ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุการณ์แบงก์พันหล่นเกลื่อนกลางเมืองเชียงใหม่ โดยมีการออกประกาศทางสื่อต่างๆ ให้นำเงินมาคืนมิฉะนั้นจะดำเนินคดี โดยพบว่า ผู้ที่ทำเงินหล่นคือ นายวุฒิพงษ์ บุญตา อายุ 25 ปี ซึ่งได้แจ้งว่า เบิกเงิน 40,000 บาท เป็นเงินที่ตนเก็บไว้และแม่ของตนที่ทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นก็ได้ส่งมาให้ตนด้วย โดยใส่เงินไว้ที่กระเป๋าคาดเอว แต่ระหว่างนำเงินจะไปซื้อรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า SR ได้ลืมรูดซิปกระเป๋าทำให้เงินปลิวเกลื่อนถนนและมีคนถ่ายภาพไว้ได้ จนนำเข้ามาแจ้งความนั้น

ล่าสุด สภ.ช้างเผือก ที่รับแจ้งความกรณีดังกล่าว ได้เรียกนายวุฒิพงษ์ เข้ามาอีกครั้ง เนื่องจากตำรวจกองเมืองเชียงใหม่ ได้สงสัยว่า นายวุฒิพงษ์ เป็นผู้ต้องหาคดีครอบครองยาบ้า ซึ่งมีการออกหมายจับไว้ก่อนหน้านี้ คดีอาญาที่ 336/2555 ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคนเดียวกันจริง จึงประสานเพื่อทำการจับกุมตัว 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พบพิรุธเนื่องจาก ผู้เสียหายไม่ยอมเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกรณีเงินหาย ทั้งที่มีการออกข่าวทางโซเชี่ยลต่างๆไปแล้ว แต่ผู้เสียหายกลับเข้าแจ้งความเมื่อเวลา 17.00 น. และให้ข้อมูลวกไปวนมา เมื่อเป็นข่าวทางสื่อต่างๆ ตำรวจกองเมืองได้เห็นภาพของ นายวุฒิพงษ์ จึงได้ประสานมาเพื่อขอรูปพรรณสัณฐาน และวางแผนให้ นายวุฒิพงษ์ เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมในเช้าวันนี้(23 มี.ค.) จนทำให้ทราบว่า เป็นผู้ต้องหาคนเดียวกันกับคดียาเสพติดที่มีหมายจับอยู่ 

ภาพเมื่อวันที่ 22 มี.ค. พลเมืองดีนำเงินมาคืน

พ.ต.ท.นิติพันธ์ สังขกร สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ได้เปิดเผยว่า พฤติการณ์ของนายพุฒิพงศ์ ที่ต้องคดียาเสพติดและถูกออกหมายจับกุมนั้น โดยเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สายติดต่อซื้อยาบ้าจากนายพุฒิพงศ์ บุญตา จำนวน 20 เม็ด รารคา 2,800 บาท นัดหมายส่งมอบกันที่หน้าโรงเรียนพิมานเด็ก ถ.ป่าแดด ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อถึงเวลานัดนายพุฒิพงศ์ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาดดยมีนางสาวศุภรัตน์ สุริยา ซ้อนท้ายนำมา ยาบ้ามาจำหน่ายให้กับสายของตำรวจ และส่งมอบยาบ้าและธนบัตรล่อซื้อให้แก่กัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรำรวจซี่งแอบซุ่มดูอยู่จะเข้าทำการจับกุม นายพุฒพงศ์ และนางสาวศุภรัตน์ สุริยา ได้พากันขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ทางตำรวจได้ยึดของกลางยาบ้าไว้และได้รวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ และได้ขอหมายจับกุมนายพุฒิพงศ์ กับนางสาวศุภรัตน์ โดยศาลก็ได้อนุมัติหมายจับดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.สิทธิพร บัวสุก รอง ผกก.สส.สภ.ช้างเผือกเชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาคือนายพุฒิพงศ์ ถือว่า ดวงซวยซ้ำสอง เงินตกร่วงกลางถนน และช่วงที่มีข่าวออกไปและทางตำรวจก็ได้ประสานขอให้มาแจ้งความเพื่อจะเอาผิดกับผู้ที่เก็บเงินไป ปรากฏว่า นายพุฒิพงศ์ นั้นมีอาการพิรุธต่าง ๆ ไม่ยอมมาแจ้งความ จนกระทั่งเย็น ถึงได้มาและพยายามจะบ่ายเบี่ยง ลุกลีลุกรน ตลอดเวลา มีพิรุธ และให้การว่าจะเอาเงินไปวางมัดจำรถจักรยานยนต์ เพื่อนำมารถมาตบแต่งแล้วมาขายต่อ

อย่างไรก็ตาม คดีเงินตกและมีคนเก็บก็เป็นอีกคดี หนึ่ง ที่คนเก็บได้ต้องนำมาคืน เพราะเจ้าของไม่ได้สละสิทธิ์ ถือว่าเป็นคดีเข้าข่ายลักทรัพย์ ส่วนเรื่องคดียาเสพติดตามหมายจับก็อีกคดีหนึ่งที่ตำรวจต้องควบคุมตัวนายพุฒิพงศ์ ไว้ และจะได้ตรวจสอบขยายผลเรื่องเงิน 50,000 กว่าบาท ที่นายพุฒิพงศ์ ทำตกนั้น เอาไปทำอะไรกันแน่ เพื่อให้ความจริงกระจาางต่อไป ส่วนเพื่อนของนายพุฒิพงศ์ ที่ถูกอ้างว่าร่วมหุ้นกันนั้น ยังไม่พบว่ามีส่วนพัวพัน กับยาเสพติด

ที่มา  ข่าวสดออนไลน์