"3 มหาเศรษฐี" ที่ร่ำรวยที่สุดของจีน เกิดปี "มังกร" ปีแห่งความมงคลตามความเชื่อชาวจีน!!
2015-06-23 11:48:35
Advertisement
คลิก!!!

 

"3 มหาเศรษฐี" ที่ร่ำรวยที่สุดของจีนเกิดในปี "มังกร" ปีที่ชาวจีนเชื่อว่าเป็นปีแห่ง "มหามงคล" 

 
 

วันนี้ (23 มิ.ย.58) เว็บไซต์ต่างประเทศ shanghaiist  เผยรายงานของบริษัทที่ปรึกษามูลค่าทรัพย์สิน ว่า  "3 มหาเศรษฐี" ที่ร่ำรวยที่สุดของจีน พวกเขาทั้งหมดเกิดในปีมหามงคลตามความเชื่อของชาวจีนอย่างปี "มังกร" และจะให้เห็นว่า 10 อันดับมหาเศรษฐีชาวจีนซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมดนั้นไม่มีใครเกิดในปี "แกะ" ปีที่ชาวจีนเชื่อว่า ผู้ที่เกิดในปีแกะจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำและมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวในการธุรกิจ

 

"เจ้าสัวหลี่กาชิง" ( Li Ka-shing) 1 ใน 10 อันดับมหาเศรษฐีชาวจีน นักธุรกิจฮ่องกง ธุรกิจของเขามีมูลค่าสุทธิกว่า  30.6 ล้านดอลลาห์สหรัฐ อาณาจักรธุรกิจของเจ้าสัวหลี่ ครอบคลุมกว่าหลายอุตสากรรม อาทิธนาคาร,บริษัทรับเหมาก่อสร้าง,อสังหาริมทรัพย์,ธุรกิจเอ้าเล็ท,โรงแรม,อิเล็คทรอนิกส์ และอีกหลายธุรกิจอื่นๆมากมาย เจ้าสัวหลี่กาชิง ปัจจุบันอายุ 86 ปี เกิดในปี 1928 ซึ่งตรงกับราศีมหามงคลและความเชื่อของชาวจีน คือปี "มังกร" นั่นเอง

 

คนที่สองคือนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากฮ่องกง "เจ้าสัวลีเชากี" (Lee Shau Kee) ซึ่งเกิดปีเดียวกับ เจ้าสัวหลี่  "เจ้าสัวลีเชากี" เป็นเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของบริษัท เฮนเดอร์สัน แลนด์ เดเวล็อปเมนท์(Henderson Land Development) คาดว่ามีมูลค่ากว่า 20.6 ล้านดอลลาห์สหรัฐ

 

และใน 1 ใน 10 อันดับที่จะไม่พูดถึงเขาคนนี้คงไม่ได้ เพราะเขาคือเจ้าพ่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซ "แจ็ค หม่า" ธุรกิจของเขามีมูลค่าสุทธิกว่า 26.5 ล้านดอลลาห์สหรัฐ "แจ็ค หม่า" เกิดในปี 1964  ทำให้เขาเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดของทำเนียบมหาเศรษฐีจีนที่เกิดในปี "มังกร"

 

ทั้งนี้ ทั้งหมดอาจเป็นเรื่องบังเอิญ เกี่ยวกับความเชื่อของผู้ที่เกิดในปีมหามงคล "มังกร" นี้ก็ได้  เพราะนอกจากมหาเศรษฐีชาวจีนรวมถึงความเชื่อว่าผู้ที่เกิดปีแกะมักล้มเหลวในธุรกิจและเป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำ แต่คงจะเหมารวมทั้งหมดไม่ได้ เพราะ "บิลเกตส์" มหาเศรษฐีวัย 59 ปีชาวอเมริกัน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ยังคงครองความเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2558 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ โดยมีสินทรัพย์สุทธิตามประเมิน 79,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.5 ล้านล้านบาท

 

ขอขอบคุณที่มา  http://www.tnews.co.th/

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X