ความแปรปรวนที่โหยหา คนกรุงเฮเมื่อ’หนาว’มาอีกระลอก ‘มาฆะบูชา’น้ำเค็มหนุนสูง
2016-02-18 17:04:23
Advertisement
คลิก!!!

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบแบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ) พบว่าเวลานี้อากาศในประเทศไทยค่อนข้างจะแปรปรวนสูง มีบริเวณความกดอากาศสูง 2 ลูกที่มีอิทธิพลต่อประเทศไทย โดยลูกหนึ่ง เข้ามามีอิทธิพลต่อพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และกำลังจะถอยออกไป โดยบริเวณความกดอากาศสูงลูกนี้ เคลื่อนที่มาจากทะเลจีนใต้ ในขณะเดียวกัน กำลังจะมีบริเวณความกดอากาศสูงลูกใหม่ จากทิเบตแผ่เข้ามาในประเทศไทยอีกลูก โดยจะเริ่มแผ่เข้ามาในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ และจะเริ่มมีอิทธิพลเต็มที่ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ โดยจะอยู่นานไปถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์

“การแผ่อิทธิพลของหย่อมความกดอากาศสูงลูกนี้ คราวนี้ดูเหมือนจะเข้ามาในประเทศไทยลึกกว่าระลอกที่เข้ามาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ส่งผลให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร มีอากาศหนาวเย็นอีกระลอก โดยอุณหภูมิในตอนเช้าของกรุงเทพมหานคร น่าจะอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส หลังจากนั้น วันที่ 23 กุมภาพันธ์ อิทธิพลดังกล่าวจะเริ่มอ่อนกำลังลง และในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ก็ยังมีแนวโน้มว่า น่าจะมีบริเวณความกดอากาศสูงลูกใหม่เข้ามาอีกระลอก แต่ยังไม่ชัดเจนมากนัก ต้องติดตามตรวจสอบต่อไป

ผู้อำนวยการ สสนก. กล่าวว่า เรื่องลมหนาวที่เกิดขึ้นยังไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับภาวะน้ำทะเลหนุนสูงในวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์นี้ เพราะนั่นหมายถึงจะต้องใช้น้ำที่มีอยู่ไม่มากนัก ไปผลักดันน้ำเค็ม เพื่อไม่ให้น้ำเค็มเข้ามาในระบบน้ำประปา โดยพบว่าในช่วงเวลาดังกล่าว บริเวณอ่าวไทย ฝั่งบางปะกง จะมีคลื่นลมค่อนข้างแรง อาจจะถึงขั้นมีสตอร์มเซิร์จเกิดขึ้น ซึ่งในภาพรวมแล้ว เวลานี้กรมชลประทานได้เตรียมน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค และสำหรับผลักดันน้ำเค็ม ประมาณ 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ด้วยกัน ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวต้องบริหารจัดการเป็นอย่างดี เพื่อให้ใช้ได้อย่างเพียงพอ

วันเดียวกัน นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) แถลงข่าวว่า กปน.มีจุดเฝ้าระวังปัญหาน้ำเค็มที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำไหลผ่านวันละประมาณ 90 ลบ.ม.ต่อวินาที โดย กปน.สูบมาใช้เพื่อการผลิตน้ำประปา 50 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งยังมีปริมาณเพียงพอต่อการไล่น้ำเค็ม อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันมาฆบูชา ต้องเฝ้าระวังน้ำเค็มจากสถานการณ์น้ำขึ้น-น้ำลง เนื่องจากเป็นข้างขึ้น-ข้างแรม แต่ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กปน.สามารถบริหารจัดการได้ ไม่กระทบต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน

“ทั้งนี้ ช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำเค็ม กปน.จะหยุดการสูบน้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระะยา เพื่อไม่ให้กระทบต่อการผลิตน้ำ โดยได้เพิ่มการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำจากแม่น้ำแม่กลองและคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ลดการผลิตน้ำประปาจากแม่น้ำเจ้าพระยาร้อยละ 10 หรือจาก 4.5 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เป็น 4.1 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน พร้อมเพิ่มการผลิตน้ำจากฝั่งแม่น้ำแม่กลองเป็น 1.7 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน จากเดิมประมาณ 1.6 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และจากคลองมหาสวัสดิ์ เพิ่มจาก 1.6 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เป็น 2.4 ล้านลบ.ม.ต่อวัน และในขณะนี้ก็ได้ลดการจ่ายน้ำในช่วงเวลา 23.00-05.00 น. และช่วงกลางวันเป็นบางเวลา เพื่อประหยัดน้ำดิบในการผลิต ซึ่งการลดการจ่ายน้ำจะพิจารณาตามช่วงเวลาไม่ให้กระทบต่อการใช้น้ำของประชาชน

 

ที่มา  มติชนออนไลน์

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X