50 ไอเดียง่าย ๆ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
2012-07-25 16:42:50
Advertisement
คลิก!!!
happy



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

เคยมีคนบอกว่าร่างกายและจิตใจของเราเชื่อมถึงกัน ต่อให้เราป่วยหนัก ถ้ากำลังใจดี อาการของเราก็จะดีขึ้นได้ ในทางกลับกัน ถ้าเราเครียดมาก ๆ จากที่สุขภาพแข็งแรงดีก็จะกลายเป็นล้มป่วยได้ เพราะฉะนั้นขอแค่เพียงทั้งสุขภาพและอารมณ์ของเราดีแล้ว เราก็จะมีความสุข และเพื่อให้ทุกคนมีร่างกายที่แข็งแรงอารมณ์ดีตลอดเวลา วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำเอาไอเดียดี ๆ เพื่อเปลี่ยนมุมมองและรูปแบบการใช้ชีวิตมาให้ลองอ่านกันดู

1. ใส่เสื้อผ้าสีสด ๆ

แม้ว่าสีขาวดำจะใช้ได้ดีในทุกโอกาสก็ลองเปลี่ยนมาใส่สีสันสดใสอย่างสีชมพูหรือสีเหลืองดูบ้าง จะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมั่นใจขึ้นด้วย ผิดกับการใส่แต่สีขาวดำทุกวันที่ทำให้คุณดูเป็นคนไม่สนุกสนานและน่าเบื่อ

2. วิ่งวันละ 20 นาที

ไม่จำเป็นต้องออกไปวิ่งข้างนอก คุณก็สามารถวิ่งด้วยเครื่องวิ่งที่บ้านได้ แค่วันละ 20 นาทีก็สามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้หลายกิโลแคลอรี่แล้ว ที่สำคัญเวลาวิ่งก็ไม่ต้องไปจับราว ปล่อยมือไปตามสบายเลย จะทำให้คุณได้วิ่งเต็มที่มากขึ้น

3. วอร์มร่างกาย

ควรวอร์มร่างกายทุกครั้งก่อนออกกำลังกาย ร่างกายจะได้ไม่ต้องรับภาระหนักจนเกินไป เพียงแค่วิธีง่าย ๆ อย่างการเหวี่ยงแขนไปมาก็พอแล้ว

4. ยืนเล่นคอมพิวเตอร์

วิธีแก้อาการปวดหลังปวดไหล่ที่เกิดจากการนั่งเล่นคอมพิวเตอร์นาน ๆ นั้นแก้ได้ไม่ยาก เพียงแค่คุณวางคอมพิวเตอร์ให้สูงขึ้น แล้วเปลี่ยนจากนั่งเป็นยืนบ้างก็เพียงพอแล้ว หรือถ้าหากไม่สามารถยืนได้ เวลาที่รู้สึกเมื่อยก็ควรพัก ปิดคอมพิวเตอร์ แล้วลุกไปทำอย่างอื่นบ้าง แต่ถ้าผละจากหน้าจอไม่ได้จริง ๆ วิธีสุดท้ายคือเลือกนั่งบนสวิสบอลซึ่งช่วยในการออกกำลังกายไปในตัวแทนการนั่งเก้าอี้ทำงาน

5. ปั่นจักรยานไปเที่ยว

นอกจากจะได้ช่วยโลกลดมลภาวะแล้ว คุณยังได้ช่วยแก้ปัญหารถติด แถมยังได้ออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย

6. เดินขึ้นบันได

ถ้าวันไหนไม่รีบมาก เดินขึ้นบันไดดูบ้างก็ได้ จะได้ไม่ต้องไปต่อคิวรอขึ้นลิฟท์กับคนอื่น แล้วก็จะได้เป็นการฝึกตัวเองให้ออกกำลังกายวันละเล็กน้อย

7. จอดรถไกล ๆ บ้างก็ได้

ไม่จำเป็นต้องวนหาที่จอดรถหลายรอบเพื่อให้ได้ที่ใกล้ ๆ ยอมขับไปจอดไกล ๆ บ้างก็ได้ จะได้ไม่ต้องคอยแย่งที่กับคนอื่นจนเสียสุขภาพจิต แล้วยังได้เดินออกกำลังกายไปในตัวด้วย

8. เดินสบาย ๆ ดูบ้าง

แทนที่จะรีบร้อนวิ่งตลอดเวลา ลองเดินสบาย ๆ ดูบ้าง สำรวจบรรยากาศรอบข้าง สูดอากาศบริสุทธิ์อย่างที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำ แล้วคุณจะได้รู้ว่า ตลอดเวลาที่คุณลืมสนใจสิ่งรอบข้าง คุณพลาดอะไรไปบ้าง

9. หาเพื่อนออกกำลังกาย

คุณจะได้ไม่เหงาและรู้สึกสนุกกับการออกกำลังกายมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้คุณกับเพื่อนสนิทกันมากกว่าเดิมอีกด้วย ดีไม่ดี พอน้ำหนักลดด้วยกันทั้งคู่ จะได้มีเพื่อนไปช้อปปิ้งต่อ

10. ดื่มน้ำเชอร์รี่สด

เวลาที่ปวดเมื่อยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาจากร้านเสมอไป ลองรักษาด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการดื่มน้ำเชอร์รี่ดูบ้างก็ได้ เพราะนอกจากจะหวานอร่อยแล้ว สารแอนตี้ออกซิแดนท์ในน้ำเชอร์รี่ยังสามารถช่วยรักษาอาการปวดเมื่อยได้อีกด้วย

ทำอาหาร


11. ทำอาหารกินเองที่บ้าน

จะได้เป็นการพัฒนาฝีมือของตัวเองและประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย นอกจากนี้การทำอาหารกินเองยังช่วยให้คุณไดเอทได้มากขึ้น เพราะจะใส่แต่ส่วนผสมที่ไขมันน้อยอย่างไรก็ได้ตามใจชอบ ในขณะที่ร้านอาหารบางร้านไม่สามารถทำให้คุณได้

12. ลดของทอดซะ

ของทอดอมน้ำมันเป็นตัวการที่ทำให้อ้วน แถมบางร้านที่ใช้น้ำมันเก่ามาทอดใหม่เรื่อย ๆ ยังทำให้คุณเสียสุขภาพอีกด้วย ทางที่ดี หากอยากทานอะไรกรอบ ๆ ร้อน ๆ ก็ควรเลือกทานแบบที่ย่างหรืออบกรอบแทน

13. ทานผักปลอดสารพิษ

ยาฆ่าแมลงที่ใช้กันเป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่าที่คิด ทางที่ดีควรเลือกทานผักปลอดสารพิษไปเสียเลยดีกว่า หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ควรล้างน้ำหลาย ๆ รอบ จนกว่าจะมั่นใจว่าสะอาดแล้วจริง ๆ

14. ทานผลไม้สด

เลือกทานผลไม้สด ๆ แทนน้ำผลไม้ แล้วคุณจะได้สารอาหารมากกว่าแน่นอน เพราะน้ำผลไม้ที่คั้นแล้ววางทิ้งไว้จะทำให้วิตามินบางตัวเสียไปได้ และได้กากใยไม่เท่ากินสด ๆ นอกจากนี้ผลไม้สดยังทานแล้วอิ่มกว่าด้วยนะ

15. หันมาทานป๊อปคอร์น

ถ้าเปรี้ยวปากอยากทานขนมเค็ม ๆ กรอบ ๆ ก็หันมาเลือกทานป๊อปคอร์นแทนมันฝรั่งทอด จะช่วยให้คุณลดปริมาณแคลอรี่ที่กินเข้าไปได้เป็นเท่าตัว

16. ซอสมะเขือเทศก็อร่อยดี

ถ้าอดใจกินมันฝรั่งทอดไม่ได้จริง ๆ ก็กินคู่กับซอสมะเขือเทศแทนที่จะจุ่มชีสกิน อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณทานไขมันน้อยลง

17. องุ่นแช่แข็งอร่อยไม่แพ้ไอติม

ลองเปลี่ยนจากไอติมน้ำตาลเยอะ ๆ ที่ทำให้คุณอ้วนขึ้น มากินองุ่นแช่แข็งดู เพียงแค่เอาองุ่นแช่ทิ้งไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็นสัก 1 ชั่วโมง เท่านี้คุณก็จะได้ของหวานอร่อย ๆ ที่อ้วนน้อยกว่าไอติมทานแล้ว

18. ลดน้ำเชื่อม

แทนที่จะทานแพนเค้กราดน้ำเชื่อมเยิ้ม ๆ วางผลไม้สดรสหวานหน่อยอย่างเชอร์รี่ลงบนแพนเค้กแล้วค่อยทานจะดีกว่า นอกจากเชอร์รี่จะให้รสหวานไม่ต่างไปจากน้ำเชื่อม ยังช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกเยอะ

19. ทานข้าวซ้อมมือ

นำข้าวซ้อมมือมาหุงกินแทนข้าวขาว จะช่วยป้องกันคุณจากโรคเหน็บชาได้ นอกจากนี้ข้าวซ้อมมือก็ยังอร่อยไม่แพ้ข้าวขาวอีกด้วย

20. เลือกขนมปังโฮลวีท

เพราะขนมปังโฮลวีทมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์และกากใยอาหารที่ช่วยให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้น ทำให้เราดูดซับพลังงานส่วนเกินน้อยลง จึงดีกับสุขภาพร่างกายมากกว่า เราจึงควรหันมาทานขนมปังโฮลวีทกันให้มากขึ้น และนอกจากขนมปังแล้ว เส้นพาสต้าที่ทานก็ควรเลือกเป็นแบบโฮลวีทด้วย จะได้เป็นการช่วยในการลดน้ำหนักของคุณมากขึ้น


happy


21. พกข้าวกล่องไปทำงาน

การพกอาหารกลางวันไปทานเองจะช่วยให้คุณประหยัดเงินไปได้อีก และยังช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ดีขึ้นจากส่วนผสมที่คุณเลือกทานอีกด้วย

22. อย่าอดอาหาร

การลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารเป็นวิธีผิด ๆ เพราะคุณไม่มีทางอดไปได้ตลอดชีวิต สุดท้ายก็ต้องกลับมาอ้วนอีกอยู่ดี นอกจากนี้การอดอาหารยังทำให้คุณเหนื่อยเพลียไปทั้งวันอีกด้วย ทานเท่าที่ควรทานอย่างสม่ำเสมอจะดีกว่า

23. มายองเนสไม่ได้อร่อยที่สุดเสมอไป

ไม่จำเป็นต้องซื้อมายองเนสมาเก็บไว้ที่บ้านอีก เวลาอยากทานมายองเนสให้ใช้มัสตาร์ดแทน เพราะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ดีกว่า แถมยังไม่เลี่ยนอีกด้วย

24. อย่าทานเนื้อติดมัน

เบคอนถือเป็นของต้องห้ามสำหรับคนที่กำลังไดเอท แทนที่จะทานเนื้อติดมันที่มีไขมันสูงอย่างเนื้อหมูและเนื้อวัว ควรเปลี่ยนมาทานปลาและไก่แทน

25. กินช้า ๆ

ทานช้า ๆ ให้ได้รับรู้รสอาหารเต็มที่ จะเป็นการช่วยให้คุณอร่อยกับมื้อนั้นมากขึ้น แถมยังทำให้คุณอิ่มเร็วขึ้น จะได้ทานน้อยลงด้วย

26. ไข่ต้มแทนไข่ดาว

ถ้าปกติชอบทานข้าวกะเพราไก่กับไข่ดาวก็เปลี่ยนมาทานกับไข่ต้มดูบ้าง จะได้ไม่ต้องทานอาหารอมน้ำมันโดยไม่จำเป็น

27. เวลากินข้าวอย่าดูทีวี

เลือกทำทีละอย่าง ถ้ารายการโปรดของคุณกำลังฉายอยู่ก็รอให้มันจบแล้วค่อยไปกินที่โต๊ะอาหารเป็นเรื่องเป็นราว เพราะการทานอาหารหน้าจอทีวีจะทำให้คุณเพลินจนทานเยอะขึ้นโดยไม่รู้ตัว

28. ทานข้าวเช้าก่อนออกจากบ้าน

แทนที่จะกดเลื่อนเวลานาฬิกาปลุกออกไปเรื่อย ๆ ลุกออกจากเตียงทันทีแล้วไปหาอาหารเช้าง่าย ๆ ทานดีกว่า จะได้ช่วยให้คุณสดชื่นตื่นเต็มตามากขึ้น

29. ดื่มกาแฟดำ

หันมาดื่มกาแฟดำเข้ม ๆ แทนลาเต้หวาน ๆ จะช่วยให้คุณได้รสชาติความหอมของกาแฟมากขึ้น และยังทำให้คุณทานน้ำตาลน้อยลงอีกด้วย

30. เลือกใช้จานใบเล็ก ๆ

การใช้จานใบใหญ่จะทำให้เราทานมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว เปลี่ยนมาใช้จานใบเล็กขนาดสัก 8 - 10 นิ้วก็พอ

อาหารเพื่อสุขภาพ


31. เทขนมใส่ชาม

ไม่ว่าจะทานขนมขบเคี้ยวหรือซีเรียลก็อย่าทานในห่อหรือกล่องขนมเลย เทใส่ชามเพียงเล็กน้อยแล้วปิดปากถุงไว้ก่อน จะได้ทานเพียงวันละเล็กน้อย ไม่ใช่ทานจนหมด

32. ใช้ตะเกียบทาน

การใช้ตะเกียบคีบแทนการใช้ส้อมจิ้มจะทำให้คุณทานช้าลงและอิ่มเร็วขึ้น แถมยังได้บรรยากาศแบบเอเชียแท้ ๆ ดีด้วย

33. จ่ายตลาดตอนท้องอิ่ม

เวลาที่เราอิ่มท้องเห็นอะไรก็ไม่รู้สึกอยากทานเท่าเวลาปกติ ฉะนั้นควรออกไปซื้ออาหารมาเก็บในเวลานั้นจะได้ไม่ซื้อเยอะจนเกินตัว คุณจะได้มีแต่อาหารที่สดใหม่และทานน้อยลงด้วย

34. จำไว้ว่าความเสียดายเป็นบ่อเกิดของความอ้วน

เวลาที่รู้สึกอิ่มแล้วก็ควรเลิกกินทันที ไม่ควรนั่งกินต่อแล้วอ้างว่าเสียดายของ เพราะการทำแบบนั้นมีแต่จะทำให้คุณอ้วนขึ้นเปล่า ๆ ทางที่ดีควรทำอาหารเพียงมื้อเล็ก ๆ แต่แรก เพื่อไม่ให้ทานเยอะเกินไป

35. งดเครื่องดื่มชูกำลัง

เครื่องดื่มชูกำลังขวดหนึ่งมีน้ำตาลมากพอ ๆ กับโดนัทหกชิ้น ลองคิดดูสิว่าการดื่มเป็นประจำจะทำให้คุณอ้วนขึ้นแค่ไหน ดังนั้น เวลาที่รู้สึกเหนื่อยควรงีบหลักสัก 10 นาทีก็เพียงพอแล้ว

36. ขอบคุณทุกบทเรียนที่เข้ามา

ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือร้าย จงขอบคุณที่มันเข้ามาในชีวิต เพื่อเปลี่ยนให้คุณเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งมากขึ้น

37. หัดนั่งสมาธิ

เวลาเจอปัญหาหรือรู้สึกเครียด ไม่จำเป็นต้องหาช็อกโกแลตมาทานปลอบใจ ลองนั่งสมาธิดู ปล่อยวางความเครียดทิ้งไปซะ จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเยอะ

38. เล่นโยคะวันละนิด

สละเวลาเล่นเฟซบุ๊กของคุณมาเล่นโยคะอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง เพื่อให้รูปร่างดีขึ้น และช่วยให้กับคุณไม่ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์มากเกินไปด้วย

39. มีอะไรก็พูดออกมาตรง ๆ

แทนที่จะเก็บความโกรธไว้เรื่อย ๆ จนกว่ามันจะระเบิดแล้วพูดทีเดียว สู้พูดออกมาตามที่คิดแต่แรกดีกว่า คุณจะได้เข้าใจกันมากขึ้น และไม่ต้องเก็บเรื่องต่าง ๆ มาเครียดอยู่ฝ่ายเดียว

40. เขียนบันทึก

การเขียนบันทึกก็เป็นวิธีระบายความเครียดที่ดี แถมยังช่วยให้คุณมีความทรงจำเก่า ๆ ได้เก็บไว้อ่านในอนาคตอีกด้วย

สุขภาพดี


41. ตั้งเสียงนาฬิกาปลุกสนุก ๆ

เลือกเพลงตลก ๆ หรือเพลงสนุก ๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกดีมาใช้ จะได้รู้สึกว่าการตื่นเช้าไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อนัก จะลองเอาเพลงประกอบการ์ตูนตลก ๆ มาใช้ก็ไม่เลว

42. ทางเดียวกันไปด้วยกัน

เพื่อนร่วมทางจะช่วยให้การเดินทางน่าเบื่อน้อยลง แถมยังช่วยลดมลพิษกับปัญหารถติดอีกด้วย เพราะฉะนั้นลองหาเพื่อนสักคนนั่งรถไปด้วยกันน่าจะดี

43. เลิกถอนหายใจ

การถอนหายใจนอกจากจะไม่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นแล้ว ยังพาลให้คนรอบข้างพาลรู้สึกแย่ไปด้วยเปล่า ๆ ฉะนั้นเวลาที่รู้สึกเครียด สูดหายใจเข้าปอดช้า ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อนออกจะดีกว่า จะเป็นการช่วยให้คุณรู้สึกใจเย็นขึ้นด้วย

44. อ่านหนังสือก่อนนอน

การอ่านเป็นการช่วยฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง และช่วยทำให้คุณเป็นคนมีจินตนาการมากขึ้นด้วย ฝึกตัวเองให้อ่านหนังสืออย่างน้อยแค่วันละบทก่อนเข้านอน จะช่วยฝึกให้คุณเป็นคนรักการอ่านมากขึ้น

45. นอนให้เป็นเวลา

ตั้งนาฬิกาเตือนตัวเองให้เข้านอนเวลาเดิมทุกวัน การนอนเป็นเวลาจะช่วยให้คุณพักผ่อนได้เต็มที่มากขึ้น และยังช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับอีกด้วย

46. มีอะไรก็ปรึกษาเพื่อน

อย่าเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว ระบายให้เพื่อนที่ไว้ใจได้สักคนฟัง คุณจะได้สบายใจมากขึ้น และไม่รู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว แถมยังอาจได้คำแนะนำดี ๆ จากเพื่อนด้วย

47. ยิ้มบ่อย ๆ

การยิ้มแม้ในเวลาที่ไม่สบายใจจะช่วยให้คุณเป็นคนเข้มแข็งขึ้น เพราะเวลาที่คุณยิ้มและมองโลกในแง่ดี จะช่วยให้สิ่งดี ๆ เข้ามาหาคุณในที่สุด

48. รักตัวเองให้มาก

แทนที่จะโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ด้วยการต่อว่าตัวเองกับความผิดที่ผ่านมาแล้ว ลองชื่นชมข้อดีของตัวคุณบ้าง คุณจะได้รู้ว่า คุณก็มีค่าไม่แพ้ใคร ๆ บนโลกนี้

49. เลิกหาข้ออ้างให้กับตัวเอง

อย่าอ้างว่าทำไม่ได้ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ ไม่มีความล้มเหลวอะไรน่ากลัวเท่าการปล่อยเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลย

50. โทรหาเพื่อน ๆ บ้าง

คุณกดโทรศัพท์หาเพื่อนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ส่งข้อความให้น้อยลง แล้วโทรหาเพื่อนให้บ่อยขึ้น เพราะการโทรหากันนั้นทำให้รู้สึกอบอุ่นมีกำลังใจมากกว่าการส่งข้อความหลายเท่าตัว

ลองทำตามนี้ดู แล้วคุณจะได้รู้ว่า เพียงแค่ลองเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันและมุมมองความคิดเล็กน้อยเท่านี้ คุณก็สามารถมีความสุขในทุก ๆ วันได้แล้ว ^___^


ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X