เว็บไซต์ เอ็นทีวี ของรัสเซียรายงานว่า เกิดเหตุฆาตกรรมในเมืองนาฮอดกา ดินแดนปรีมอเรีย ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย เมื่อเช้าวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยนายปาเวล โปปอฟ อายุ 19 ปี บุกเข้าไปในโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง แล้วใช้มีดแทง น.ส.เซเนีย นักเรียนหญิง อายุ 15 ปี เสียชีวิตในห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียน ก่อนฆ่าตัวตายตาม เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุแล้วรุดไปตรวจสอบ ขณะที่โรงเรียนสั่งยกเลิกคาบเรียนและให้นักเรียนเดินทางกลับบ้าน

 ที่เกิดเหตุพบศพ 2 คน สภาพศพนักเรียนหญิงมีรอยมีดแทงตามร่างกาย 37 แผล ส่วนสภาพศพผู้ก่อเหตุมีรอยมีดแทงที่ลำคอ จากการสอบสวนเพื่อนร่วมชั้นเรียนทราบว่า เห็นนายโปปอฟวิ่งไล่ตาม น.ส.เซเนีย ขณะพักระหว่างคาบเรียนวิชาพลศึกษา แล้วเริ่มทำร้ายร่างกายแฟนสาวต่อหน้าเพื่อนๆ โดยครูประจำวิชาเข้ามาห้ามปรามทั้งสองคนแต่ถูกต่อยจมูกอย่างรุนแรง

 จากนั้น น.ส.เซเนียวิ่งหนีไปหลบซ่อนตัวในห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงเรียน นายโปปอฟก็วิ่งตามเข้าไปด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยายามสกัดกั้นหนุ่มเลือดเดือดไม่ให้เข้ามาทำร้ายนักเรียน แต่ถูกทำร่างกาย และต้านทานไม่อยู่ จนในที่สุดนายโปปอฟใช้มีดแทง น.ส.เซเนีย เสียชีวิตคาที่ ก่อนแทงคอตัวเองฆ่าตัวตายตามดังกล่าว

 จากการสอบสวน น.ส.อลิซาเบธ เพื่อนสนิทผู้ตายให้การว่า นายโปปอฟชอบทำร้าย น.ส.เซเนีย เป็นประจำ โดยเมื่อเห็นสูบบุหรี่ ผู้ตายบอกตนว่า เคยโดนแฟนเตะเพราะแอบสูบบุหรี่ ในวันเกิดเหตุ น.ส.เซเนียได้แอบสูบบุหรี่ใกล้โรงเรียน แฟนหนุ่มเห็นจึงวิ่งไล่ตามแฟนสาวจนเกิดเหตุฆาตกรรม ส่วนพ่อแม่ผู้ตายให้การว่า ลูกสาวตนตีตัวออกห่างจากแฟนหนุ่มในระยะหลัง จึงอาจเกิดความหึงหวงจนทำให้ลูกสาวตาย

 รายงานข่าวระบุว่า นายโปปอฟเป็นนายทหารที่เพิ่งปลดประจำการกองกำลังรบส่งทางอากาศและเป็นครูสอนคาราเต้ที่มีร่างกายแข็งแรง จึงไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยและคุณครูคนใดสามารถควบคุมผู้ก่อเหตุได้ และเคยมีเพศสัมพันธ์กับ น.ส.เซเนีย มาหลายครั้ง ตำรวจจึงแจ้งความดำเนินคดีฝ่ายรักษาความปลอดภัยโรงเรียนข้อหาประมาทเลินเล่อต่อไป เพราะปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาก่อเหตุฆาตกรรมในโรงเรียนได้

ที่มา  ข่าวสดออนไลน์