สลดชะตาคนงานปินส์โดนย่างสด 72 ศพ กรีดร้องติดเหล็กดัดหนีไม่ได้
2015-05-15 12:50:29
Advertisement
คลิก!!!

 

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตรองเท้า ชานกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 72 ราย บรรดาผู้รอดชีวิตและครอบครัวผู้สูญเสียต่างประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรม หลังพบว่าคนหนีออกมาไม่ได้เพราะโรงงานดังกล่าวใช้หน้าต่างเหล็กดัด ขณะไฟโหมไหม้นานกว่า 5 ชั่วโมง บางส่วนถูกไฟคลอกจนกลายเป็นเถ้าถ่าน บางรายเหลือเพียงเศษกระโหลกและกระดูกชิ้นส่วนต่างๆ เท่านั้น

 

 

 นายมาร์ ร็อกแซส รมว.มหาดไทยกล่าวว่า เหยื่อถูกย่างสดที่ชั้นสองของอาคาร 2 ชั้น เพราะหนีออกมาไม่ได้ และอาคารไม่มีทางหนีไฟ ซึ่งเป็นเรื่องแย่มาก รัฐบาลยืนยันว่าจะนำความยุติธรรมมาให้ญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคำมั่นเช่นเดียวกับ พล.ต.อ.ลีโอนาร์โด เอสปินา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่กล่าวทั้งน้ำตาว่า จะต้องมีผู้ถูกดำเนินคดีแน่นอน


 การสืบสวนเบื้องต้นพบว่า ต้นเพลิงมาจากสะเก็ดไฟของเครื่องเชื่อมโลหะที่กำลังถูกใช้ซ่อมประตู ในบริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยถึงบรรจุเคมีภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติไวไฟสูง ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นและไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ประตูทางออก แต่ส่วนใหญ่ถูกย่างสดเสียชีวิตอยู่ภายใน

 

 นายแรนดี้ ปักฮูโบซาน คนงานที่หนีออกมาได้ ให้สัมภาษณ์ว่า คนงานที่ติดอยู่ในอาคารกรีดร้องขอความช่วยเหลือ มือได้แต่เกาะลูกกรงเหล็กดัด พังออกมาไม่ได้ ขณะที่ควันสารเคมีฟุ้งตลบไปทั่วบริเวณ

 

 ส่วนนายลิซานโดร เมนโดซา คนงานอีกรายเล่าว่า ตนกินข้าวอยู่ใกล้ประตูทางออกตอนที่เห็นควันลอยออกมาจึงรีบวิ่งหนีทันที ตนมีหน้าที่ผสมสารเคมีที่มีกลิ่นเหม็นมาก ทำงานวันละ 12 ช.ม. และไม่มีวันหยุด แลกกับค่าตอบแทน 2,600 บาท ต่อสัปดาห์

 

 ส่วนนางสาวเจเน็ต วิกโตเรียโน ผู้รอดชีวิตอีกคนระบุว่า โรงงานดังกล่าวไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัยใดๆ ทำงานมา 5 ปี ไม่เคยมีการซ้อมหนีไฟ


 ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้ในกรุงมะนิลาถือเป็นเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากปัญหาความแออัดของที่อยู่อาศัยและมาตรฐานการป้องกันอัคคีภัยที่ต่ำ โดยเหตุเพลิงไหม้ที่รุนแรงที่สุดเคยเกิดขึ้นในปี 2539 มีผู้เสียชีวิต 162 ราย

 

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X