สื่อนอกตีข่าวการสร้างเขื่อนแม่วงก์ในไทย ชี้ การที่รัฐบาลไทยยอมถอยแผนสร้างเขื่อนแม่วงก์ ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ นับเป็นชัยชนะของฝ่ายอนุรักษ์ธรรมชาติ

 

          วันที่ 26 กันยายน 2556 เว็บไซต์วอยซ์ออฟอเมริกา มีรายงานว่า รัฐบาลไทยต้องถอยแผนสร้างเขื่อนที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ส่วนหนึ่งในโครงการบริหารจัดการน้ำ หลังถูกต่อต้านหนัก ซึ่งการตัดสินใจประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมใหม่นี้ ถือเป็นชัยชนะของฝ่ายอนุรักษ์ธรรมชาติ

 

          ทั้งนี้ นับตั้งแต่ไทยเกิดวิกฤตอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ที่ทำให้เขตอุตสาหกรรมหลายแห่งของไทยถูกน้ำท่วม และก่อความเสียหายมูลค่ามหาศาล รัฐบาลก็วางแผนดำเนินโครงการบริหารจัดการเพื่อรับมืออุทกภัยทั่วประเทศ แต่ถึงอย่างนั้นโครงการ 3.5 แสนล้านบาทนี้ก็ได้ถูกพลเมืองและกลุ่มวิศวกรวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดแผนแม่บท โดยมองว่าควรพุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงด้านชลประทานแทนการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม และชี้ว่ารัฐบาลไม่แสวงหาข้อมูลสาธารณะให้เพียงพอต่อแผนเหล่านั้น

 

          แต่ถึงอย่างนั้น รัฐบาลไทยก็ยังคงเดินหน้าข้อเสนอสร้างเขื่อน 20 แห่งและระบบระบายน้ำทั่วประเทศ ท่ามกลางเสียงคัดค้านจำนวนมาก จนกระทั่งสัปดาห์นี้รัฐบาลจึงได้ยอมกลับลำ หันมาประเมินผลกระทบของการสร้างเขื่อนมูลค่า 428 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 หมื่นล้านบาท) ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางเหนือราว 370 กิโลเมตร

 

          นอกจากนี้ ในรายงานยังได้อ้างคำสัมภาษณ์ของ ดร.อนรรฆ พัฒนวิบูลย์ ผู้อำนวยการสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าสากล (WCS) ประเทศไทย ระบุว่า การถอยกลับของรัฐบาลถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเคลื่อนไหวอนุรักษ์ของไทย แม้ว่ายังไม่ถึงขั้นยกเลิกโครงการและดูเหมือนเจ้าหน้าที่จะอยากมองหาพื้นที่ทางเลือกอื่นรอบนอกอุทยานก็ตาม ตัวเขายังไม่อยากพูดว่ามันคือชัยชนะ แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสามารถทำให้ผู้คนรับรู้แล้วว่า เราไม่จำเป็นต้องมีเขื่อนใหญ่ ๆ ที่ทำลายผืนป่าอุทยานอีกแล้วในประเทศไทย ดังนั้นการที่รัฐบาลยอมถอย จึงเป็นสารที่สำคัญที่แข็งแกร่งสำหรับการอนุรักษ์

 

          อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่กำลังประเมินผลกระทบของเขื่อน ผู้สำรวจอ้างว่าการก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่อุทยานแค่ 19 ตารางกิโลเมตรจากทั้งหมด 894 ตารางกิโลเมตร และยังสามารถกักเก็บน้ำเพื่อการชลประทานแก่พื้นที่การเกษตรราว 480 ตารางกิโลเมตร 

 

 

          ด้าน นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ซึ่งจัดเดินขบวน 388 กิโลเมตรมายังกรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนทราบถึงโครงการดังกล่าวมากขึ้น ได้ให้สัมภาษณ์กับวอยซ์ออฟอเมริกา โดยคาดหมายว่า การศึกษาผลกระทบของการสร้างเขื่อนแม่วงก์ จะถูกนำไปเป็นต้นแบบของแผนการสร้างเขื่อนอื่น ๆ ด้วย พร้อมชี้ว่าการประเมินที่หนุนหลังโดยหน่วยงานของรัฐบาลนั้น เสี่ยงต่อการคุกคามพื้นที่ป่าทั่วทั้งประเทศ

 

          ขณะที่ความเห็นจาก ดร. สมิทธ ธรรมสโรช ระบุว่า แผนงานบางส่วนของโครงการบริหารจัดการน้ำควรเดินหน้าต่อไป แต่เขื่อนแม่วงก์ไม่ควรอยู่ในนั้น และตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมรัฐบาลถึงอยากขุดพื้นที่แม่วงก์ เพื่อสร้างเขื่อนที่สามารถกักเก็บน้ำที่ไหลลงสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ได้ในปริมาณที่เล็กน้อยเท่านั้น

 

          ทั้งนี้ โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์นี้ ก่อให้เกิดความกังวลต่อกลุ่มนักอนุรักษ์ เช่นองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ซึ่งหวั่นว่าการสร้างเขื่อนจะเป็นอันตรายต่อความพยายามปกป้องสายพันธุ์สัตว์ป่าที่อ่อนแอ รวมถึงถิ่นฐานของเสือป่าหลายสิบตัว ที่มีการเพิ่มจำนวนประชากรอย่างมากในทุกวันนี้ ซึ่งมันไม่คุ้มค่าเลยที่จะต้องสูญเสียพวกเสือและสัตว์ชนิดอื่นในป่าอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ไป

 

 

 

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม