|
เอเอฟพี - เทศกาลหนังเมืองเบอร์ลินครั้งที่ 63 เสร็จสิ้นกันไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหนังที่คว้ารางวัลใหญ่ที่สุดก็คืองานแนวเมโลดรามาจากโรมาเนีย Child's Pose ที่ทำให้วงการหนังของประเทศดูคึกคักขึ้นมา หลังจากหมดยุคของการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ หนังเรื่องดังกล่าวเป็นผลงานของผู้กำกับ คาลิน ปีเตอร์ เน็ตเซอร์ หนึ่งในผู้กำกับรุ่นใหม่ของโรมาเนีย ที่เล่าเรื่องของแม่ผู้ร่ำรวย และเป็นจอมบงการ ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ลูกชายพ้นผิดจากการขับรถชนวัยรุ่นคนหนึ่งตาย “ผมอยากจะขอบคุณสำหรับรางวัลอันวิเศษสุดนี้, เป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยมมากๆ” เน็ตเซอร์ วัย 37 ปี กล่าวขอบคุณคณะกรรมการของเทศกาลหนังเมืองเบอร์ลินปีนี้ ที่มีผู้กำกับชาวฮ่องกง หว่องกาไว นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานกรรมการ โดยระหว่างการแถลงข่าวหลังรับรางวัล คนทำหนังชาวโรมาเนียยังบอกว่าเขาถึงขั้น “ช็อก” เลยกับการได้รับรางวัลครั้งนี้ เทศกาลหนังเบอร์ลิน ถือว่าเป็นเทศกาลหนังใหญ่งานแรกประจำปีของยุโรป โดยได้ชื่อว่าเป็นเวทีที่ค่อนข้างให้ความสำคัญไปกับหนังที่มีเนื้อหาทางการเมือง นอกจากหนังจากโรมาเนียแล้ว ในปีนี้ยังมีหนังผสมสารคดีจากบอสเนีย An Episode in the Life of an Iron Picker ที่คว้ารางวัลไปได้ถึง 2 สาขา รวมถึงการสร้างเซอร์ไพรส์ สำหรับการคว้ารางวัลนักแสดงนำชายของ นาซิฟ มูจิค ที่สวมบทบาทเป็นตัวเองในเรื่องราวของคู่รักที่ถูกปฏิเสธการรักษาพยาบาล เพราะไม่มีทั้งเงิน และประกันสังคม An Episode in the Life of an Iron Picker หนังที่ใช้การนำเสนอแบบผสมสารคดี มีบุคคลจริงมาสวมบทบาทเป็นตัวเอง เป็นงานทุนต่ำของผู้กำกับดัง ดานิส ทาโนวิช เจ้าของรางวัลออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมจากหนังสงครามตลกร้าย No Man's Land เมื่อปี 2001 โดยหนังยังได้รางวัล Jury Grand Prix ไปอีกสาขาด้วย |
|||||
หนังสือพิมพ์ Der Tagesspiegel ยังแสดงความเห็นว่าหนังที่ได้รับรางวัลถือว่ามีความเหมาะสม สำหรับการประกวดภาพยนตร์ในปีนี้ ที่ไม่ค่อยมีหนังเด่นๆ และรายชื่อหนังที่เข้าประกวดค่อนข้างน่าผิดหวัง โดยรางวัลของ Child's Pose และ An Episode in the Life of an Iron Picker ยังสามารถสะท้อนไปถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของคนทำหนังจากยุโรปตะวันออก นอกจากนั้น ยังยืนยันจุดยืนที่ให้ความสำคัญกับหนังที่ว่าด้วยการเมืองของเทศกาลหนังเมืองเบอร์ลิน ซึ่งเริ่มต้นแสดงออกอย่างชัดเจนถึงจุดยืนนี้มาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น “หนังทุนต่ำที่ใช้เงิน 17,000 ยูโร และนักแสดงสมัครเล่น ก็ดีพอแล้วที่จะเอาชนะหนังอาร์ตเฮาส์ ที่มีทุนสร้างเป็นล้านในเทศกาลหนังสำคัญได้ไม่ยาก หากมีเรื่องราวที่ประทับใจ และเล่าเรื่องได้อย่างดี มีความสวยงาม” นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ Der Spiegel แสดงความเห็น ถึงความสำเร็จของหนังบอสเนียที่ใช้ทุนสร้งอันจำกัดจำเขี่ย “นี่คือสัญญาณจากกรรมการของเบอร์ลิน ที่ส่งไปยังนักทำหนังของทางยุโรปตะวันออก ที่ประชาชนกำลังดิ้นรนอย่างหนัก กับความเปลี่ยนแปลงของสังคม หลังยุคการปกครองของคอมมิวนิสต์ เป็นงานแบบที่ปกติมักจะโดน คาสน์ และ เวนิส มองข้ามมาตลอด” สำหรับรางวัลหมีเงินสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมในปีนี้ตกเป็นของ เดวิด กอร์ดอน กรีน จากหนังตลกคู่หู Prince Avalanche งานที่หยิบเอาหนังไอซ์แลนด์เมื่อปี 2011 Either Way กลับมาเล่าใหม่มี พอล รัดด์ กับ เอมิล เฮิร์ส สวมบทบาทเป็นคนงานดูแลถนนหลวงในเทกซัส ซึ่งนี่ถือว่าเป็นหนังตลกเรื่องเดียวที่ได้เข้าฉายในสายประกวดของเทศกาลหนังเมืองเบอร์ลินปีนี้ด้วย ส่วนดาราชาวชิลี พอลลีนา การ์เซีย ก็คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงได้จาก Gloria หนังฟิลกู๊ดเกี่ยวกับสาววัยกลางคนที่ไม่ยอมแพ้ กับการแสวงหาความสุขในชีวิต |
|||||
รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตกเป็นของ Closed Curtain งานจากผู้กำกับชาวอิหร่าน จาฟาร์ ปานาฮี คนทำหนังชื่อดังที่แอบทำหนังเรื่องนี้อย่างลับๆ กับ แคมบูเซีย ปาร์โทวี ที่ร่วมงานกันมานาน แม้ขณะนี้ตัวของ ปานาฮี ยังอยู่ระหว่างการโดนแบนสั่งห้ามทำหนังโดยรัฐบาลอิหร่านอยู่ก็ตาม
http://www.manager.co.th |