3 หนุ่ม วงไทเทเนี่ยม “ขันเงิน-เดย์-เวย์” โร่แจ้งกองปราบถูกชาวเกาหลีแอบอ้างชื่อทำสัญญาจัดคอนเสิร์ตร่วมกับศิลปินเกาหลี หัวเสียถูกผู้เสียหายซึ่งเป็นสปอนเซอร์ทางเกาหลีโทร.มาโวยว่าจ่ายเงินมาให้ 4 ล้านแล้ว ทั้งที่ทางวงของตนยังไม่ได้สักบาท บอกอยากเตือนเพื่อนศิลปินให้ระวังจะได้ไม่โดนเหมือนพวกตน

ทำเอาหนุ่มๆ วงไทเทเนี่ยม “ขันเงิน เนื้อนวล”, “เดย์ จำรัส ทัศนละวาด” และ “เวย์ ปริญญา อินทชัย” หัวเสียกันเลยทีเดียว หลังถูกชาวเกาหลีแอบอ้างชื่อทำสัญญาจัดคอนเสิร์ตจนโดนผู้เสียหายโทร.มาโวยเอาเรื่อง ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (24 ก.ค.) ทั้ง 3 หนุ่ม พร้อมทนาย “น.ส.โกสุน ประสพเสาวลักษณ์” ก็เลยเดินทางไปแจ้งความกับกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับคู่กรณี ในข้อหาหมิ่นประมาทและนำเอาชื่อไปใช้ในทางมิชอบและปลอมแปลงเอกสาร พร้อมให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า…

ขันเงิน : “เมื่อประมาณเดือนกันยาของปีที่แล้ว มีคนเกาหลีมาเสนอโปรเจกต์ชื่อว่า The sky the limit hiphop เป็นคอนเสิร์ตที่รวมฮิปฮอปในประเทศไทยและของเกาหลี เขาก็จะเลือกศิลปินที่เด่นและดังที่สุดในเกาหลีทางด้านฮิปฮอปมา ก็มาคุยกับเราก็คุยกันคร่าวๆ ว่าเขาอยากจะจัดที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี อย่างนั้นอย่างนี้ มาติดต่อเราเพื่อจะขอความคิดเห็น เหมือนจะมาชวนเราช่วยเขาจัด หลังจากนั้นเขาก็หายไปเลย แต่ก็ยังโทร.ติดต่อกันกับผู้จัดการของผมอยู่”

“เรามีการนัดเจอกันครั้งนึงแล้ว แต่ครั้งสุดท้ายเขาพาเพื่อนมาด้วย 2-3 คน ก็มาคุยกันว่าตกลงเขาจะจัดที่ไบเทค บางนา นะ จะมีใครมาบ้าง เราก็โอเค แต่ยังไม่ได้ตกลงเซ็นสัญญาอะไรกัน เขาก็หายไป จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก็มีบริษัทเกาหลีติดต่อมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้เสียหาย คิดว่าเขาคงเป็นสปอนเซอร์ เขาก็โทร.มาตามหาคนๆ นี้ที่พยายามติดต่อเราไปเล่น มาถามหาผู้จัดการเรา เราก็งงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาก็ถามว่าทำไมเขาให้เงินมาแล้วแต่เราไม่จัดคอนเสิร์ตนี้ ทำไมมันไม่เกิดขึ้น เราก็งงว่ามันคือคอนเสิร์ตอะไร เขาก็เลยบอกชื่อคอนเสิร์ตมา เราก็อ้าว...ยังไม่มีใครติดต่อเรากลับมาเลย เขาเลยส่งเอกสารมาให้ดูว่ามีการทำสัญญาเกิดขึ้น กับบริษัท ไทเทฯ กับบริษัทที่จัดงานนี้ ลงชื่อมาทุกอย่าง เราชื่อว่าเป็นเท็จหมด เราไม่เคยเซ็นสัญญา”

“ในสัญญาที่เขาส่งมาได้มีการเซ็นอย่างเรียบร้อย มีระบุค่าตัวของเราคือ 3 ล้าน ซึ่งค่าตัวของเราไม่ได้แพงขนาดนั้น แล้วก็โอนเงินค่าสถานที่มาอีก 1 ล้าน รวมแล้วเป็น 4 ล้านบาท ซึ่งเราก็งงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราก็มาตามขอเอกสารเขาดู ซึ่งพอสืบแล้วมันมีบริษัทนี้จริงๆ ไหมที่ตั้งอยู่ในเมืองไทย ซึ่งมันก็ไม่มี ที่โอนเงินอะไรต่างๆ ไปที่ไบเทค ให้กับไทเทฯก็ไม่มี เราก็เลยอยากจะบอกให้ทุกคนทราบ แล้วก็เตือนทุกคนด้วยว่าเรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ต้องระวังกันให้ดี ปกติเองพวกเราก็รู้จักกับศิลปินเกาหลีบ้างครับ ที่เขาเอามาเสนอเหมือนเป็นโปรเจ็กต์ตำนานฮิพฮอพที่เกาหลี มันเลยทำให้เราสนใจว่าถ้าทำกับคนนี้เราก็อยากจะทำ”

“วันนี้เราก็เลยมาแจ้งความในข้อหา หมิ่นประมาทและนำเอาชื่อไปใช้ในทางมิชอบและปลอมแปลงเอกสาร ก็รอให้พี่ตำรวจเขาช่วยสืบกัน เพราะคนที่มาติดต่อเราเขาคงไม่ใช้ชื่อจริงๆ ของเขา บริษัทนี้ก็ไม่มีอยู่จริง เราเลยไม่รู้ว่าตัวตนของเขาคือใครกันแน่ คนที่มาติดต่อชื่อไมเคิลเป็นคนเกาหลีใส่สูทมาดูดี ดูน่าเชื่อถือ สัญญาหรืออะไรต่างๆ เราไม่เคยเซ็นหรือตกลงกันเลย เขาปลอมขึ้นมาหมด ในเอกสารมีลายเซ็นของผู้จัดการเรา แต่มันไม่ใช่ลายเซ็นของเขาจริงๆ แล้วก็ไม่มีประทับตราบริษัทเราด้วย ฉะนั้นมันก็ไม่ใช่สัญญาจริงที่มันมาจากเรา”

“ถามว่าความคาดหวังว่าจะตามตัวเขาได้รึเปล่า เราก็รอทางพี่ตำรวจแหละครับ เพราะเราไม่รู้จริงๆ ว่าเขาเป็นใคร เราเพียงแต่มาแจ้งความเพื่อให้ทุกคนทราบว่ามีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับเรา แล้วก็อยากจะเตือนสติทุกคนให้ระวังด้วย ไม่อยากให้ใครต้องมาโดนแบบพวกเราอีก ส่วนเราเองตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าทางสปอนเซอร์ที่เขาเสียหายเขาจะมาเอาเรื่องอะไรกับเรารึเปล่า เราก็บริสุทธิ์ใจก็เลยแจ้งความไว้ก่อน ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ติดต่ออะไรกลับมานะครับ ด้วยภาษาอังกฤษเขาไม่ค่อยแข็งแรง เราเลยให้เขาส่งอีเมลกลับมา พอเราเห็นเอกสารทั้งหมดเราก็ตกใจ ว่ามันมีเรื่องว่าเขาจ่ายเงินมาให้เราเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริง”

โอดเรื่องนี้ทำให้วงไทเทเนี่ยมเสื่อมเสียชื่อเสียง
“ถ้าเขาเอาชื่อเราไปทำอย่างนี้ แล้วมีสปอนเซอร์เสียหาย แล้วต่อไปถ้าเราไปทำงานที่เกาหลีชื่อเสียงเราก็อาจจะเสียด้วย เหมือนเขาให้เงินเรามาแล้ว แล้วเราไม่ยอมไปเล่นคอนเสิร์ต แล้วเราก็ไม่ยอมจัดงานคอนเสิร์ตขึ้นมา แต่ตอนนี้มันยังไม่มีผลกระทบอะไร พอมีคนจะมาเคลมเรา เราก็ตกใจ ฉะนั้นเราจึงต้องไหวตัวก่อนนิดนึง”

http://www.manager.co.th