บีบีซีแฉตำรวจไทยยอมรับหลักฐานDNAคดีเกาะเต่าหายไปแล้ว

บีบีซีรายงานว่า หลักฐานดีเอ็นเอเป็นหลักฐานสำคัญในการพิจารณาคดีแรงงานต่างด้าว 2 คนในคดีฆาตกรรมชาวอังกฤษสองคนได้แก่ นายเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปีและนางสาวฮันนาห์ วิเทอริดจ์ วัย 23 ปีบนเกาะเต่าปีที่แล้ว และทนายจำเลยต้องการให้ตรวจหลักฐานดีเอ็นเอซ้ำอีกรอบ แต่ขณะนี้ไม่สามารถนำมาตรวจซ้ำได้เพราะมันสูญหายไปแล้ว 

นายซอ ลิน และนายไว เพียว 2 ผู้ต้องสงสัยที่ปฏิเสธว่าไม่ได้ลงมือฆาตกรรม ข่มขืนและปล้นชิงทรัพย์เหยื่อถูกนำตัวขึ้นศาลวันที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดี และผู้พิพากษาจะตัดสินว่าหลักฐานดีเอ็นเอเหล่านั้นผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระหรือไม่ ขณะที่ตำรวจอ้างว่า ดีเอ็นเอที่รวบรวมและตรวจสอบในห้องปฏิบัติการของตำรวจบ่งชี้ถึงการเชื่อมโยงผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนกับศพนางสาววิเทอริดจ์ 

แต่พันตำรวจโท สมศักดิ์ หนูรอด ซึ่งนำการสืบสวนในระยะแรก ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า ตัวอย่างดีเอ็นเอบางส่วนไม่มีอยู่แล้ว และในตัวอย่างที่หายไป รวมถึงตัวอย่างเส้นผมที่พบในมือของนางสาววิเทอริดจ์ เขาบอกด้วยว่า ไม่มีอะไรเหลือ หลักฐานหายไปหมดตั้งแต่ตรวจครั้งแรกแล้ว นอกจากนี้สิ่งที่ตำรวจจะมอบให้ศาลมีเพียงเอกสารของผลการตรวจสอบ 

โจนาห์ ฟิเชอร์ ผู้สื่อข่าวของบีบีซี รายงานจากเกาะสมุยว่า หลักฐานดีเอ็นเอดูเหมือนจะเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักที่สุดในคดีที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและสับสน แต่ตอนนี้ไม่สามารถนำไปตรวจสอบซ้ำอย่างอิสระได้แล้ว ข่าวนี้ยิ่งสนับสนุนคำโต้แย้งของผู้คนบางส่วนที่เชื่อว่าเหล่าผู้ถูกกล่าวหาถูกจัดฉากโดยเจ้าหน้าที่ไทย 

ศพนายมิลเลอร์และนางสาววิเทอริดจ์ถูกพบในสภาพเปลือย ห่างกันไม่กี่เมตรบนชายหาดเกาะเต่าเมื่อวันที่ 15 กันยายน ส่วนนายซอ ลิน และนายไว เพียว วัย 22 ปีถูกจับในอีกหลายสัปดาห์ต่อมา ตอนแรกทั้งสองสารภาพว่ากระทำผิดแต่ต่อมากลับคำให้การ และอ้างว่าถูกจัดฉาก ส่วนคำพิพากษาของศาลคาดว่าจะต้องรอไปอย่างน้อยจนถึงเดือนตุลาคม