ริีวิว Marriage Without Dating พลอตซ้ำ ๆ ทำยังไงจึงได้สนุกสุด ๆ ...
2014-10-02 15:53:20
Advertisement
คลิก!!!

 

เคยรู้สึกกันไหมว่า บางครั้งพลอตซีรีส์เกาหลีที่เราชมกันอยู่ทุกวันนั้นมีเนื้อหาวนเวียนอยู่กับเรื่องราวเดิม ๆ แต่ทำไมคนดูยังรู้สึกสนุกและติดซีรีส์เกาหลีกันจัง

 

...เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้เขียนได้ดูซีรีส์แนวโรแมนติคคอมันดี้เรื่อง Marriage without dating ของช่องtvNแล้วพบว่า พลอตเรื่องนั้นมีเนื้อหาถ่ายทอดเกี่ยวกับเรื่องราว แง่มุมความรักของคนหนุ่มสาวยุคใหม่และขั้นตอนการ”สร้างครอบครัว” ของพวกเขาโดยศัลยแพทย์กงกีเท รับบทโดย ยอนวูจิน (Yeon Woo Jin ) เป็นผู้ชายผู้อยากอยู่เป็นโสดจนตาย แต่ด้วยสังคมเกาหลีชายหญิงจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็เมื่อได้แต่งงาน มีครอบครัว ดังนั้น คุณหมอจึงต้องเจอแรงกดดันจากครอบครัวเรื่องการแต่งงาน  เมื่อบังคับกันนักเขาจึงไปคว้าจูจางมี ( Han Groo ) มาประกาศตัวเป็นผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานด้วย  ตบตาครอบครัวให้เลิกยุ่งกับชีวิตเขาเสียที  จากรักหลอก ๆ ก็ค่อย ๆ กลายเป็นรักจริงไม่ติงนังขึ้นมาในพริบตา ...นั่นคือพลอตที่สุดแสนจะธรรมดาของ Marriage without dating ที่ไปละม้ายกับซีรีส์อีกเรื่องของ tvN อย่าง Marriage Plot ซึ่งออนแอร์ในปี 2012  

 

 

และ คล้าย ๆ กับ Can we get marriedจากช่อง jTBC ปี 2012 ด้วย

 

 

แม้ทั้งสามเรื่องจะไม่ได้เขียนบทโดยนักเขียนคนเดียวกัน แต่ Theme ของเรื่องก็จัดเป็นซีรีส์แนวโรแมนติคที่ถ่ายทอดมุมมองเกี่ยวกับความรัก การแต่งงานในทิศทางคล้ายกัน  โดยมีครอบครัวของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเข้ามามีบทบาทร่วมด้วย ... และเนื้อเรื่องก็แทบไม่ต้องเสียเวลาคาดเดาเยอะ เพราะซีรีส์แนวนี้ยังไงพระเอกกับนางเอกก็ต้อง”ลงเอย” กันอยู่แล้วน่ะ!   ... ในเมื่อผู้เขียนกล่าวว่าซีรีส์ทั้งสามเรื่องนั้นถูกสร้างขึ้นด้วยพลอตซ้ำ ๆ แต่อะไรเล่าทำให้ Marriage without datingที่ tvNหยิบยกแง่มุมความรักของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ของเกาหลีมาถ่ายทอดอีกจึงเป็นซีรีส์รักเรื่องที่สนุกสุด ๆ อีกเรื่องหนึ่งในความเห็นของผู้เขียน

พลอตซ้ำแต่ฉากแปลกใหม่  ใช้มุมกล้องสวย

เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ต้องยกนิ้วให้ทีมสร้างซีรีส์เกาหลีคือ ความละเอียดลออในการทำงาน ซีรีส์หลาย ๆ เรื่องมีเนื้อหาสาระโชยกลิ่นเดิม ๆ แต่พอใช้โลเกชั่นที่แปลกใหม่ก็ให้บรรยากาศในการรับชมที่เปลี่ยนไป ... Marriage without datingต้องขอยกความดีความชอบให้ทีมงานที่จัดแสงได้อย่างนุ่มนวล ใช้มุมกล้องสวย ๆ บันดาลให้ทุ่งหญ้าธรรมดาในฉากคิสซีนของพระเอกกับนางเอกกลายเป็นทุ่งหญ้าที่สุดแสนโรแมนติคจนบางคนชักอยากรู้ว่า ทุ่งหญ้านั่นอยู่มุมไหนของกรุงโซล ฉันจะไปเที่ยว ! … แม้จะรู้ดีว่าถ้าได้ไปเห็นกับตาตนเองแล้วทุ่งหญ้านั่นอาจไม่ได้สวยเหมือนการที่เรามองผ่านเลนส์ก็เถอะ

 

 

นอกจากนั้น ยังมีหลายฉากสอดแทรกให้เห็นภาพเกี่ยวกับอาชีพของตัวละคร เช่น พระเอกของเรื่องมีอาชีพเป็นแพทย์ศัลยกรรม พสาสติกก็ได้แทรกฉากเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานของคุณหมอความงามคนนี้อย่างฮา ๆ ชนิดที่ผู้ชมสามารถหัวเราะจนกรามค้างได้... ขณะที่พระรองนั้นมีอาชีพเป็นเชฟ ก็ถ่ายทอดวัฒนธรรมด้านอาหารการกินของคนเกาหลีไว้อีกนิดนึงซึ่งฉากสวย ๆ เกี่ยวกับอาหารนั่นก็สามารถทำให้คนดูแอบหิวระหว่างรับชมได้อีกเหมือนกัน  ..เท่าที่รู้มานะ...ร้านอาหารที่ฮันยอริมทำงาน กับมุมที่คุณหมอมักมานั่งแอ็คหล่อนั้นได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของผู้ที่ชอบตามรอยซีรีส์เรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้วด้วย

 

 

 

เรียกแขกด้วย หนุ่มดอกไม้กับไอดอล

 

คงกลายเป็นเทคนิคทางการตลาดของเกาหลีที่ซีรีส์แทบทุกเรื่องจะต้องเรียกแขกด้วยการขนหนุ่มดอกไม้ กับ ไอดอลมาร่วมแสดง Marriage without datingนั้นวางตัวยอนวูจินเป็นพระเอกและฮันกรูเป็นนางเอก ทั้งสองแม้จะมีงานแสดงมาพอสมควรแต่ก็ยังไม่ได้จัดว่าเป็นนักแสดงระดับ”แม่เหล็ก” ที่จะเรียกแขกอย่างล้มหลามได้ ซึ่งการได้น้องหล่ออย่างจินวุน จากวง 2 AM กับสาวสวยอย่าง ฮันซันฮวาจาก Secret มารับบทพระรองและนางรองของเรื่องก็สร้างความน่าสนใจให้แก่ Marriage without datingได้มากโข

 

 

 

 

เรียกว่าแค่พระรอง”ขยับ” คนดูก็พากัน”จิกหมอน” เสียแล้วล่ะ

 

 

 

ฮันซันฮวา นั้นรับบทเป็นนางรองแอบร้าย แต่เธอร้ายอย่างนางพญาหน้าสวยที่ร้ายแต่ว่า”น่ารัก” ในบทแม่สาวนักล่าสเปริ์ม !   แน่นอนว่าแผนการตลาดเรียกแขกด้วยไอดอลแบบนี้ ย่อมได้กลุ่มผู้ชมที่มาจากแฟน ๆ ของสองไอดอลพ่วงมาด้วย

ดนตรีสนุก

 

คงต้องชมว่า เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ถูกใช้สร้างบรรยากาศให้ Marriage without datingเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ลุ้นระทึก และชวนฝันหวาน ตั้งแต่ตอนแรกจนตอนสุดท้าย นั่นคือ เทคนิคการใช้ซาวน์เสียงและดนตรีประกอบที่โดดเด่นในเรื่องช่วยเติมเต็มฉากฮา ๆให้ยิ่งลั๊ลลาและเรียกเสียงหัวเราะมากมาย ทั้งที่พลอตเรื่องสุดแสนจะธรรมด๊า ธรรมดาและมุกตลกก็ไม่ได้แปลกแหวกแนวแต่อย่างใด ตัวอย่างเช่น ในฉากที่จูจางมีต้องนั่งร่วมโต๊ะอาหารเผชิญหน้ากับแม่ของกงกีเทในฐานะแฟนจอมปลอมของเขา ขณะนั้นเธอกำลังถูกข้าศึกโจมตีแต่ปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำไม่ได้  ซึ่งในตอนนั้นผู้สร้างใส่ดนตรีโอเปร่าเรื่องโรมิโอกับจูเลียตเข้าไป...ด้วยเสียงที่โหยหวนของโอเปร่าในท่อนนั้น บวกกับการแอคติ้งเกินร้อยจนไม่ห่วงสวยของฮันกรู ( จูจางมี ) ทำให้คนดูรู้สึกทั้งสงสาร ทั้งขำ เธอไปพร้อม ๆ กันเชียว เผลอ ๆ บางคนที่กำลังดูอาจรู้สึกได้ถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์นั่นอีกด้วย … อ้อ ...มีผู้รู้เรื่องดนตรีบอกว่า โอเปร่าท่อนนั้นคือท่อนที่จูเรียตฟื้นขึ้นมาจากความตายด้วยความดีอกดีใจ บทเพลงจึงออกแนวลั๊ลลาอย่างยิ่ง แต่เมื่อนำมาใส่ในฉากของจูจางมีจึงคล้ายเจตนาจะประชดประชันในสถานการณ์ ”ปางตาย” ด้วยการถูกข้าศึกโจมตีของเธอเชียวแหละ

 

 

วิธีการเล่าเรื่อง

Marriage without datingดึงความสนใจของผู้ชมด้วยการโปรย ”ฉาก”สำคัญของแต่ละตอนออกมาจุดชนวนความสนใจของผู้ชมในจังหวะแรกก่อนจะค่อย ๆ ย้อนกลับไปดำเนินเรื่องราวตามปกติ ...

 

วิธีนี้ทำให้คนดูรู้สึกสนใจว่าฉากเด็ดที่ปล่อยออกมาในสองสามนาทีแรกนั้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ถ้าจำไม่ผิดวิธีการเดินเรื่องแบบนี้ก็ใช้ได้ผลมาแล้วในซีรีส์แนวย้อนเวลาเรื่องเยี่ยมของ tvN  อย่าง Nine time time travel ซึ่งกลายเป็นซีรีส์เรื่องโปรดของคอซีรีส์ชาวไทยหลาย ๆ คน  .

 

..Marriage without datingเมื่อพิจารณาอย่างผิวเผินแล้วเหมือนจะไม่ได้มีสาระใด ๆ แก่ผู้ชม แต่ทว่าในทุกฉากที่มอบเสียงหัวเราะให้นั้นกลับสอดแทรกแง่มุมอันลึกซึ้งเกี่ยวกับความรักของแม่ไว้อย่างแยบคายในบรรยากาศของการเล่าเรื่องอย่างชวนหรรษานั่นจนคนแอบซึ้งกับเรื่องของลูกชายที่อยากเป็นโสดเพราะเกลียดผู้หญิงที่มีนิสัยเหมือนแม่ของเขาแต่สุดท้ายหมอกงก็ตกหลุมรักผู้หญิงที่นิสัยเหมือนแม่ของเข้าจนได้ !  บทละครของเกาหลีมีเสน่ห์ตรงที่การกระทำทุกอย่างของตัวละครมักมีเหตุผลอธิบายไว้ให้คนดูเข้าใจอยู่เสมอ ๆ  ...ในเรื่องนี้ก็เหมือนกันหมอกงไม่ได้อยากเป็นโสดจริง ๆ แต่เขามีปมบางอย่างซ่อนไว้ 

 

เมื่อพูดถึงปม ... Marriage without dating เป็นซีรีส์ที่ดูง่าย ๆ นะ ไม่ได้ผูกปมซับซ้อนเลย ...นอกจากนั้น Marriage without dating กับ Haeundae loversนั้นยังใช้โปรดิวเซอร์คนเดียวกัน ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าทั้งสองเรื่องจะมีกลยุทธ์ในการสร้างฉากฮา ๆ คล้าย ๆ กัน

 

 

นักแสดงเต็มที่กับบทบาท ไม่ห่วงสวย

ฮันกรูแม้จะมีผลงานสู่สายตาคอซีรีส์เกาหลีมาแล้วหลายเรื่อง เช่น Can we get married , One warm word, Scandal: A Shocking and wrongful incidentแต่เชื่อว่าเธอยังเป็นที่รู้จักในวงแคบ ๆ  ยังไม่ใช่นางเอกแถวหน้า อีกทั้ง Marriage without datingเป็นซีรีส์ของช่องเคเบิ้ลที่เธอไม่ต้องรับแรงกดดันเรื่องเรตติ้งมากเท่ากับซีรีส์ที่ฉายทางช่องยักษ์ใหญ่ นักแสดงจึงทุ่มเทให้กับบทบาทกันอย่างเต็มที่ชนิดไม่มีใครห่วงสวย นั่นจึงทำให้ฮันกรูถ่ายทอดบทแม่สาวผู้แสวงหารักแท้และปรารถนาจะแต่งงานซะเหลือเกินอย่างยัยจูจางมีได้รั่วและน่ารักสุด ๆ   ขณะที่ยอนวูจิน ซึ่งรับบทกงกีเท ศัลยแพทย์ฟอร์มจัด  รักสันโดษ แต่ต้องมาถูกยัยสาวลั๊ลลาอย่างจูจางมีกะเทาะเปลือกเสียจนหมดฟอร์ม จนเปลี่ยนเป็นคนละคนเชียว...

 

ยอนวูจินคงเคยทำให้คอซีรีส์หลายคน”เกลียด” ขี้หน้าเขาจากบทคุณชายในซีรีส์พีเรียดอย่าง Arang and The Magistrate และมีคนดูจำนวนไม่น้อยที่ทั้งเอ็นดูแกมหมั่นไส้เขาในบท”มักเน่” จากซีรีส์เรื่อง Ojakgyu brother

ทว่าบทหมอกงกีเทนั้นคือการพลิกบทบาทด้วยคาแรคเตอร์ที่แตกต่างออกไปจากซีรีส์ทุกเรื่องที่ยอนวูจินเคยแสดง  หลายคนที่ยังไม่ชอบยอนวูจิน  ถ้ามาพบกับหมอกงกีเทเข้ารับรองได้ว่าต้องติดบ่วงหมอเย็นชาคนนี้ทุกราย ... เชื่อซี !...ขนาดแฟน ๆ ของน้องจินวุนเองยังต้องออกปากว่า รักน้องจินวุนนะแต่ขอติ่งชูป้ายเชียร์คุณหมอกงนะ !...

 

อาจเพราะ “ความรัก” เหมือนวิตามินของชีวิตของคนเรา  แม้พลอตเกี่ยวกับเรื่องราวของความรักจะดูซ้ำซากไปบ้างเหมือนเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ในแง่มุมที่ต่างบ้าง ซ้ำบ้าง ใช้มุกเดิมบ้าง  แต่ตราบใดที่ร่างกายคนเรายังต้องการวิตามินที่ชื่อว่า”ความรัก” ซีรีส์แนวรัก ๆ ใคร่ ๆ ก็จะยังคงจะขายกันได้อีกนาน...

 

เรื่องโดย ราดหน้า 

ข้อมูลจาก    

 

http://www.popcornfor2.com หากนำไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วยค่ะ

http://www.popcornfor2.com

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X