์เอาไว้เต็มเพียบ ลองนำมาใช้ทดแทนหรือควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่คุณใช้อยู่แล้วได้เลย ใครมีต้องรีบเอามาใช้แล้วล่ะ อย่าปล่อยวางทิ้งไว้ให้มันเหม็นหืนหมดอายุไปเปล่า ๆ นะจ๊ะ

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม