ขำๆ กับแอนตี้-ฮีโร่ฝั่งฮอลลีวู้ด และสนุกกับชีวิตต้องสู้ของนักวาดการ์ตูนที่ญี่ปุ่น
2016-02-21 16:07:35
Advertisement
คลิก!!!

Deadpool เป็นหนังที่สร้างจากการ์ตูนยอดฮิตค่าย Marvel ที่ถูกจับตามองตั้งแต่ยังไม่เข้าฉาย โปสเตอร์โฆษณาแทนที่จะเป็นรูปซูเปอร์ฮีโรทำท่าขึงขังปกป้องจักรวาล กลับเป็นรูปเดดพูลในชุดที่มีส่วนคล้ายชุดสไปเดอร์แมนคลุมหน้าคลุมตา ยึดบิดตัวทำท่าแอ๊บแบ๊วเอามือจุ๊ปาก มีคำโปรยว่า “Bad Ass, Smart Ass, Great Ass”

Deadpool

เดดพูลเป็นซูเปอร์ฮีโร่สายเกรียนที่ฉีกแนวซูเปอร์ฮีโรอื่นๆ มีทัศนคติและบุคลิกไม่เหมือนฮีโรใดๆ ขี้เล่น หยาบคาย จ้อไม่หยุดปาก แถมยังชอบหันมาคุยกับผู้ชม แต่ทักษะการต่อสู้ของเขาไม่น้อยหน้าใคร ยิงปืน ฟันดาบได้คล่องแคล่ว การต่อสู้ออกแนวโหดและใช้กลยุทธ์เพี้ยนๆ มีพลังในการเยียวยาตัวเอง แผลสมานไว หากอวัยวะขาดก็สามารถงอกใหม่ได้ เดดพูลต่อสู้กับเหล่าร้าย ไม่ใช่เพื่อพิทักษ์โลก แต่เพื่อล้างแค้นให้ตัวเอง และช่วยชีวิตคนรัก การพูดลามก ส่อเสียด ประกอบกับฉากแอคชั่นสุดโหด และเลิฟซีนโจ่งแจ้ง ทำให้เดดพูลเป็นหนังเรท 15+ ซึ่งไม่เหมาะกับเด็กๆ และถูกห้ามฉายที่ประเทศจีน

ก่อนเป็นเดดพูล เขาเป็นอดีตทหารรับจ้างชื่อ เวด วิลสัน (ไรอัน เรย์โนลด์) มีคนรักที่กำลังจะแต่งงานกันคือ เวเนสซา (โมเรนา แมคคาริน) แต่หมอตรวจพบว่าเวดเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย เมื่อมีคนเสนอให้เขาเข้าโครงการทดลองที่จะทำให้หายจากเป็นมะเร็งและมอบพลังพิเศษให้เขา เวดตกลง แต่การแปรสภาพโหดร้ายมาก เวดถูกอแจกซ์ (เอ็ด สเครน) และแองเจิล ดัสต์ ( จีนา คาราโน อดีตแชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสม ระดับนานาชาติ) ทรมานและกลายสภาพเป็นคนอัปลักษณ์สุดๆ เมื่อหลุดจากห้องทดลองในสภาพเดดพูล เขาจึงตามแก้แค้น

หนังเรื่องนี้ได้ทิม มิลเลอร์ เป็นผู้กำกับ เรย์โนลด์นอกจากจะแสดงนำแล้ว ยังเป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง ทั้งสองสร้างเดดพูลให้เป็นแอนตี้-ฮีโรที่เพี้ยน พูดหยาบเสียดสีและชอบจิกกัด มีมุขจิกกัดฮีโรในหนังอื่นๆ ตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ X-Men, Avenger แม้แต่ Green Lantern ที่เรย์โนลด์เคยแสดงก็ถูกนำมาล้อ (เช่น เวดยืนยันว่าชุดฮีโร่ของเขาต้องไม่ใช่สีเขียว) หลายคนชอบหนังเรื่องนี้เพราะมาแนวแปลก มุขตลกมีตั้งแต่ไตเติ้ลเปิดเรื่องจนจบท้ายเครดิต ชื่อนักแสดงที่ปรกติจะเป็นชื่อจริง ก็ถูกยำและใส่บุคลิกดาราแทน เป็นหนังที่ตั้งใจทำให้ตลกแบบถ่อยๆ มีฉากต่อสู้ที่รุนแรงหลายฉาก เสียบผู้ร้ายด้วยดาบคู่ห้อยกลางอากาศ ยิงกันจนสมองกระจาย

ไรอัน เรย์โนลด์ เป็นเดดพูลที่เหมือนหลุดออกมาจาก Comic ยียวน กวนโอ๊ย แถมลงทุนเปลือยจนเห็น….แกว่งไปแกว่งมาในฉากต่อสู้กับอแจกซ์ สิ่งดีที่สุดของหนังในความรู้สึกผู้วิจารณ์คือเพลงประกอบ ซึ่งมีตั้งแต่เพลงยุค 80s เช่น Angel of The Morning, Careless Whisper จนถึงเพลงฮิปฮอป ที่ใส่เข้ามาอย่างสนุกสนาน ถูกที่ถูกเวลา บางซีนพอเดดพูลจะต่อสู้กับผู้ร้ายก็เปรยว่า “เพลงมา” ทันใดนั้นเพลงก็ขึ้นทันที เป็นมุขขำๆ ที่ช่วยให้หนังมีอรรถรส

เราจัดเดดพูลเป็นหนังตลกไร้สาระ แต่ถ้าอยากดูฮีโรสุดเกรียนแนวแปลกก็ลองไปดู

Bakuman

คงต้องยอมรับว่าเด็กรุ่นใหม่ของไทยโตขึ้นมากับการ์ตูนญี่ปุ่น อ่านกันตั้งแต่เป็นเด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ อายุสามสิบกว่าปีก็ยังชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่เลย การ์ตูนดังหลายเรื่องถูกนำมาสร้างเป็นอะนิเมะเช่น ดรากอนบอล อาราเล่ บางเรื่องก็ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ดัง เช่นเรื่อง Death Note ซึ่งเป็นผลงานการเขียนของ สิกุมิ โอบะ และทาเคชิ โอบาตะ สองนักเขียนการ์ตูนที่เขียนเรื่อง BAKUMAN เช่นกัน

หนัง BAKUMAN แม้ไม่ใช่แฟนการ์ตูนก็ดูสนุก เป็นเรื่องของนักเรียนชายชั้นมัธยมสองคน โมริทากะ มาชิโระ (ทาเครุ ชาโต) และ อาคิโตะ ทาคากิ (ริวโนะ สุเกะ คามิกิ) ที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียนการ์ตูนมืออาชีพอันดับหนึ่งของนิตยสารโชเนมจัมป์ นิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มาชิโระรับผิดชอบการเขียนการ์ตูน โดยมีแรงผลักดันที่สำคัญคือความรัก ถ้าเขาประสบความสำเร็จ มิโอะ อาซิกิ (ทานะ โคมัตสึ) เด็กหญิงที่เขาหลงรักจะยอมแต่งงานกับเขา ส่วนทาคากิจะเป็นคนคิดเนื้อเรื่อง ทั้งสองมีคู่แข่งคือเอย์จิ นิซึมะ (ซาตะ โซเมะทะนิ) นักเขียนการ์ตูนอัจฉริยะชั้นแนวหน้าของโซเนมจัมป์ ที่อายุมากกว่ามาชิโระแค่หนึ่งปี ดูแล้วอดรู้สึกไม่ได้ว่า ตัวละครมาชิโระและทาคากิอาจจะเป็นชีวิตก่อนการเข้าสู่วงการของโอบะและโอบาตะก็เป็นได้ เพราะในชีวิตจริง โอบะก็มีหน้าที่เขียนเรื่อง ในขณะที่โอบาตะเป็นผู้วาดรูปการ์ตูน

BAKUMAN เป็นหนังที่เจาะเบื้องหลังวงการหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างละเอียด การเป็นสุดยอดนักเขียนการ์ตูนไม่ใช่เรื่องง่าย นักล่าฝันทั้งสองทำงานอย่างมุ่งมั่น จากเริ่มแรกที่บรรณาธิการวิจารณ์ว่า การ์ตูนพวกเขาไม่มีความเป็นเอกลักษณ์ เขาสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา เอาชนะตัวเองและพยายามเข้าใจคนอ่าน เพราะโซเนมจัมป์มีการสร้างแบบสำรวจความนิยมการ์ตูนแต่ละเรื่อง และใช้ผลโหวตจากผู้อ่านเป็นเครื่องชี้ชะตาว่าการ์ตูนเรื่องไหนจะถูกตัดจบหรือหลุดจากวงโคจร ซึ่งถ้าได้อยู่ต่อก็ต้องรักษามาตรฐานไว้ให้ได้ เป็นระบบสุดโหดและกดดันนักเขียนการ์ตูนเป็นอย่างมาก

หนังเรื่องนี้เปี่ยมไปด้วยพลังและสร้างแรงบันดาลใจอย่างชวนให้ติดตาม เป็นหนังที่ไม่มีผู้ร้าย นิซึมะแม้จะเป็นคู่แข่งแต่ก็ไม่ใช่ผู้ร้าย ยามมาชิโระล้มเจ็บ นิซึมะก็เหมือนอยากเข้ามาช่วย หนังพูดถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อนนักเขียนที่เหมือนเป็นคู่แข่งกัน ชัยชนะที่ได้มาด้วยความบากบั่นอุตสาหะ และความรักของวัยรุ่นที่มีความยั้งคิด จะติดต่อกันแค่ทางเมล์จนกว่าทั้งสองคนจะทำความฝันให้เป็นจริง มุขนี้น่ารักนะเพราะทั้งคู่ยังเป็นแค่เด็กนักเรียนมัธยมเท่านั้น

นักแสดงหลักทุกคนแสดงได้ดี นางเอกน่ารัก ชอบ Visual Effect ตอนมาชิโระและนิซึมะปะทะกันในการเขียนการ์ตูน ทำได้ดี นักแสดงทั้งสองยืนอยู่บนภาพการ์ตูน ต่อสู้กันโดยใช้ปากกาเขียนภาพ สาดน้ำหมึกกระจายบนภาพการ์ตูน เป็นจินตนาการที่สร้างสรรค์และเท่มาก

ถ้าใครชอบการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่องนี้ไม่น่าพลาด

 

ที่มา  มติชนออนไลน์

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X