ศัลยกรรมเสริมความงามเป็นธุรกิจทำเงินของเกาหลีใต้อยู่ตอนนี้ แต่การไขว่คว้าหาความงามตามที่ฝันมิได้ลงเอยด้วยความสมหวังเสมอไป 

ที่กรุงโซล ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็หนีไม่พ้นป้ายโฆษณาชวนให้คนไปทำศัลยกรมเสริมสวย ชวนให้เชื่อว่าความงามนั้นอยู่แค่เอื้อม โดยเฉพาะที่แหล่งชอปปิ้งย่านกังนัม 

สตีเฟน อีวานส์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีที่กรุงโซลบอกว่า พ่อแม่เกาหลีใต้จำนวนมาก เชื่อว่าของขวัญที่มีค่าที่จะมอบให้กับลูกคือการผ่าตัดตาสองชั้นตามคำโฆษณาที่พบเห็นตามสถานีรถไฟ “ความงามช่วยเสริมสร้างพลังทางบวกที่เป็นพื้นฐานของความสุข” ซึ่งความสุขนี้รออยู่ข้างหน้าจากการทำศัลยกรรม ขณะที่ภาพที่ทางสถาบันเสริมความงามใช้ล่อใจให้คนมาใช้บริการล้วนเป็นภาพที่ผ่านการ “รีทัช” มาแล้วทั้งนั้น

แต่การผ่าตัดมิได้ลงเอยด้วยความสุขเสมอไป หลายคนเจอหมอที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นอาจเจอกับหมอเถื่อน บางรายหลังจากดมยาสลบแล้ว โดนเปลี่ยนหมอเอาดื้อ ๆ และต้องทนสภาพความเจ็บปวดหลังเกิดข้อผิดพลาด 

สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งของเกาหลีใต้กำลังพยายามกวดขันในเรื่องนี้ เพราะเกรงว่าชื่อเสียงด้านศัลยกรรมเกาหลีจะเสียหายเพราะน้ำมือของหมอที่ขาดคุณสมบัติเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม สตีเฟนชี้ว่าคงคุมได้ยากเพราะธุรกิจศัลยกรรมมีกำไรงอกงามเป็นกอบเป็นกำ ยกตัวอย่างเช่น ที่กรุงโซล การผ่าตัดทำตาซึ่งใช้เวลาเพียง 30 นาที ราคาประมาณ 50,000 บาท หรือผ่าตัดดึงทั้งหน้า ประมาณ 350,000 บาท เป็นต้น 

นสพ. ท้องถิ่นของเกาหลีใต้ รายงานว่า ลูกค้ารายใหญ่คือชาวจีน ซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของชาวต่างชาติที่เดินทางมาเสริมความงามในเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้ว หรือ กว่า 16,000 ราย นสพ. รายงานว่าบางคนรูปหน้าเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม ไม่เหมือนภาพในหนังสือเดินทาง 

แต่ก็มีหลายรายที่ผ่าแล้วแย่ไปกว่าเดิมทำให้เกิดเรื่องต้องขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องกัน อย่างกรณีอดีตนางงามเกาหลีใต้ที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกแต่ว่าเกิดอาการติดเชื้อ ตอนนี้ต้องทนทุกข์ทรมานกับหน้าอกที่เล็กข้างใหญ่ข้าง เธอโทษว่าเป็นความผิดพลาดในการผ่าตัดของหมอและไม่ยอมบอกว่าเธอไม่จำเป็นต้องผ่า อดีตนางงามยอมรับว่า การทำศัลยกรรมเหมือนยาเสพติด “หลังทำตา แล้วก็อยากทำจมูกต่อ” “ไม่มีหมอคนไหนที่จะบอกว่าคุณสวยอยู่แล้ว”


ที่มา  www.facebook.com/BBCThai