ทรงผมบอกนิสัยได้จริงหรือ!? (Hairworld)

          Individual in the Flow by Matrix

          เทรนด์ฮอตในซีซั่นนี้ Individual in the Flow Matrix Trend 2010 หมายถึงการเปลี่ยน Setting Style ของหนุ่มสาวออฟฟิศในเมืองให้นำสมัยไม่ตกเทรนด์ โดยเทรนด์ผมนี้เป็นเทรนด์ผมมาจากอิตาลีและฝรั่งเศส คงความเป็นสาวออฟฟิศที่อยากสวยซ่อนเปรี้ยวเล็กน้อย และยังเหมาะกับสาวๆ ที่ทำงานเสร็จแล้วจะออกไปท่องราตรีในตอนกลางคืนอีกด้วย เรียกได้ว่าทรงเดียวคุ้มตลอดวันทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น

          Individual in the Flow แบ่งออกเป็น

          The Curl Unbound ลอนผมเซ็กซี่แนวใหม่หรูหรา คลื่นลอนอันเร่าร้อนถูกสร้างเป็นลอนหลวม ทิ้งตัวอย่างอิสระให้ลุคโรแมนติก

          The Pixie Remix ฤดูกาลแห่งรูปทรงเรขาคณิต ถูกนิยามใหม่ด้วยภาพรอยต่อแห่งชิ้นส่วน และความต่างของรูปทรง เพื่อที่สุดแห่งการจัดทรงรอบทิศทาง ผมตัดสั้นที่เน้นเท็กซ์เจอร์ด้วย ผมหน้าม้า

          The Radial Motion ดีไซน์โค้งมนเร้าอารมณ์ ผมสไลซ์ไล่ระดับ เลเยอร์บางเบาเพิ่มรายละเอียดด้วยการไดร์ผมปลายสะบัดออก ขับเน้นดวงตาให้เด่นชัดด้วยหน้าม้าทึบ

          The Triple Disconnect ผมสไลซ์สั้นสีแดงเร่าร้อน ขับเน้นรูปหน้าด้วยผมม้าปัดข้างและผมสั้นรูปวงรีแบบไม่ตายตัว โทนสีเสมือนดั่งไฟลุกโชน จากการผสานเฉดสีแดงทับทิมและแดงม่วง

          The Metropolitan เส้นบรรจบแห่งอดีตและปัจจุบัน เก็บผมด้านข้างให้เรียบ เน้นให้เห็นเท็กซ์เจอร์ด้านบน รูปทรงที่เรียวแบบโค้งมนเข้ากันได้ดีกับสไตล์ เซ็ททรงแบบเรียบหรูดูดีในฟีลผู้ชายคลาสสิก

          อาจารย์โจอี้-พิทักษ์แดน ดาขุนทด Education Manager, Matrix, Thailand บอกว่า "เทรนด์ที่แมทริกซ์ได้นำเอาความเป็นเรียลริตี้ของคนปัจจุบันนำมาปรับปรุงแต่งเพื่อให้เทรนด์นี้เข้ากับทุกๆ คน ทุกๆ รูปแบบ ที่สำคัญทรงผมยังบ่งบอกเรื่องของนิสัยด้วย เป็นคนแบบไหน เป็นคนเปิดเผยแค่ไหน มั่นใจในตัวเองแค่ไหน เช่น ความเปรี้ยวของหน้าม้า บางคนบอกว่าคนที่ตัดหน้าม้าเขามีความมั่นใจในการตัดหน้าม้าสั้นเท่านี้ เขามีความมั่นใจขนาดไหน บางคนเกิดมาไม่เคยตัดหน้าม้าเลย เราต้องช่วยเขา บอกเขาว่าคุณต้องลอง คุณต้องเป็นคนเปิดเผยนะ ที่สำคัญทรงผมยังบอกถึงเรื่องโหงวเฮ้งอีกด้วย"

          ในเรื่องของโหงวเฮ้งนั้นก็มีส่วนสำคัญมากสำหรับคนไทยเชื้อสายจีน หรือแม้แต่คนในยุคก่อนๆ ก็จะมีความเชื่อเรื่องโหงวเฮ้งกันอยู่มาตราบจนถึงปัจจุบัน เช่น คนจีนในยุคเก่าๆ เชื่อว่าหากสาวใดมีหน้าผากโหนกนูนก็จะถือว่าเป็นคนวาสนาดี มีอันจะกินไปในภายภาคหน้า จึงจะเห็นได้จากที่สาว ๆ หลายคนก็จะมีการตัดผมแบบที่เปิดหน้าผากเพื่อรับความเฮงหรือความร่ำรวย หรือมีการไปดึงขนที่รกรุงรังที่บริเวณหน้าผากที่เรามักเรียกกันว่าลูกผมหรือไรผมก็ตามทีส่วนใหญ่จะเห็นได้ตามเยาวราชแถว ๆ ตลาดเก่า ซึ่งหาดูได้ไม่ยากนัก โดยใช้ด้ายเป็นอุปกรณ์ ผสมผสานกับการใช้ฟันและมือทั้งสองข้างทำงานผสมผสานกันอย่างคล่องแคล่ว เพื่อทำให้ทั้งบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากมีความเนียนผ่องใสในพริบตา

          นั่นก็เป็นการปรับแต่ทรงผมเพื่อโหงวเฮ้ง หรือแม้แต่มีการตัดผม เพื่อให้เป็นสามเหลี่ยมบริเวณหน้าผากเพื่อให้ดูโหงวเฮ้งดี หรือที่เราเรียกว่าตัดแต่งให้หน้าผากเป็นชาม เพราะเชื่อว่าการที่ชามที่หน้าผากส่วนใหญ่จะมีแต่คนมีชาติมีตระกูลเท่านั้น และบางคนก็เสริมดวงด้วยการนำทรงผมเข้ามาช่วยบดบังใบหน้าอันบวมโต ด้วยการตัดเปลี่ยนทรงผมที่มาบังบริเวณกามเพื่อให้ดูหน้าเรียวและเซ็กซี่มากขึ้น

          หรือแม้แต่คนที่มีรูปหน้าที่ผิดปกติก็ยังสามารถสรรหาทรงผมที่เหมาะกับรูปหน้านั้น ๆ เพื่อเสริมดวงตัวเองให้ดีขึ้น (ค้นคว้าจากหนังสือโหงวเฮ้งตำราศาสตร์โหงวเฮ้งของจีนครับ) แต่ปัจจุบันไม่ได้คำนึงถึงโหงวเฮ้งแต่อย่างเดียวเท่านั้น ยังคำนึงถึงความสวยอย่างลงตัวและตามเทรนด์ ตามแฟชั่นในแต่ละยุคแต่ละสมัยให้ดูกลมกลืนกับการแต่งตัว เรียกได้ว่าต้องสวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าก็ว่าได้"

          นอกจากนั้นแล้วผมขอแนะนำว่าความลงตัวเหมาะเจาะของเสื้อผ้า หน้า ผม จำเป็นต้องมีทิศทางที่เป็นไปในแนวเดียวกัน ผสมผสานกันได้อย่างพอดี จึงจะเรียกได้ว่าไม่หลุดเทรนด์

          Special Thanks : อาจารย์โจอี้-พิทักษ์แดน ดาขุนทด Education Manager Matrix Thailand
 

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม